สมโบร์ไพรกุก แหล่งโบราณคดีอิศาณปุระโบราณ
สมโบร์ไพรกุก (Isanapura) (เขมร: សំបូរព្រៃគុហ៍, Sâmbor Prey Kŭh [sɑmboː prəj kuʔ]) เป็นแหล่งโบราณคดีในประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ในจังหวัดกำปงธม ห่างจากเมืองหลวงของจังหวัด 30 กิโลเมตร (19 ไมล์) ทางตอนเหนือ 176 กิโลเมตร (109 ไมล์) ทางตะวันออกของนครวัด และ 206 กิโลเมตร (128 ไมล์) ทางตอนเหนือของกรุงพนมเปญ กลุ่มโบราณสถาน ที่ปัจจุบันอยู่ในสภาพปรักหักพังนี้ ย้อนกลับไปถึงอาณาจักรเจนละก่อนยุคนครวัด (ปลายศตวรรษที่ 6 ถึงศตวรรษที่ 9) ก่อตั้งโดยพระเจ้าอีศานวรมันที่ 1 ในฐานะศาสนสถานกลางและเมืองหลวง เดิมเรียกว่า "อีศาณปุระ" (เขมร: ឦសានបុរៈ, Eisanbŏreă [ʔəjsaːnɓoreaʔ]) ในปี พ.ศ. 2560 สมโบร์ไพรกุก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก
ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของทะเลสาบโตนเลสาบ ใกล้กับแม่น้ำสตึงแสน ส่วนกลางของสมโบร์ไพรกุกแบ่งออกเป็นสามกลุ่มหลัก แต่ละกลุ่มมีผังเป็นสี่เหลี่ยมล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐ โครงสร้างในพื้นที่โบราณคดีทั้งหมดสร้างขึ้นในช่วงเวลาต่างกัน: กลุ่มทางใต้และเหนือ (ศตวรรษที่ 7) โดยพระเจ้าอีศานวรมันที่ 1 ผู้ซึ่งถือว่าเป็นผู้ก่อตั้งเมือง และกลุ่มกลาง (ในภายหลัง) อาคารของสมโบร์ไพรกุก มีลักษณะเฉพาะของยุคก่อนนครวัด โดยมีผังภายนอกที่เรียบง่าย วัสดุหลักที่ใช้คืออิฐ แต่มีการใช้งานศิลาทรายในบางโครงสร้างด้วย คุณลักษณะทางสถาปัตยกรรมรวมถึงปราสาทจำนวนมาก หอคอยแปดเหลี่ยม ศิวลึงค์และโยนี สระน้ำ และรูปปั้นสิงโต สมโบร์ไพรกุกตั้งอยู่ท่ามกลางป่ากึ่งเขตร้อนที่เจริญเต็มที่ โดยมีพืชพรรณใต้ดินค่อนข้างจำกัด บริเวณนี้เคยมีทุ่นระเบิดและอาจยังมีวัตถุระเบิดที่ยังไม่ถูกเก็บกู้
กลุ่มโบราณสถาน
พื้นที่ทั้งหมดแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม C (Central) หรือกลาง กลุ่ม N (North) หรือเหนือ และกลุ่ม S (South) หรือใต้ มีการล้อมรอบด้วยกำแพงสองชั้นครอบคลุมพื้นที่ 1,000 เอเคอร์ ซึ่งมีวัดฮินดูจำนวน 150 แห่งที่ปัจจุบันส่วนใหญ่อยู่ในสภาพปรักหักพัง
- **กลุ่ม N:** ปราสาทสมโบร์ (ប្រាសាទសំបូរ) ถือเป็นปราสาทหลัก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 อุทิศให้กับพระศิวะในภาคหนึ่งที่เรียกว่า "คัมภีเรศวร"
- **กลุ่ม S:** ปราสาทยายปวน (ប្រាសាទយាយព័ន្ធ) มีศาสนสถาน 22 แห่ง สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 7 (600 - 635 AD) ในรัชสมัยพระเจ้าอีศานวรมันที่ 1 เพื่ออุทิศแด่พระศิวะ
- **กลุ่ม C:** ประกอบด้วยศาสนสถานหลัก หรือปราสาทบูราม (ប្រាសាទបុរាម) มีรูปปั้นสิงโต จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ปราสาทสิงโต" (Prasat Tao) นับเป็นกลุ่มที่ใหม่ที่สุด สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 โครงสร้างสำคัญอื่น ๆ รวมถึงหออาศรมอิศย์ และศาสนสถานอีก 18 แห่งที่ปัจจุบันอยู่ในสภาพทรุดโทรม
ประวัติศาสตร์
ศตวรรษที่ 7 พระเจ้าอีศานวรมันที่ 1 ทรงครองราชย์เหนืออาณาจักรเจนละระหว่างปี ค.ศ. 616 - 637 และทรงเลือกอีศานปุระ เป็นเมืองหลวงของพระองค์ มีจารึกที่ค้นพบในบริเวณนี้ซึ่งมีอายุย้อนหลังไปถึง 13 กันยายน ค.ศ. 627 พระองค์ ยังเป็นที่รู้จักจากการส่งคณะทูต ไปยังราชสำนักราชวงศ์สุยในประเทศจีน (616-617)
กองทัพเจนละ ขยายอาณาเขตไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา หลังจากสิ้นสุดรัชสมัยยงฮุ่ย (永徽) ของจีน (31 มกราคม 656) โดยก่อนหน้านี้ (638/39) บางแคว้นในภูมิภาคดังกล่าว เคยส่งบรรณาการให้จีน จารึกจากสมัยพระเจ้าอีศานวรมันที่ 1 อ้างว่าพระองค์คือ "พระเจ้าแผ่นดินทั้งหลาย ผู้ครองสุวรรณภูมิ" มีนักวิชาการชาวกัมพูชา จากมหาวิทยาลัยพนมเปญเสนอว่า จารึกดังกล่าว เป็นหลักฐานว่า สุวรรณภูมิคืออาณาจักรขอมโบราณ
กษัตริย์ที่สำคัญพระองค์สุดท้ายของอีศานปุระ คือพระเจ้าไชยวรมันที่ 1 เมื่อพระองค์สวรรคต อาณาจักรเกิดความวุ่นวาย จนแตกออกเป็นหลายแคว้น และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ นั่นคือนครวัด มีบางข้อสันนิษฐานว่า สมโบร์ไพรกุก อาจเคยเป็นเมืองหลวงของพระเจ้าไชยวรมันที่ 2
ศตวรรษที่ 20 หลังจากการรัฐประหารโดยลอน นอล ต่อเจ้าชายนโรดม สีหนุ ในปี ค.ศ. 1970 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ริชาร์ด นิกสัน ได้สั่งให้มีการทิ้งระเบิดในกัมพูชา เพื่อต่อสู้กับกองกำลังกัมพูชาคอมมิวนิสต์ (เขมรแดง) และขัดขวางอิทธิพลของเวียดนามเหนือ พื้นที่โบราณคดี ถูกโจมตีโดยเครื่องบินสหรัฐฯ ทำให้เกิดหลุมระเบิดใกล้วัดหลายแห่ง ขณะที่กองโจร ฝังกับระเบิดไว้ทั่วบริเวณ ซึ่งถูกเก็บกู้จนหมดในปี 2008 สมโบร์ไพรกุก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ของยูเนสโก เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2017
ศาสนาทางการ
ศาสนาหลักในเมืองสมโบร์ไพรกุก คือไศวนิกาย หนึ่งในสี่ศาสนาดั้งเดิมของอินเดีย ซึ่งในภายหลัง ถูกรวมอยู่ภายใต้แนวคิดศาสนาฮินดู โดยจักรวรรดิอังกฤษ และชนชั้นนำชาวอินเดีย ที่ได้รับการศึกษาแบบตะวันตก ศาสนานี้ บูชาพระศิวะ ในฐานะพระเจ้าและองค์สูงสุด โดยมีสัญลักษณ์แทนคือศิวลึงค์ (ลึงคะ) และโยนี (สัญลักษณ์แห่งพลังสร้างสรรค์ ของพระแม่ศักติ)
อาณาจักรเจนละ (ราว ค.ศ. 550 - 800) นับถือไศวนิกายเป็นหลัก ผสมผสานกับศาสนาพุทธ และลัทธิบรรพบุรุษ ในวัดของสมโบร์ไพรกุก ยังสามารถพบศิลาจารึกภาษาสันสกฤต และภาษาเขมร ที่กล่าวถึงทั้งพระศิวะและเทพเจ้าท้องถิ่น รวมถึงแท่นบูชาศิวลึงค์หลายแห่ง
อ้างอิงจาก:
https://shorturl.asia/HoJaP
https://shorturl.asia/I10do
https://shorturl.asia/4VfXn








