โบท็อกกรามช่วยอะไร ก่อนฉีดโบลดกรามมีข้อควรรู้อะไรบ้าง?
โบท็อกกราม เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าบาน หน้าเหลี่ยม หรือกรามใหญ่ให้เล็กลงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีรูปหน้าเรียวกระชับ ดูเล็กลง โดยไม่ต้องผ่าตัด
ใครที่มีปัญหากรามใหญ่ หน้าบาน หน้าเหลี่ยม หรือดูไม่สมส่วน และต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับแต่ไม่อยากเผชิญความเจ็บปวดจากการผ่าตัด การฉีดโบท็อกกรามนับเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์และช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เพราะนอกจากไม่ต้องผ่าตัดแล้ว ยังให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจนโดยไม่ต้องพักฟื้น บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกเรื่องควรรู้และไขข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดกราม พร้อมแนะนำข้อควรระวังหลังฉีดโบท็อกกราม เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจสำหรับใครที่กำลังสนใจทำหัตถการนี้กัน!
โบท็อกกรามคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร?
โบท็อกกราม คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum เข้าไปในกล้ามเนื้อบริเวณกราม เพื่อช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้ขนาดของกล้ามเนื้อเล็กลง และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยอย่างมีมิติ
การฉีดโบท็อกกรามเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ทั้งยังสามารถช่วยให้กรอบหน้าและสันกรามดูคมชัดขึ้น โดยโบท็อกจะออกฤทธิ์ยับยั้งการส่งสัญญาณจากระบบประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อไม่หดตัวจนเกินไป จึงช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผลลัพธ์และระยะเวลาของการฉีดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ยี่ห้อโบท็อกและการดูแลตัวเองหลังการฉีด
โบท็อกกรามช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าฉีดโบท็อกลดกราม ช่วยอะไรได้บ้าง? การทำ Botox กราม หรือฉีดลดกรามด้วยโบท็อก หลัก ๆ แล้วจะช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับกรามและใบหน้า ดังต่อไปนี้
- ลดขนาดกราม: เหมาะสำหรับผู้ที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ช่วยปรับให้ใบหน้าดูเล็กลงและเรียวขึ้น
- ปรับรูปหน้าให้วีไลน์: ช่วยสร้างกรอบหน้าให้คมชัด ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
- กระชับกรอบหน้า: ทำให้ใบหน้าดูสมส่วนและกระชับ
- แก้ปัญหาใบหน้าบาน: ช่วยลดความกว้างของใบหน้าที่เกิดจากกล้ามเนื้อกราม
- ปรับสมดุลกราม: เหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามสองฝั่งไม่เท่ากัน
- ลดอาการนอนกัดฟัน: ลดแรงหดตัวของกล้ามเนื้อกรามที่มากเกินไป ช่วยบรรเทาอาการนอนกัดฟัน
ฉีดโบท็อกกรามเจ็บไหม ทำยังไงให้เจ็บน้อยลง?
การฉีดโบท็อกลดกรามหรือฉีดโบท็อกหน้าเรียวนั้นอาจรู้สึกเจ็บหรือตึงในบริเวณที่ฉีดเป็นปกติ แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บกว่าการฉีดโบท็อกบริเวณอื่นมากนัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแต่ละคลินิกจะมีวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บระหว่างทำหัตถการให้ ไม่ว่าจะเป็นการแปะยาชาก่อนฉีด ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ หรือการประคบเย็นระหว่างฉีดหน้าเพื่อลดการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่ฉีด ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเจ็บแล้ว ยังทำให้ตัวยาไม่กระจายเป็นวงกว้างเกินกว่าจุดที่ต้องการอีกด้วย
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีวิธีช่วยบรรเทาความเจ็บในการทำฉีดโบท็อกกราม แต่คนเราสามารถทนความเจ็บปวดได้ไม่เท่ากัน ดังนั้นบางคนอาจยังมีความรู้สึกตึง ๆ ในระหว่างทำหัตถการได้
ฉีดโบท็อกกรามกี่วันจึงจะเห็นผลชัดเจน?
อีกหนึ่งข้อสงสัยสำหรับใครหลายคนคือโบท็อกกรามต้องใช้เวลากี่วันจึงจะเห็นผล? ปกติแล้วหลังจากฉีดโบท็อกกรามไปแล้ว จะเริ่มเห็นผลประมาณ 2 สัปดาห์ โดยกล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลง เมื่อกัดฟันแล้วเนื้อกรามไม่เด้ง และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเต็มที่ในระยะ 2-3 เดือน ทั้งนี้ ผลลัพธ์จากการฉีดโบกรามหรือฉีดหน้าเรียวนั้นบางคนอาจลดมาก ในขณะที่บางคนกรามลดน้อย ซึ่งนอกจากจะเกิดจากร่างกายของแต่ละคนแล้ว ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกด้วยเช่นกัน
หลังฉีดโบท็อกกราม ผลลัพธ์อยู่นานได้นานมากแค่ไหน?
ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม? ผลลัพธ์หลังการฉีดโบท็อกลดกรามโดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อโบท็อกที่ใช้, ปริมาณยา, เทคนิคการฉีด หรือการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล โดยหลังจากโบท็อกหมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อกรามจะค่อย ๆ กลับมาทำงานและขยายขนาดเหมือนเดิม สำหรับใครที่ต้องการคงผลลัพธ์ของโบท็อกไว้ ควรเข้ารับการฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือนตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ไม่ควรฉีดบ่อยเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการดื้อโบท็อก
และเพื่อให้โบท็อกกรามอยู่ได้นานมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้โบท็อกสลายเร็ว เช่น การสัมผัสความร้อนจัดอย่างซาวน่าหรืออยู่ใกล้เตาความร้อนสูง การดื่มแอลกอฮอล์ หรือรับประทานอาหารหมักดอง นอกจากนี้ ยังควรงดอาหารเหนียวหรือเคี้ยวยาก เพราะจะไปกระตุ้นกล้ามเนื้อกรามบ่อย ๆ ทำให้กรามกลับมาใหญ่เร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง
ข้อควรระวังหลังฉีดโบท็อกกราม มีอะไรบ้าง?
หลังจากการฉีดโบท็อกลดกราม เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ควรปฏิบัติตามข้อควรระวังดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การซาวน่า หรือการออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากความร้อนและการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้โบท็อกสลายเร็วขึ้น
- งดนอนราบหรือนอนตะแคง ในช่วง 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อป้องกันการกระจายของโบท็อกไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อกและทำให้สลายเร็วขึ้น
- งดอาหารหมักดองและอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ เพราะอาหารเหล่านี้อาจกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและทำให้โบท็อกสลายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่เหนียวหรือแข็ง เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อกรามและช่วยยืดอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อก
โบท็อก ตัวช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วน ดูเรียวเล็กลงยิ่งขึ้น
การฉีดโบท็อกกรามเป็นหัตถการที่ช่วยลดขนาดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่หรือหน้าบานโดยไม่ต้องผ่าตัด โบท็อกจะออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้เล็กลงได้ และเห็นผลชัดเจนใน 2-3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงความร้อน การเคี้ยวอาหารแข็ง ๆ การดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด หรือพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจทำให้โบท็อกสลายเร็วขึ้น เพื่อยืดอายุผลลัพธ์ให้ยาวนานที่สุด
![](https://us-fbcloud.net/hottopic/data/1101/1101390.x44fao1pivtm.n2.webp)
![](https://us-fbcloud.net/hottopic/data/1101/1101260.x4186jk507r.n2.webp)
![](https://us-fbcloud.net/hottopic/data/1101/1101394.x44fqv1ma1a3.n2.webp)
![](https://us-fbcloud.net/hottopic/data/1101/1101495.x45atyfmv7c.n2.webp)
![](https://us-fbcloud.net/hottopic/data/1101/1101342.x433hgyty8d.n2.webp)
![](https://us-fbcloud.net/hottopic/data/1101/1101435.x44pvj145g0t.s2.webp)