ฉีดโบลดริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า เหมาะกับใคร?

ฉีดโบลดริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า เหมาะกับใคร?

การฉีดโบลดริ้วรอย เป็นหัตถการที่ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย (Prejuvenation) และย้อนวัยผิว (Rejuvenation) รวมถึงช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยที่มีอยู่ได้ดี การฉีดโบลดริ้วรอย ตั้งแต่เริ่มมีริ้วรอย ช่วยยับยั้งการขยับใบหน้า ทำให้ไม่เกิดรอยพับ หรือย่นฝังลึก ดังนั้น การทำตั้งแต่เริ่มต้นจะได้ผลดีกว่าการรอให้ริ้วรอยลึกแล้วมาหาทางแก้ไขค่ะ

ฉีดโบลดริ้วรอย คืออะไร?

การฉีดโบลดริ้วรอย คือ การใช้สารสกัดจากแบคทีเรียที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว ช่วยลดการขยับของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ที่ทำให้เกิดรอยพับและริ้วรอยลึก โดยเฉพาะบริเวณที่เราขยับใบหน้าเป็นประจำ เช่น หางตา ระหว่างคิ้ว และหน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึง และลดการเกิดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฉีดโบลดริ้วรอย มีหลักการทำงานอย่างไร?

การฉีดโบลดริ้วรอย ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย ร่องลึก โดยสารจากการฉีดโบลดริ้วรอย จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทในบริเวณที่ฉีด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยเหี่ยวย่นจะถูกคลายออก และป้องกันการเกิดรอยพับผิวใหม่เมื่อขยับแสดงสีหน้า

ริ้วรอยมีประเภท?

ริ้วรอยบนใบหน้ามี 2 ลักษณะหลัก ๆ คือ:

• ริ้วรอยร่องตื้น: ริ้วรอยที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน อยู่ในชั้นหนังกำพร้า ผิวหนังชั้นบนสุด มีลักษณะเป็นเส้นริ้วบาง ๆ
• ริ้วรอยร่องลึก: ริ้วรอยที่เกิดจากโครงสร้างผิวเสื่อมลงจากการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ มีลักษณะลึกลงไปถึงผิวหนังแท้ ทำให้ฟื้นฟูกลับมาเหมือนวัยเด็กยากขึ้น

ฉีดโบลดริ้วรอย อันตรายไหม?

การฉีดโบลดริ้วรอยไม่อันตราย หากใช้โบลดริ้วรอยของแท้ และได้มาตรฐาน พร้อมฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ  โดยแพทย์จะคำนวณปริมาณยูนิต และตำแหน่งที่เหมาะสม ฉีดโบลดริ้วรอยจะไม่ไหลไปยังจุดอื่น และจะสลายหมดตามระยะเวลาเฉลี่ย 3 เดือนถึง 1 ปี

ฉีดโบลดริ้วรอย เหมาะกับใคร?

การฉีดโบลดริ้วรอย เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยหรืออายุ 25 ปีขึ้นไป เพราะหลังอายุ 25 ปี การผลิตคอลลาเจนเริ่มลดลง ทำให้ผิวเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น การฉีดโบลดริ้วรอย ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอย ตั้งแต่เริ่มต้นได้ดี

ฉีดโบลดริ้วรอย ฉีดบริเวณใดได้บ้าง?

การฉีดโบลดริ้วรอย สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า ตามปัญหาผิวที่พบ:

• ฉีดโบหน้าผาก: ช่วยลดรอยย่นจากการแสดงสีหน้า ทำให้หน้าผากดูเรียบขึ้นและป้องกันการเกิดร่องลึก
• ฉีดโบหางตา/ตีนกา: ลดริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ดูอ่อนเยาว์และสดใส
• ฉีดโบระหว่างคิ้ว: คลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยขมวดคิ้ว ช่วยให้หน้าดูผ่อนคลาย
• ฉีดโบลิฟกรอบหน้า: ช่วยยกกระชับกรอบหน้าให้ดูเด็กขึ้นและลดความหย่อนคล้อย
• ฉีดโบร่องแก้ม: แก้ปัญหาร่องแก้มได้บางส่วน แต่ต้องใช้ฟิลเลอร์ร่วมเพื่อผลลัพธ์ที่ธรรมชาติ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawinclinic.com/botox/wrinkles-botox

ฉีดโบลดริ้วรอย กี่วันเห็นผล?

ฉีดโบลดริ้วรอย เริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 3-4 วัน โดยจะรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีดและขยับกล้ามเนื้อยากขึ้น ส่วนผลเต็มที่จะเห็นใน 3-4 สัปดาห์ และจะคงผลลัพธ์ 3 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฉีดโบลดริ้วรอย และการดูแลหลังการฉีด

ฉีดโบลดริ้วรอย มีข้อดี-ข้อจำกัดอะไรบ้าง?

ข้อดีของการฉีดโบลดริ้วรอย:

• ช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่แสดงสีหน้าบ่อย ๆ ลดการเกิดริ้วรอยใหม่
• ช่วยคลี่รอยย่นเก่า ๆ ให้จางลง
• ป้องกันการเกิดริ้วรอยร่องลึกในอนาคต

ข้อจำกัดของการฉีดโบลดริ้วรอย:

• ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุกจุดได้ เช่น ร่องแก้มที่อาจต้องใช้ฟิลเลอร์หรือหัตถการอื่นร่วม
• การฉีดในบางจุดอาจทำให้มุมปากไม่ยกขึ้นได้หากใช้ปริมาณมากเกินไป

เตรียมตัวก่อนฉีดโบลดริ้วรอย

• เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด มีใบจดทะเบียน
• ตรวจสอบแพทย์ที่ทำการฉีดโบลดริ้วรอยผ่านเว็บไซต์แพทยสภา
• แพทย์ต้องประเมินปัญหาของคุณอย่างตรงจุด
• อุปกรณ์การแพทย์มีความสะอาด 
• ตรวจสอบว่าการฉีดโบลดริ้วรอยเป็นของแท้
• การฉีดโบลดริ้วรอยต้องเปิดขวดใหม่ ให้แพทย์ต้องผสมตัวยาให้ดูต่อหน้า
• งดทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน
• งดการทำสครับใบหน้า เลเซอร์ แว็กซ์ หรือนวดหน้า
• แจ้งประวัติสุขภาพและยาที่ทานให้แพทย์ทราบ

ขั้นตอนการฉีดโบลดริ้วรอย

• แพทย์ประเมินใบหน้าและปัญหาที่กังวล
• วางแผนการรักษาและกำหนดปริมาณยูนิตที่ต้องใช้
• ทายาชาทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาทีในบางเคส
• ประคบน้ำแข็งเพื่อลดอาการเจ็บระหว่างทำหัตถการ
• แพทย์เริ่มฉีดโบลดริ้วรอยตามแผนที่วางไว้

ดูแลตัวเองหลังฉีดโบลดริ้วรอย

• ขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ครั้งทันทีเพื่อให้สารดูดซึม
• ควรฉีดโบลดริ้วรอยทุก 6 เดือน – 1 ปี และไม่ควรฉีดถี่เกินไป
• ห้ามนอนราบอย่างน้อย 3 ชั่วโมงหลังการฉีด
• งดกิจกรรมที่ใช้ความร้อน เช่น อบซาวน่า และเลเซอร์
• เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตา
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หลังการฉีด

ฉีดโบลดริ้วรอย ที่ไหนดี?

• คลินิกต้องมีใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
• สถานที่สะอาด กว้างขวาง และเครื่องมือสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อ
• ยี่ห้อฉีดโบลดริ้วรอยต้องได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจาก อย.
• แกะกล่องยาใหม่ให้ดูต่อหน้า
• ตรวจสอบว่าแพทย์เป็นแพทย์จริงและมีประสบการณ์
• แพทย์ประเมินใบหน้าอย่างตรงไปตรงมา
• มีรีวิวจากผู้รับบริการจริงจากแหล่งรีวิวที่เป็นกลาง

ฉีดโบลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนนิยม?

• Aestox – ฉีดโบลดริ้วรอยจากเกาหลี ราคาน่ารัก มีความบริสุทธิ์ 99.5% ผ่าน อย. ไทย ผลลัพธ์ยาวนาน 4-6 เดือน
• Nabota – ฉีดโบลดริ้วรอยจากเกาหลี คุณภาพสูง 98.7% ได้รับ U.S. FDA ออกฤทธิ์เร็ว ผลลัพธ์ธรรมชาติ 5-7 เดือน
• Xeomin – ฉีดโบลดริ้วรอยจากเยอรมัน บริสุทธิ์ 100% ไม่มีโปรตีนผสม ผลลัพธ์นาน 8 เดือน-1 ปี
• Allergan – ฉีดโบลดริ้วรอยจากสหรัฐอเมริกา มีโปรตีนเล็กน้อย โอกาสดื้อยาต่ำ ผลลัพธ์แม่นยำและธรรมชาติ 8 เดือน-1 ปี

ฉีดโบลดริ้วรอยกับ Romrawin Clinic

การฉีดโบลดริ้วรอย ช่วยชะลอริ้วรอยใหม่ และลดริ้วรอยเก่าให้จางลง แต่เพื่อให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ และไม่แข็งทื่อ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์ เรามีทีมแพทย์ที่ชำนาญการ และใช้โบลดริ้วรอยของแท้ คุณสามารถมั่นใจในการบริการที่ได้รับจาก Romrawin Clinic เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ