ฉีดโบกราม ลดขนาดกราม หน้าเรียวเล็ก ดูมีมิติอย่างปลอดภัย

ฉีดโบกราม ลดขนาดกราม หน้าเรียวเล็ก ดูมีมิติอย่างปลอดภัย

ความนิยมในเทรนด์หน้าวีเชฟ และใบหน้ารูปเรียวยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะช่วยให้ถ่ายรูปมุมไหนก็เป๊ะปัง การฉีดโบกรามจึงเป็นวิธีที่ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม และปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด จึงได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน

ฉีดโบกราม คืออะไร?

ฉีดโบกราม คือ การฉีดสารเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อกรามชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งานบ่อย ๆ มันจะเล็กลง ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น และสามารถปรับรูปหน้าให้เป็น V-shape ได้ เทคนิคนี้ยังช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง ลดริ้วรอย และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

กรามใหญ่ เกิดจากอะไร?

สาเหตุของกรามใหญ่เกิดได้จาก 2 ปัจจัยหลัก:

1. กรามใหญ่จากกระดูก: ทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยม ต้องใช้การศัลยกรรมเพื่อลดขนาดกระดูกกราม
2. กรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ: เกิดจากพันธุกรรม หรือพฤติกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้อกรามทำงานมากขึ้น เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่งหรือการนอนกัดฟัน สามารถลดขนาดกล้ามเนื้อกรามได้ด้วยการฉีดโบ

ฉีดโบกราม ลดขนาดกรามได้อย่างไร?

การฉีดโบกราม ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามได้ โดยการฉีดสารที่เข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อแมสเซตเตอร์ที่อยู่บริเวณมุมขากรรไกร การฉีดโบจะลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง และช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ด้วยการทำให้กรามมีขนาดเล็กลง และหน้ามีความ V-shape ขึ้น ขึ้นอยู่กับปัญหาของใบหน้า และเทคนิคการฉีดของแพทย์

ฉีดโบกราม เหมาะกับใคร?

• ฉีดโบกรามเหมาะกับ ผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่และกรามเหลี่ยม
• ฉีดโบกรามเหมาะกับ ผู้ที่ต้องการใบหน้าเรียวแบบ V-shape
• ฉีดโบกรามเหมาะกับ ผู้ที่เคี้ยวอาหารลำบากเพราะกรามใหญ่
• ฉีดโบกรามเหมาะกับ ผู้ที่นอนกัดฟันบ่อย ๆ ทำให้กรามใหญ่ขึ้น
• ฉีดโบกรามเหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาข้อต่อขากรรไกร (TMJ)

ฉีดโบกราม ยี่ห้อไหนดีสุด?

• ยี่ห้อ Allergan ฉีดโบสัญชาติอเมริกา มีความบริสุทธิ์ 99.5%, ผลลัพธ์ 5-6 เดือน, มีขนาด 50 ยูนิต และ 100 ยูนิต
• ยี่ห้อ XEOMIN ฉีดโบสัญชาติเยอรมัน มีความบริสุทธิ์สูง 100%, ลดการดื้อยา, ผลลัพธ์ 4-6 เดือน, มีขนาด 50 ยูนิตและ 100 ยูนิต
• ยี่ห้อ Dysport ฉีดโบสัญชาติอังกฤษ ให้ผลลัพธ์ 4-6 เดือน, มีขนาด 300 ยูนิตและ 500 ยูนิต
• ยี่ห้อ Aestox ฉีดโบสัญชาติเกาหลี ออกฤทธิ์ไว, ผลลัพธ์ 4-6 เดือน, มีขนาด 50 ยูนิต, 100 ยูนิต, 200 ยูนิต
• ยี่ห้อ NABOTA ฉีดโบสัญชาติเกาหลี ได้รับ USFDA รับรอง, มีความบริสุทธิ์สูง, ผลลัพธ์ 4-6 เดือน, มีขนาด 100 ยูนิต

ก่อนฉีดโบกราม ควรรู้อะไรบ้าง?

• เลือกสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาต และตรวจสอบประสบการณ์ของแพทย์จากแพทย์สภา
• งดทานยาแก้ปวดและอาหารเสริม ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ก่อนเข้ารับการรักษา
• ตรวจสอบการฉีดโบกรามว่า เป็นของแท้และให้แพทย์ผสมยาต่อหน้า
• ศึกษาเกี่ยวกับการฉีดโบกราม และวิธีตรวจสอบการฉีดโบกรามแท้และปลอม
• เว้นระยะการทำหัตถการอื่น ให้ห่างจากการฉีดโบกราม 2 สัปดาห์

ฉีดโบกราม มีผลข้างเคียงอะไร?

• รอยแดงหรือช้ำ ที่บริเวณที่ฉีด อาจหายภายใน 3-5 วัน
• การเคี้ยวอาหารลำบาก โดยเฉพาะอาหารแข็งหรือเหนียว อาการนี้หายได้ภายใน 1 สัปดาห์
• รู้สึกหน้าตึง และขยับใบหน้าได้ลำบาก เช่น การยิ้ม
• ยิ้มไม่เท่ากัน อาจเกิดจากการฉีดโบที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อเวลายิ้ม
• ตึงหรือเจ็บบริเวณกราม และอ้าปากกว้างลำบาก
• แก้มหย่อนคล้อย หากมีไขมันในแก้มมาก
• อาการวิงเวียนหรือผิวแพ้ เช่น รอยแดง
• ผลข้างเคียงจะหายเอง หากได้รับการฉีดจากแพทย์ และฉีดโบกรามแท้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawinclinic.com/botox/botox-jaw

ข้อแนะนำหลังฉีดโบกราม?

• เคี้ยวหมากฝรั่งหรือกัดฟัน หลังฉีด 30 นาที เพื่อให้ยาจากการฉีดโบกระจายตัว
• งดเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว 2 สัปดาห์หลังฉีด
• งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์หลังฉีด
• งดอาหารร้อน เช่น ปิ้งย่าง ชาบู
• งดอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารทะเล
• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก 3 วันหลังฉีด
• งดทำเลเซอร์ร้อน บริเวณใบหน้า 2 สัปดาห์
• งดนอนราบ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายของยา
• สามารถทาครีมบำรุงและแต่งหน้า ได้หลังจาก 2 สัปดาห์

ฉีดโบกราม ที่ไหนดี?

หลักการเลือกสถานที่ฉีดโบกราม ควรพิจารณา ดังนี้

• คลินิกต้องได้มาตรฐาน และได้รับใบอนุญาตเปิดคลินิก
• มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ จากผู้เข้ารับบริการจริง
• ให้บริการโดยแพทย์ ที่ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพได้
• ใช้ยี่ห้อการฉีดโบของแท้ และสามารถดึงยาต่อหน้า
• สถานที่ตั้งสะดวก เพื่อการติดตามผลการรักษา

ฉีดโบกราม VS ร้อยไหมหน้าเรียว ต่างกันอย่างไร?

• ร้อยไหมหน้าเรียว ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับ
• การฉีดโบกราม ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลง โดยการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ
• ข้อดี ของทั้งสองหัตถการมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการปรับรูปหน้า
• ราคาของการฉีดโบ ถูกกว่าการร้อยไหมหน้าเรียว
• หากมีปัญหาหย่อนคล้อย และต้องการลดขนาดกราม ทั้งสองหัตถการสามารถทำร่วมกันได้

ฉีดโบกราม กี่วันเห็นผล?

หลังการฉีดโบลดกราม ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ใน 14 วัน และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนใน 2-3 เดือน โดยกล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลง และไม่ปูดขึ้นเมื่อกัดฟันแรง ๆ

ฉีดโบกราม เจ็บไหม?

การฉีดโบกรามไม่เจ็บค่ะ เพราะก่อนและระหว่างฉีด จะมีการประคบเย็นเพื่อลดความเจ็บ ทำให้การฉีดโบลดกรามสบายและไม่ต้องกังวลค่ะ

ฉีดโบกราม อยู่ได้นานไหม?

การฉีดโบกรามให้ผลลัพธ์ชั่วคราว ซึ่งระยะเวลาในการคงอยู่จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยส่วนใหญ่ ผลลัพธ์หลังฉีดโบกราม จะอยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือนค่ะ

ฉีดโบกราม ใช้ปริมาณกี่ยูนิต?

โดยทั่วไป ปริมาณในการฉีดโบกรามจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะฉีดโบกรามประมาณ 30-50 ยูนิตต่อข้างค่ะ

ฉีดโบกรามแล้วตึง ทำอย่างไรดี?

การที่ฉีดโบกรามแล้วหน้าตึง อาจเกิดจากการใช้ปริมาณการฉีดโบกรามที่มากเกินไป หรือไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ทำ หลังฉีดโบกรามจะออกฤทธิ์มากขึ้นตามเวลา หากเกิดอาการหน้าตึงควรแจ้งแพทย์เพื่อแก้ไขอาการที่เกิดขึ้น

อยากหน้าเรียว ฉีดโบกรามอย่างเดียวได้ไหม?

หากต้องการหน้าเรียวเล็ก และหน้าวีเชฟ การฉีดโบลดกรามสามารถทำได้ แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้น สามารถทำหัตถการอื่นเพิ่มเติม เช่น การร้อยไหมหน้าเรียว เครื่องยกกระชับ หรือการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อปรับรูปหน้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

การฉีดโบกรามเป็นทางเลือกที่ยอดนิยม สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก ดูมีมิติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งการฉีดโบกราม จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกราม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว ส่งผลให้ใบหน้าดู V-shape และเรียวเล็กขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน ไม่คงอยู่ถาวร จึงต้องมีการฉีดซ้ำเป็นระยะเมื่อครบกำหนด อย่างไรก็ตาม ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน และแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด