บุกโรงงานทุนจีน!ลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์!
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แกะรอยตรวจค้นโรงงานทุนจีนลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกันจับกุม
นายกัวฯ อายุ 55 ปี สัญชาติ จีน และ นายหลี่ฯ อายุ 42 ปี สัญชาติ จีน กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามบัญชี 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ (Chemical Waste) ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ.2556”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. กองผลิตภัณฑ์จากการบดย่อยที่ปนเปื้อนโลหะหนัก ปริมาณประมาณ 0.5 ตัน
2. กองผลิตภัณฑ์จากการบดย่อยที่ปนเปื้อนโลหะหนัก ปริมาณประมาณ 1 ตัน
3. สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากการแยกที่ปนเปื้อนโลหะหนัก ปริมาณประมาณ 10 ตัน
สถานที่จับกุม โรงงานในพื้นที่ ม.9 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
สืบเนื่องจาก กรมศุลกากรได้ตรวจยึดและอายัดตู้คอนเทนเนอร์นำเข้าจากต่างประเทศ 10 ตู้ ปริมาณ 256 ตัน ซึ่งเป็นการสำแดงเท็จลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำการสืบสวนพบว่าบริษัทที่เป็นผู้นำเข้าตั้งอยู่ใน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และจากการเฝ้าติดตามบริษัทในกลุ่มเครือโรงงานที่ตั้งอยู่ใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเคยถูกจับกุมและมีคำสั่งจากเจ้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมให้หยุดประกอบกิจการแล้วนั้น พบว่าเมื่อได้มีการเคลื่อนย้ายของต้องสงสัยขยะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นของกลางในคดีและถูกอายัดไว้ เข้ามาในบริเวณโรงงานที่ตั้งอยู่ใน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันโรงงานข้างต้น
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้าตรวจสอบโรงงานในพื้นที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พบว่าในบริเวณโรงงานพบวัตถุอันตรายจำนวนมาก และพบนายหลี่ฯ แสดงตัวเป็นผู้จัดการโรงงานที่ครอบครองกองวัตถุอันตรายดังกล่าว ส่วนนายกัวฯ แสดงตัวเป็น ผู้จัดการโรงงานเจ้าของพื้นที่ที่กองวัตุอันตรายของกลางวางอยู่ และผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแจ้งว่าไม่ได้มีการขออนุญาตแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาดังกล่าว จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบพบ ขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก อยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


