Thermage FLX vs Ulthera SPT เปรียบเทียบสองนวัตกรรมยกกระชับผิวแห่งปี

Thermage FLX vs Ulthera SPT เปรียบเทียบสองนวัตกรรมยกกระชับผิวแห่งปี

ปัจจุบัน การดูแลผิวให้เต่งตึงและอ่อนเยาว์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยียกกระชับผิวที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการโดยไม่ต้องผ่าตัด หนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจของผู้คนในปีนี้ คือยกกระชับผิว Thermage FLX และ Ulthera SPT ซึ่งทั้งสองนวัตกรรมนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างและเหมาะกับปัญหาผิวที่หลากหลาย

หากคุณกำลังมองหาวิธีคืนความกระชับให้ผิว พร้อมลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ แต่ยังลังเลว่าจะเลือกยกกระชับผิว Thermage FLX หรือ Ulthera SPT ดี บทความนี้จะช่วยคุณเปรียบเทียบจุดเด่นของทั้งสองเทคโนโลยี พร้อมข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง

 

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับชั้นผิวก่อนยกกระชับ

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับชั้นผิวหนังเป็นสิ่งสำคัญก่อนการเลือกทำหัตถการยกกระชับ เช่น Thermage FLX และ Ulthera SPT เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ปัญหาผิวได้ตรงจุด โดยชั้นผิวแต่ละชั้นมีบทบาทและความสำคัญ ดังนี้

1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
   เป็นชั้นผิวด้านนอกสุดที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากมลพิษ การสูญเสียน้ำ และปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น แสงแดดและฝุ่นละออง
2. ชั้นหนังแท้ (Dermis)
   เป็นชั้นที่มีคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ และดูอ่อนเยาว์ การลดลงของคอลลาเจนในชั้นนี้เป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิว
3. ชั้นไขมัน (Subcutis)
   ชั้นใต้ผิวหนังที่ประกอบด้วยเซลล์ไขมัน ทำหน้าที่ช่วยเก็บพลังงาน ป้องกันการกระแทก และรักษาความสมดุลของผิว
4. ชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System)
   เป็นชั้นเนื้อเยื่อสำคัญที่รองรับโครงสร้างผิวและกล้ามเนื้อ การดูแลหรือยกกระชับในชั้นนี้จะช่วยให้ผิวหน้ากลับมาดูเฟิร์มและกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเวลาผ่านไป ชั้นผิวเหล่านี้จะเสื่อมสภาพลงจากอายุที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลกระทบจากมลภาวะ แสงแดด และการใช้ชีวิตประจำวัน ส่งผลให้คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลดลง เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ และมีริ้วรอยปรากฏ

 

ยกกระชับผิว Thermage FLX vs Ulthera SPT หลักการทำงานและความแตกต่าง

การเปรียบเทียบระหว่างยกกระชับผิว Thermage FLX และ Ulthera SPT จะช่วยให้ผู้ที่สนใจเลือกวิธีการยกกระชับผิวที่เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาผิวของตัวเอง โดยทั้งสองนวัตกรรมมีหลักการทำงานและจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

 

ยกกระชับผิว Thermage FLX

หลักการทำงาน
ยกกระชับผิว Thermage FLX ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบ Monopolar RF ส่งพลังงานความร้อนลงไปยังชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันบางส่วนที่มีอุณหภูมิระหว่าง 40-50°C เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และช่วยลดไขมันส่วนเกิน ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้น

จุดเด่น

• กระชับผิวให้ดูเฟิร์มและเรียบเนียนทั่วทั้งใบหน้าและลำตัว

• หัวยิง 4 รูปแบบ ช่วยให้สามารถปรับการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ เช่น ใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว
• ใช้เวลาทำเพียง 45-90 นาที โดยไม่ต้องพักฟื้น
• เห็นผลทันทีประมาณ 20% หลังทำ และผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 เดือน
• ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษา

 

 

ยกกระชับผิว Ulthera SPT

หลักการทำงาน
ยกกระชับผิว Ulthera SPT ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบ Micro-Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V) ยิงพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการดึงหน้า อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 60-70°C พร้อมด้วยหน้าจอ Real-Time Visualization ที่ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวได้ชัดเจนและยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ

จุดเด่น

• ยกกระชับผิวในระดับลึก ช่วยให้กรอบหน้าเรียวคมชัดและผิวหน้าดูตึงขึ้น
• ให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้าโดยไม่ต้องใช้เข็มหรือมีดผ่าตัด
• ใช้เวลาทำเพียง 30-45 นาที เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว
• เห็นผลทันทีประมาณ 30% หลังทำ และผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นในช่วง 1-2 เดือน
• ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล

 

ความแตกต่างหลักระหว่างยกกระชับผิว Thermage FLX และ Ulthera SPT

พลังงาน

• ยกกระชับผิว Thermage FLX ใช้พลังงาน คลื่นวิทยุ (RF) ซึ่งส่งผ่านชั้นผิวหนังแท้และไขมันบางส่วนเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT ใช้พลังงาน คลื่นเสียง (MFU-V) ที่ลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อยกกระชับผิวในระดับ

โครงสร้าง

 

ความลึกของการรักษา

• ยกกระชับผิว Thermage FLX ทำงานใน ชั้นหนังแท้ (Dermis) และ ชั้นไขมันบางส่วน เหมาะสำหรับการกระชับผิวและลดไขมันในชั้นตื้น
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT ลงลึกถึง ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่เกี่ยวข้องกับการดึงหน้า ช่วยให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงการผ่าตัด

 

อุณหภูมิ

• ยกกระชับผิว Thermage FLX ใช้ความร้อนในช่วง 40-50°C เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยลดไขมัน
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT ใช้ความร้อนสูงกว่าในช่วง 60-70°C เพื่อกระชับโครงสร้างผิวในระดับลึก

 

การมองเห็นชั้นผิว

• ยกกระชับผิว Thermage FLX ไม่มีหน้าจอ เพื่อแสดงผลการมองเห็นชั้นผิว
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT มี หน้าจอ Real-Time Visualization ทำให้สามารถมองเห็นชั้นผิวและวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ

 

เวลาในการทำ

• ยกกระชับผิว Thermage FLX ใช้เวลาประมาณ 45-90 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT ใช้เวลาน้อยกว่า อยู่ที่ประมาณ 30-45 นาที

 

ผลลัพธ์ทันที

• ยกกระชับผิว Thermage FLX เห็นผลทันทีประมาณ 20% หลังการรักษา
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT เห็นผลทันทีมากกว่า อยู่ที่ประมาณ 30% หลังการรักษา

 

ผลลัพธ์ชัดเจน

• ยกกระชับผิว Thermage FLX จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 เดือน
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเร็วกว่าในช่วง 1-2 เดือน

 

ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

• ทั้งยกกระชับผิว  Thermage FLX และ Ulthera SPT มีผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 1-2 ปี โดยขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

 

การเลือกใช้งานยกกระชับผิว Thermage FLX และ Ulthera SPT

ควรพิจารณาจากปัญหาผิวและเป้าหมายที่ต้องการแก้ไข โดยสามารถสรุปได้ดังนี้

 

ยกกระชับผิว Thermage FLX เหมาะกับ

• ผู้ที่มีปัญหา ไขมันสะสมบริเวณใบหน้า เช่น เหนียงหรือแก้ม
• ผู้ที่มี ผิวหย่อนคล้อย และต้องการปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ปรับคุณภาพผิวโดยรวม ให้ดีขึ้นทั้งในแง่ของความกระชับและความเรียบเนียน

 

ยกกระชับผิว Ulthera SPT เหมาะกับ

• ผู้ที่ต้องการ ยกกระชับกรอบหน้า ให้ดูชัดเจนขึ้น
• ผู้ที่มีปัญหา ริ้วรอยลึก และ ผิวหย่อนคล้อยในระดับลึก เช่น บริเวณหางตาและหางคิ้วที่ตก
• เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการดึงหน้าด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด

 

จุดที่นิยมในการทำ

ยกกระชับผิว Thermage FLX

• ใช้ได้ในบริเวณ ทั่วใบหน้า เช่น แก้มและกรอบหน้า
• รอบดวงตา เพื่อช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับเปลือกตา
• เหนียงและลำคอ เพื่อลดไขมันส่วนเกินและปรับผิวให้เรียบเนียน
• บริเวณลำตัว เช่น หน้าท้อง ท้องแขน และต้นขา เพื่อช่วยกระชับผิวในบริเวณกว้าง

 

ยกกระชับผิว Ulthera SPT

• ใช้ได้ในบริเวณ ทั่วใบหน้า เช่น หน้าผากและแก้ม
• รอบดวงตา เพื่อยกกระชับและลดริ้วรอยบริเวณหางตา
• หน้าผากและหางคิ้ว เพื่อช่วยยกคิ้วที่ตก
• ลำคอ เพื่อปรับโครงสร้างผิวในระดับลึกและยกกระชับ

ยกกระชับผิว Thermage FLX vs Ulthera SPT คำถามที่พบบ่อย

 

ยกกระชับผิว Thermage FLX vs Ulthera SPT สามารถทำร่วมกันได้หรือไม่?

• สามารถทำร่วมกันได้ แต่ ควรทำห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวและลดความเสี่ยงในการระคายเคืองผิวที่อาจเกิดขึ้นจากการทำหัตถการในระยะเวลาใกล้กัน

 

ยกกระชับผิว Thermage FLX vs Ulthera SPT เห็นผลลัพธ์ภายในกี่วัน?

• ยกกระชับผิว Thermage FLX จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 20% หลังทำ และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 เดือน หลังจากที่คอลลาเจนถูกกระตุ้นและฟื้นฟู
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 30% หลังทำ และผลลัพธ์จะชัดเจนในช่วง 1-2 เดือน เมื่อชั้นผิวปรับตัวและยกกระชับอย่างเต็มที่

 

ยกกระชับผิว Thermage FLX vs Ulthera SPT ราคาประมาณเท่าไหร่?

• ยกกระชับผิว Thermage FLX ราคาเริ่มต้นที่ 65,000 บาท สำหรับการยิง 900 shots ราคาจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและจำนวน shots ที่ใช้
• ยกกระชับผิว Ulthera SPT ราคาเริ่มต้นที่ 60,000 บาท โดยราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและบริเวณที่ทำการรักษา

 

ทั้งยกกระชับผิว  Thermage FLX และ Ulthera SPT เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าและลำตัวโดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งสองวิธีมีหลักการทำงานและจุดเด่นเฉพาะตัวที่สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างลึกซึ้งและตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ หรือการยกกระชับโครงสร้างผิวในระดับลึกถึงชั้น SMAS

 

การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมและลดไขมันส่วนเกินอาจเลือกยกกระชับผิว  Thermage FLX ในขณะที่ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าในระดับลึกและแก้ปัญหาริ้วรอยลึกเหมาะกับยกกระชับผิว  Ulthera SPT

 

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการประเมินปัญหาผิวและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม นวัตกรรมทั้งสองสามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ กระชับ และมีชีวิตชีวา พร้อมคืนความมั่นใจให้คุณได้อย่างยาวนาน