อุ่นเครื่องก่อนออกกำลังกาย
การอุ่นเครื่องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ และทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ควรเริ่มต้นด้วยการทำการยืดเหยียดง่ายๆ เช่น การหมุนคอไปมา, หมุนไหล่ หรือการเดินเหยียบเท้าสลับไปมาเป็นเวลา 2-3 นาที เพื่อเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายที่หนักขึ้นในช่วงเวลาถัดไป
ท่ากายบริหารแบบคาร์ดิโอ
หลังจากที่อุ่นเครื่องแล้ว ควรเริ่มต้นด้วยท่ากายบริหารที่ช่วยกระตุ้นหัวใจและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ (Cardio) อย่างการวิ่งจ๊อกกิ้งในที่เดิมหรือการกระโดดตบ (Jumping Jacks) ซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังกล้ามเนื้อทุกส่วน หากทำอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 นาทีจะทำให้ร่างกายอบอุ่นและเตรียมพร้อมสำหรับท่าต่อไป
การฝึกกล้ามเนื้อหลัก (Core Exercises)
การฝึกกล้ามเนื้อหลักหรือการฝึกท่าที่ทำให้กล้ามเนื้อส่วนกลางของร่างกายแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในตอนเช้า ท่าฝึกเช่นการแพลงก์ (Plank) หรือการยกขาขึ้นสูง (Leg Raises) เป็นท่าที่สามารถทำได้ง่ายและไม่ต้องใช้เวลานานนัก แต่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อท้องและหลังส่วนล่างได้เป็นอย่างดี ในช่วงเวลาประมาณ 2 นาที
ฝึกกล้ามเนื้อขา (Leg Exercises)
การฝึกกล้ามเนื้อขาไม่เพียงแต่ช่วยให้ขาของคุณแข็งแรง แต่ยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ท่าเบสิคที่เหมาะสมและทำได้ง่ายในเวลาสั้นคือ ท่ากลิ้งเข่า (Squats) หรือการก้าวขึ้นลงจากพื้น (Lunges) ซึ่งสามารถทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพในการเพิ่มความแข็งแรงให้กับขาและสะโพก
ท่ายืดเหยียด (Stretching)
การยืดเหยียดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการออกกำลังกายยามเช้า เพราะการยืดเหยียดจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าและบรรเทาความตึงเครียดจากการออกกำลังกาย ท่าที่สามารถทำได้ง่ายๆ เช่น การยืดกล้ามเนื้อขาโดยการยืดเท้าขึ้นไปข้างหน้า หรือการยืดกล้ามเนื้อหลัง โดยการนั่งและค่อยๆ เอื้อมมือไปข้างหน้า
สรุป
แม้ว่าเวลาจะมีจำกัดในตอนเช้า การออกกำลังกายภายใน 10 นาทีสามารถทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและพร้อมรับวันใหม่ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการทำท่ากายบริหารที่หลากหลายทั้งการอุ่นเครื่อง, คาร์ดิโอ, ฝึกกล้ามเนื้อหลัก, ฝึกขา และการยืดเหยียด คุณจะสามารถเพิ่มพลังให้กับร่างกาย และยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้ออีกด้วย ดังนั้น อย่าลืมทำการออกกำลังกายในตอนเช้าทุกวันเพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีพลัง!