พิลาทิสกับโยคะต่างกันอย่างไร?
เริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งดีๆ กับการตั้งเป้าหมายออกกำลังกาย ผู้เขียนเพิ่งฟัง podcast ของช่องๆ หนึ่งมา ผู้เล่าได้พูดถึงหนังสือเกี่ยวกับสิ่งเล็กๆ ที่ทำบ่อยครั้งจนกลายเป็นวินัยที่นำไปสู่ความสำเร็จ โดยหนึ่งในสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้ทันทีคือการออกกำลังกาย และผู้เล่ายังบอกอีกว่าการออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน ประมาณ 20 นาทีก็โอเคแล้ว นอกจากนี้อุปกรณ์ก็ไม่จำเป็นต้องเยอะหรือไม่มีเลยก็ได้ เพียงมีพื้นที่หรือห้องเล็กๆ
ผู้เขียนจึงตระหนักได้ว่า การออกกำลังกายที่ไม่หนักและใช้เวลาไม่นานก็คงไม่พ้นโยคะและพิลาทิสแถมยังได้ประโยชน์กับร่างกายทุกส่วน วันนี้ผู้เขียนจึงนำเกร็ดความรู้เล็กๆ มาฝากผู้อ่านทุกท่านกัน 🤼♀️
โยคะกับพิลาทิสแตกต่างกันอย่างไร?
พิลาทิส(pilates) และโยคะ(yoga) เป็นการฝึกเพื่อช่วยเสริมสร้างร่างกายและจิตใจแต่มีหลักการและจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้
ความแตกต่างของการฝึก
พิลาทิส: เน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การควบคุมการเคลื่อนไหว และการปรับท่าทางให้ดีขึ้น การฝึกแบบพิลาทิสจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความแข็งแรง และสมดุลของร่างกาย
โยคะ: เน้นการเชื่อมโยงระหว่างร่างกายและจิตใจโดยใช้การหายใจ การยืดเหยียด และท่าทางต่างๆ เพื่อสร้างความสงบและความยืดหยุ่นให้ร่างกาย การฝึกโยคะจะช่วยในเรื่องของการผ่อนคลาย การสมดุลทางอารมณ์ และการเพิ่มความยืดหยุ่น
จุดมุ่งหมายของการฝึก
พิลาทิส: เน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแกนกลาง เช่น หน้าท้องและหลัง เป็นการฝึกเพื่อช่วยปรับปรุงท่าทางและเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ
โยคะ: มุ่งเน้นไปที่การเชื่อมโยงระหว่างร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ การฝึกจะช่วยสร้างสมดุลทางร่างกายและจิตใจ ปรับสมาธิและเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย
วิธีการฝึก
พิลาทิส: ใช้อุปกรณ์เสริมในการฝึก เช่น เครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformers), ลูกบอล (Balls), เก้าอี้วุนดา (Wunda chair) ฯลฯ เพื่อเพิ่มแรงต้านและช่วยในการฝึกควบคุมกล้ามเนื้อ
โยคะ: ใช้ท่าทางร่างกายและการหายใจเป็นหลัก การฝึกโยคะไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมก็ได้ แต่บางประเภทของโยคะ เช่น ฮัทโยคะอาจใช้วัสดุเช่น บล็อกหรือเข็มขัดในการช่วยปรับท่าทาง รวมไปถึงเสื่อโยคะด้วย
ประเภทของการฝึก
พิลาทิส: มีการฝึกทั้งบนพื้น (Mat Pilates) และการใช้เครื่องมือเสริม (Reformer Pilates) ในการฝึก
โยคะ: มีหลากหลายประเภท เช่น Vinyasa, Ashtanga, Bikram ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันไป
การหายใจ
พิลาทิส: เน้นการหายใจที่ควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหว และการขยายปอดเพื่อเพิ่มพลังในขณะฝึก
โยคะ: เน้นการหายใจแบบลึกๆ เข้าออกช้าๆ หายใจตามจังหวะของการเคลื่อนไหว ซึ่งมักจะใช้การหายใจจากทางท้อง (Diaphragmatic breathing) และการควบคุมการหายใจให้สมดุล
ประโยชน์ต่อร่างกาย
พิลาทิส: ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแกนกลาง(หน้าท้องบริเวณหลังและอุ้งเชิงกราน) ช่วยปรับท่าทางและลดอาการปวดหลัง
โยคะ: ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทั่วร่างกาย ช่วยลดความเครียดและส่งเสริมความสมดุลของจิตใจและร่างกาย
การฝึกระดับจิตใจ
พิลาทิส: เน้นไปที่การควบคุมร่างกายและการเคลื่อนไหวที่มีความแม่นยำสูงมาก
โยคะ: เน้นการฝึกสมาธิและการทำให้จิตใจสงบด้วยการหายใจลึกๆ และท่าทางที่เน้นการเชื่อมโยงร่างกายและจิตใจ
สรุป
พิลาทิส เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย โดยเฉพาะแกนกลางและการปรับปรุงท่าทาง
โยคะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมดุลทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพิ่มความยืดหยุ่น และผ่อนคลายความเครียด