หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กินอย่างไร? ไม่ให้เป็น "โรคกระเพาะ"

โพสท์โดย NOOK BOOD

กินอย่างไร? ไม่ให้เป็น "โรคกระเพาะ"

จากหนังสือกินต้านโรค เขียนโดย พรพรรณ รพี. ได้กล่าวว่า

การเกิดโรคกระเพาะที่สำคัญ คือ เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกกัดทำลาย โดยกรดที่อยู่ในน้ำย่อยอาหารจนกระทั่งเป็นแผล และสาเหตุที่ทำให้มีกรดมากในกระเพาะอาหารนั้น เกิดจากพฤติกรรม เช่น

ซึ่ง ความเครียด ความวิตกกังวล ความรีบเร่งในการทำงาน ก็เป็นสาเหตุสำคัญ ของการเป็นโรคกระเพาะ และหากเกิดความเครียดแล้ว กินอาหารไม่ลงด้วย จะยิ่งเกิดโรคกระเพาะได้ง่ายขึ้นและหนักขึ้น ฉะนั้นแล้วควรหลีกหนีพฤติกรรมดังกล่าวไปให้ไกล...

 

รู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคกระเพาะ

คนที่เป็นกระเพาะมักจะมีอาการ ตั้งแต่ แน่นท้อง จุกเสียด มีอาการเรอบ่อยๆ หิวบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลากลางคืน อาจมีคลื่นไส้เล็กน้อย บางคนก็อาจมีอาการปวด ลักษณะที่ปวดจะปวดเป็นพักๆ อาการปวดเป็นลักษณะปวดแน่น มีน้อยคนที่ปวดแสบปวดร้อน อาการปวดจะดีขึ้นเมื่อได้กินอาหารแต่ถ้าในกระเพาะอาหารเป็นแผล อาการปวดจะปวดอยู่นาน ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ถ้าแผลเป็นมากอาจเกิดการทะลุของกระเพาะอาหาร จะมีอาการปวดอย่างรุนแรง ถือว่าร้ายแรงมาก ต้องรีบไปหาหมอโดยด่วน

 

กินอาหารอย่างไรเมื่อเป็นโรคกระเพาะ

เมื่อเป็นโรคกระเพาะแล้ว ต้องควบคุมไม่ให้อาหารมีส่วนเข้าไประคายเคืองต่อกระเพาะ หลักที่จะยึดไว้ปฏิบัติมีดังนี้

  1. กินอาหารให้ตรงเวลา
  2. กินทีละน้อยๆ แต่บ่อยครั้งขึ้น
  3. งดอาหารที่มีรสจัด เช่น เปรี้ยวจัด เค็มจัด เผ็ดจัด เครื่องเทศบางชนิดจะระคายเคืองต่อกระเพาะ ทำให้เป็นโรคกระเพาะมากขึ้น เช่น พริกไทย กานพลู เป็นต้น อาหารรสและเครื่องเทศเหล่านี้ จะทำให้มีอาการปวดมากขึ้น
  4. งดอาหารมัน รวมทั้งอาหารทอดที่อมน้ำมันมาก อาหาร ทอดไม่ทำให้กระเพาะอาหารอักเสบ หรือเป็นแผลเพิ่มขึ้นแต่จะทำให้
โพสท์โดย: NOOK BOOD
อ้างอิงจาก: หนังสือกินต้านโรค เขียนโดย พรพรรณ รพี.
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
NOOK BOOD's profile


โพสท์โดย: NOOK BOOD
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: NOOK BOOD
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติF-16 ไทยถล่มสะพานอูจีก ตัดเส้นทางลำเลียง ของเขมรช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกเลขเด็ด "หวยปฏิทินจีน" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..คอหวยอย่าพลาด!ทหารกัมพูชา ใช้สไนเปอร์ หวังลอบยิง ผบ.ทหารเรือภาพวาดดินสอดำของเด็กอนุบาล เสียงตะโกนเงียบ ๆ ที่ผู้ใหญ่ต้องฟังให้ได้ไรเดอร์หื่นแอบจับก้นสาวสวยขณะวิ่งออกกำลัง..อ้างทำไปเพื่อประชดแฟนมหัศจรรย์ "หมอกสีชมพู" เปลี่ยนอังกฤษให้เป็นดินแดนแห่งฝัน วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามสุดแปลกตา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจไรเดอร์หื่นแอบจับก้นสาวสวยขณะวิ่งออกกำลัง..อ้างทำไปเพื่อประชดแฟนช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกเห็ดพิษใกล้ตัว รู้ทันก่อนเสี่ยงตายมหัศจรรย์ "หมอกสีชมพู" เปลี่ยนอังกฤษให้เป็นดินแดนแห่งฝัน วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามสุดแปลกตา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
🦉 หลับตานิ่งจนโลกมองไม่เห็น! ภาพไวรัล “นกปากกบ” พรางตัวแนบเนียน ราวกับเป็นเสารั้วบ้านเด็กสาวคอโค้ง 90 องศา จากปากีสถาน สู่รอยยิ้มครั้งใหม่หลังการผ่าตัดในอินเดียภาพวาดดินสอดำของเด็กอนุบาล เสียงตะโกนเงียบ ๆ ที่ผู้ใหญ่ต้องฟังให้ได้เพื่อนชิ่งบิล 1,262 หยวน ทิ้งให้ “นายจาง” จ่ายคนเดียว เรื่องจริงที่สอนว่า กินข้าวต้องมีสติ ไม่ใช่แค่สั่งเมนู
ตั้งกระทู้ใหม่