วันที่...สำนึก
วันที่...สำนึก
#อักษราลัย
ยามเย็นย่ำค่ำเฉกเช่นทุกวัน แสงสุดท้ายของดวงตะวันค่อย ๆ จางหาย ปล่อยให้ความมืดคืบคลานเข้าปกคลุมซอยแคบย่านชานเมือง เสียงขวดเหล้าแตกกระจายกระทบพื้นปูนเปลือยดังก้องกังวาน ตามมาด้วยเสียงสะอื้นไห้ของแม่และคำสบถด่าของพ่อที่ดังลอดออกมาจากบ้านไม้หลังเก่า... เป็นภาพและเสียงอันคุ้นชินของชุมชนละแวกนี้ ไม่ต่างจากละครร้ายที่ฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกค่ำคืน
"ไอ้เวร! มึงจะเอายังไงกับกู" พ่อตะโกนเสียงดัง ขณะผมเซถลาเข้าไปในบ้านด้วยสภาพมึนเมา เสื้อผ้ามอมแมม กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง เงินเพิ่งได้รับมาจากงานก่อสร้างถูกใช้ไปกับการดื่มเหล้าเกือบหมด เหลือแค่ไม่กี่ร้อยบาทติดกระเป๋า
"กูจะเอาเงิน! มีปัญหาอะไร นี่บ้านกูด้วยเหมือนกัน" ผมตะโกนกลับไป มือกำแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ สายตาจ้องไปที่ลิ้นชักในห้องนอนพ่อแม่ที่รู้ดีว่ามีเงินเก็บอยู่
"พอได้แล้วลูก" แม่วิ่งเข้ามากอดผมไว้ น้ำตาไหลอาบแก้ม ร่างผอมบางในชุดผ้าถุงเก่า ๆ สั่นเทา แม่ทำงานรับจ้างซักรีดมาตลอด 20 ปี เพื่อส่งให้ผมเรียนจนจบ ม.6
"ปล่อย!" ผมผลักแม่จนล้มลงกับพื้นปูนเปลือย ศีรษะแม่กระแทกกับขอบตู้เสื้อผ้าเข้าอย่างจัง พ่อรีบวิ่งเข้าประคองแม่ที่เริ่มมีเลือดซึมที่หางคิ้ว
"มึงบ้าไปแล้ว! กูเลี้ยงมึงมาจนโต ส่งเสียให้เรียนจนจบ แต่มึงกลับมาทำร้ายแม่มึงแบบนี้" พ่อตะโกนด้วยความโกรธ ใบหน้าเหี่ยวย่นที่เคยเต็มไปด้วยร่องรอยของคนขี้เมาบัดนี้ดูสงบนิ่งกว่าเมื่อก่อนมาก
ผมหัวเราะเยาะ "เลี้ยงดู? ส่งเสียเรียน? แล้วตอนที่พ่อเมาเหล้าทุกวัน กลับมาทุบตีแม่ต่อหน้าผมตั้งแต่ผมอายุ 7 ขวบ พ่อจำได้ไหม? จำได้ไหมว่าเคยเอาเข็มขัดฟาดหลังแม่จนเลือดสาด จำได้ไหมว่าผมต้องนั่งร้องไห้อยู่มุมห้องทุกคืน!"
พ่อชะงัก สีหน้าเปลี่ยนไปทันที มือที่กำลังประคองแม่สั่นเทา
"นั่นมัน...มันผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว พ่อเข้าวัดบำบัดและเลิกเหล้าได้มานานแล้วนะ" แม่พูดเสียงสั่น "ตอนนี้พ่อเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ใช่ปีศาจแบบนั้นอีกแล้วลูก"
"แต่ผมลืมไม่ลงเลยนะแม่! ทุกครั้งที่ผมเห็นพ่อทำท่าจะยกมือใส่แม่ ผมอดนึกถึงภาพเก่า ๆ นึกถึงเสียงกรีดร้องของแม่ นึกถึงกลิ่นเหล้าในลมหายใจของพ่อ" น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มือยังกำขวดเหล้าแน่น
พ่อทรุดลงนั่งกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม "พ่อขอโทษ...พ่อผิดไปแล้ว พ่อทำลายครอบครัวเรา ทำร้ายจิตใจลูกจนกลายเป็นแบบนี้"
"ลูกเป็นแบบพ่อไม่ได้นะ" แม่ลุกขึ้นมากอดผมอีกครั้ง เลือดที่หางคิ้วยังไม่หยุดไหล "เราต้องหยุดวงจรนี้ แม่ไม่อยากเห็นลูกเป็นแบบพ่อในอดีต"
ผมกอดแม่แน่น น้ำตาไหลไม่หยุด "ผมขอโทษครับแม่...ผมจะไปบำบัด จะเลิกเหล้าให้ได้เหมือนพ่อ ผมจะไม่ทำร้ายแม่อีก"
พ่อลุกขึ้นมาร่วมกอดเราทั้งคู่ "เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ลูกพ่อ"
...สามเดือนต่อมา...
ผมนั่งอยู่ในห้องพักคนไข้โรงพยาบาลประจำจังหวัด มองดูพ่อกับแม่นอนหลับอยู่บนเตียงข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้ม ในมือถือถุงใส่ขวดเหล้าขาวราคาถูก
"คุณคะ คนไข้ทั้งสองคนปลอดภัยแล้ว แผลถูกแทงที่ท้องไม่ลึกมาก แต่เสียเลือดค่อนข้างมาก ต้องพักฟื้นอีกสักพัก" พยาบาลสาวในชุดขาวเดินเข้ามาบอก
ผมพยักหน้า "ขอบคุณมากครับ" รอยยิ้มยังคงประดับบนใบหน้า
เมื่อพยาบาลเดินออกไป ผมหยิบขวดเหล้าขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ "ขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้"
ผมหัวเราะเบา ๆ พลางหยิบมีดในถุงออกมาเช็ดคราบเลือด "ที่บอกว่าจะไปบำบัด จะเลิกเหล้า ก็แค่การแสดง... อย่างน้อยก็ขอให้พ่อกับแม่ได้รู้ว่าความเจ็บปวดที่ผมเคยได้รับมันเป็นยังไง แต่ของผมยังดีกว่าที่พ่อทำกับแม่... ผมแทงแค่พอให้เจ็บ ไม่ได้จะฆ่า แค่อยากให้จำไว้ว่าลูกที่ถูกทำร้ายจิตใจ ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก ไม่มีวัน"
ผมวางขวดเหล้าลงบนโต๊ะข้างเตียง หยิบสมุดบันทึกเล็ก ๆ ที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมาเปิดอ่าน...
"วันที่ 10 มกราคม - เริ่มงานก่อสร้างใหม่ เงินเดือน 15,000 เอาไปซื้อเหล้า 10,000 ที่เหลือเก็บไว้ซื้อมีด"
ผมพลิกหน้าต่อไป ตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือหวัด ๆ ในสภาพเมา
"วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - โดนไล่ออกจากงานเพราะเมาแล้วทะเลาะกับหัวหน้า ดีแล้ว จะได้มีเวลาวางแผนแก้แค้นเต็มที่"
"วันที่ 1 มีนาคม - เห็นแม่ร้องไห้ตอนซักผ้า คงคิดถึงตอนที่ผมยังเป็นเด็กดี ตอนที่ยังไม่เคยแตะเหล้า ก่อนที่ความทรงจำบ้า ๆ จากพ่อจะทำลายทุกอย่าง"
ผมยิ้มเศร้า ๆ นึกถึงวันที่ตัวเองดื่มเหล้าครั้งแรกตอนอายุ 18 หลังจากทนเก็บความเจ็บปวดมานาน เพื่อนที่โรงงานชวนดื่ม บอกว่าจะช่วยให้ลืมความเจ็บปวด แต่ยิ่งดื่ม ผมกลับยิ่งจำ ยิ่งโกรธ ยิ่งเกลียด จนในที่สุดก็กลายเป็นติด
แฟนสาวเคยทนอยู่ด้วยได้สองปี ก่อนจะทิ้งผมไปเพราะทนสภาพคนขี้เมาไม่ไหว เพื่อนก็ค่อย ๆ หายไป เหลือแต่เพื่อนขี้เมาในร้านเหล้าข้างทาง
"วันที่ 20 เมษายน - แกล้งทำเป็นสำนึกผิด บอกจะไปบำบัด พ่อกับแม่ดีใจมาก โง่จริง ๆ"
"วันที่ 15 พฤษภาคม ซ้อมแทงตุ๊กตายางทุกคืน ต้องแทงให้ถูกจุด ให้เจ็บแต่ไม่ตาย ให้พวกเขาได้รู้ซะบ้างว่าความเจ็บปวดที่ผมได้รับมันเป็นยังไง"
ผมปิดสมุดลง มองดูพ่อกับแม่ที่นอนหลับอยู่บนเตียง บาดแผลที่ท้องของทั้งคู่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีขาวสะอาด
"พ่อครับ... แม่ครับ..." ผมกระซิบเบา ๆ "ผมเป็นลูกที่แย่ ผมรู้... แต่พ่อก็เป็นพ่อที่แย่เหมือนกัน แม่ก็เป็นแม่ที่อ่อนแอเกินไป ปล่อยให้ผมต้องเห็นภาพพวกนั้นตั้งแต่เด็ก"
ฝนด้านนอกเริ่มตกลงมา เสียงพรำเบา ๆ ทำให้ผ่อนคลายลง ผมลุกขึ้นเดินมองออกไปนอกหน้าต่าง "พรุ่งนี้ผมจะไปจากที่นี่ ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องเจอหน้าพ่อกับแม่อีก... แต่รอยแผลในใจผม... มันคงไม่มีวันหาย"
ผมเปิดหน้าต่างออก ปล่อยให้ละอองฝนพัดเข้ามาโดนใบหน้า ก่อนจะหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาฉีกทิ้งทีละแผ่น โยนออกไปในอากาศ ปล่อยให้มันลอยเคว้งคว้างหมุนวนจนตกลงบนพื้นด้านล่าง
"ลาก่อนครับ... พ่อ... แม่... ขอโทษ... และ... ขอบคุณ..."
...10 ปีต่อมา...
ผมนั่งอยู่ในร้านกาแฟเล็ก ๆ ย่านเชียงใหม่ มองผ่านกระจกออกไปเห็นดอยสุเทพในม่านหมอกยามเช้า กลิ่นกาแฟหอม ๆ ลอยมาเตะจมูก
"คุณคะ นี่ลาเต้ของคุณค่ะ" หญิงสาวคาดผ้ากันเปื้อนวางแก้วกาแฟตรงหน้า
"ขอบคุณครับ" ผมยิ้มให้ ก่อนจะหยิบจดหมายที่เพิ่งได้รับจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาอ่าน
"นที ลูกรัก
หากลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แม่คงจากลูกไปแล้ว แม่ฝากจดหมายนี้ไว้ให้ลูก... แม่ให้คนติดตามหาลูกมาตลอด 10 ปี จนรู้ว่าลูกมาอยู่เชียงใหม่ เปิดร้านขายต้นไม้เล็ก ๆ...
แม่ดีใจที่ลูกเลิกเหล้าได้ มีชีวิตใหม่... แม่ขอโทษ ที่อ่อนแอ ปกป้องลูกไม่ได้... ส่วนพ่อ... พ่อเสียใจกับสิ่งที่ทำมาตลอด พ่อเข้าวัดบวชตลอดชีวิตที่เหลือแล้ว...
ในห้องของลูกที่บ้าน แม่เจอสมุดบันทึก มีแค่หน้าแรกที่ไม่ได้ถูกฉีกไป... ข้อความนั้นเขียนว่า
'ถ้าผมเป็นเด็กดี... ถ้าพ่อไม่เป็นคนขี้เมา... ถ้าแม่เข้มแข็งกว่านี้... ถ้าเราเป็นครอบครัวที่มีความสุข... ชีวิตผมจะเป็นยังไงนะ?'
แม่อยากบอกว่า... ตอนนี้ลูกเป็นคนดีแล้ว... เป็นคนที่แม่ภูมิใจ... แม่รัก และให้อภัยลูกเสมอ...
รัก...แม่'
ผมวางจดหมายลง น้ำตาเริ่มไหล... มือคว้าแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม รสขมปร่าแทนที่รสเหล้าที่เคยคุ้น
"พี่คะ" เสียงหญิงสาวดังมาจากด้านหลัง "ถึงเวลาเปิดร้านแล้วนะคะ"
ผมหันไปยิ้มให้ภรรยาสาวที่แต่งงานกันมาได้ 5 ปี เธอเป็นลูกค้าที่มาซื้อต้นไม้ที่ร้าน และเป็นคนที่ช่วยให้ผมเลิกเหล้าได้สำเร็จ
"ครับ ไปเดี๋ยวนี้" ผมลุกขึ้น พับจดหมายใส่กระเป๋า
เสียงหัวเราะใส ๆ ดังมาจากสวนหลังร้าน ลูกชายวัย 4 ขวบกำลังวิ่งเล่นกับลูกแมวตัวน้อย
"วันนี้พ่อจะสอนหนูรดน้ำต้นไม้นะ" ผมอุ้มลูกขึ้นมากอด "พ่อจะสอนให้หนูเป็นคนดี... จะไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก..."
บางทีการให้อภัย... อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยาที่แท้จริง
...20 ปีต่อมา...
"พ่อครับ..." เสียงลูกชายวัย 24 ปี ดังขึ้นขณะที่เรานั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน เขาเพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ หลังไปจัดการงานศพของปู่ที่มรณภาพที่วัด
"ว่าไงลูก" ผมวางกรรไกรตัดกิ่งลง หันไปมองลูกชายที่นั่งอยู่บนม้านั่งไม้
"หลวงปู่ ฝากจดหมายมาให้พ่อครับ" เขายื่นซองจดหมายเก่า ๆ ให้ "ปู่เขียนไว้ก่อนตาย..."
ผมรับจดหมายมาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เปิดอ่านช้า ๆ
"ถึงลูกนที...
พ่อรู้ว่าลูกคงไม่อยากเจอหน้าพ่ออีก... แต่ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่พ่อไม่คิดถึงลูก ไม่มีวันไหนที่พ่อไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป...
พ่อได้ข่าวว่าลูกมีร้านต้นไม้ที่เชียงใหม่ มีครอบครัวที่อบอุ่น... พ่อดีใจที่ลูกไม่เดินตามรอยพ่อ เป็นพ่อที่ดีกว่าพ่อ...
ทุกวันพระ พ่อจะสวดมนต์ให้ลูก ให้แม่ของลูก ขอให้พระคุ้มครองครอบครัวของลูก...
บาปกรรมที่พ่อทำไว้ พ่อขอใช้ด้วยการบวชตลอดชีวิต สวดมนต์ให้ทุกคนที่พ่อเคยทำร้าย...
พ่อภูมิใจในตัวลูกนะ ที่กล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง กล้าตัดวงจรแห่งความรุนแรง...
ถ้าชาติหน้ามีจริง... ขอให้พ่อได้เกิดเป็นลูกของลูกบ้าง จะได้เรียนรู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร...
รัก และขอโทษ
พ่อ"
ผมวางจดหมายลง น้ำตาไหลอาบแก้ม
"พ่อครับ..." ลูกชายกอดผมไว้ "ผมเจอสมุดบันทึกเล่มหนึ่งในห้องของปู่ด้วย... เป็นบันทึกประจำวันที่ท่านเขียนตลอด 30 ปีที่บวช..."
เขาเปิดสมุดให้ผมดู แต่ละหน้าเต็มไปด้วยคำสวดมนต์ และคำอธิษฐาน... ทุกวันพระ พ่อจะเขียนชื่อผม ชื่อแม่ และขอพรให้พวกเรามีความสุข...
"ปู่เขียนไว้ว่า... บางครั้งการทำร้ายคนที่เรารัก มันเกิดจากบาดแผลที่เราไม่เคยรักษา... ถ้าเราเลือกที่จะหยุด เลือกที่จะเยียวยา... ทุกอย่างก็ยังไม่สายเกินไป..."
ผมกอดลูกชายแน่น "พ่อโชคดีที่มีลูกแบบหนูนะ... ลูกทำให้พ่อเข้าใจว่าความรักแท้จริงเป็นยังไง..."
"พ่อครับ..." ลูกชายมองผมด้วยแววตาอ่อนโยน "พ่อให้อภัยปู่หรือยัง?"
ผมนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มทั้งน้ำตา "พ่อให้อภัยปู่ตั้งนานแล้วลูก... ตั้งแต่วันที่พ่อเห็นหนูเกิด... วันที่พ่อเข้าใจว่าการเป็นพ่อมันยากแค่ไหน... เราทุกคนล้วนทำผิดพลาด แต่สิ่งสำคัญคือการยอมรับ และพยายามที่จะเปลี่ยนแปลง..."
ลูกชายยิ้ม หยิบรูปถ่ายเก่า ๆ ออกมาจากกระเป๋า "นี่ปู่ให้มาฝากพ่อด้วย... บอกว่าถ่ายตอนพ่ออายุ 5 ขวบ วันที่พาพ่อไปเที่ยวสวนสัตว์..."
ผมมองรูปถ่ายขาวดำที่มีรอยยับย่น... ในภาพเป็นผมในวัยเด็ก นั่งบนบ่าพ่อ ยิ้มอย่างมีความสุข... ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป...
"บางทีความทรงจำดี ๆ ก็ยังอยู่นะครับพ่อ" ลูกชายพูดเบา ๆ "แค่เราเลือกจะจำ หรือเลือกจะลืมเท่านั้นเอง..."
ผมกอดลูกไว้แน่น พลางมองไปที่ต้นไม้ในสวน... บางต้นเคยหักโค่น แต่มันก็งอกงามขึ้นมาใหม่ได้... เหมือนหัวใจของคนเรา ที่แม้จะเคยบาดเจ็บ แต่ถ้าให้เวลาและการเยียวยา... มันก็จะกลับมางดงามได้อีกครั้ง...
………….
(เศษเสี้ยวความทรงจำ)
บันทึกความทรงจำของนที
ผมยังจำวันนั้นได้ดี... วันที่ผมเริ่มดื่มเหล้าขวดแรก
"มึงรู้ไหมว่าทำไมกูถึงเกลียดพ่อกูนัก?" ผมถามเพื่อนร่วมงานที่ชวนดื่มในร้านเหล้าข้างโรงงาน
"เพราะแกเป็นไอ้ขี้เมาเหมือนกูไง" มันหัวเราะ
"ไม่ใช่..." ผมดื่มอึกใหญ่ "กูพยายามเป็นเด็กดีมาตลอด... เรียนเก่ง ไม่เกเร ไม่ยุ่งกับเหล้า... แต่รู้ไหม ยิ่งกูดี พ่อกูยิ่งเกลียด"
ย้อนไปตอนผมอายุ 7 ขวบ... คืนที่พ่อเมากลับบ้าน
"ไอ้หนู! มึงคิดว่ามึงเก่งนักใช่ไหม?" พ่อตะโกนใส่หน้าผมที่นั่งทำการบ้านอยู่ "ครูชมว่าเรียนดี... แต่มึงรู้ไหมว่ากูอายแค่ไหนที่ต้องไปรับผลการเรียนมึง ในสภาพคนงานก่อสร้างสกปรก!"
"พอได้แล้ว!" แม่วิ่งเข้ามาขวาง "ลูกเขาเรียนดี เราน่าจะภูมิใจ!"
"เออ! ภูมิใจ! แล้วมึงภูมิใจในตัวกูบ้างไหม!?" พ่อคว้าเข็มขัดจากข้างฝา ฟาดลงบนแผ่นหลังแม่
ผมได้แต่นั่งร้องไห้ในมุมห้อง... ได้ยินเสียงแม่กรีดร้อง เลือดซึมผ่านเสื้อออกมาเป็นดวง...
"นั่นแหละ... จุดเริ่มต้นที่กูเริ่มสงสัย..." ผมเล่าให้เพื่อนฟังพลางรินเหล้าแก้วที่สาม "ทำไมกูต้องเป็นเด็กดี... ในเมื่อความดีของกูทำร้ายแม่..."
ตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่สอบได้ที่หนึ่ง พ่อจะเมาหนักและทำร้ายแม่... จนผมเริ่มแกล้งสอบตก เริ่มทำตัวแย่ลง หวังว่าพ่อจะพอใจ... แต่พ่อก็ยังทำร้ายแม่อยู่ดี
"แล้วแม่มึงล่ะ?" เพื่อนถาม "ทำไมไม่หนีไปเลย?"
ผมหัวเราะขื่น ๆ "นั่นแหละที่กูเกลียดแม่... เกลียดที่แม่อ่อนแอ เกลียดที่ไม่ยอมหนี เกลียดที่ทนให้กูต้องเห็นภาพพวกนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า..."
"แต่กูก็รักแม่... รักจนเจ็บ..." ผมกระดกเหล้าอีกอึก "รู้ไหม ตอนพ่อเลิกเหล้าได้ กูดีใจที่สุดในชีวิต... แต่พอเห็นพ่อกับแม่มีความสุข กูกลับทนไม่ได้..."
"เพราะมึงอิจฉา?"
"เพราะกูโกรธ... โกรธที่พวกเขาทำเหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น โกรธที่ไม่มีใครเยียวยาบาดแผลในใจกู..."
ผมเริ่มวางแผนแก้แค้นตั้งแต่วันนั้น... เริ่มจากดื่มเหล้า ทำตัวเหมือนพ่อในอดีต... หวังให้พ่อเจ็บปวดที่เห็นตัวเองในตัวผม
ทุกวันผมจะเมากลับบ้าน ทำร้ายจิตใจพ่อแม่ทีละนิด... จนกระทั่งวันที่ผมผลักแม่ล้ม ผมเห็นเลือดที่หางคิ้วแม่... เหมือนย้อนเวลากลับไปในวัยเด็ก
"กูต้องหยุดนะ..." ผมบอกตัวเอง "แต่ก่อนหยุด... กูต้องแก้แค้นให้สาสมก่อน..."
ผมวางแผนทุกอย่างอย่างรอบคอบ... แกล้งทำเป็นสำนึกผิด จะเลิกเหล้า... รอให้พ่อแม่หายระแวง... แล้วในคืนที่พวกเขาไว้ใจผมที่สุด...
"แทงสิ..." ผมบอกตัวเอง มือจับมีดสั่น ๆ "แทงให้เจ็บเหมือนที่พวกเขาทำกับใจเรา..."
แต่พอเห็นเลือดของพ่อแม่... ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลวที่สุดในโลก...
"กูทำอะไรลงไป..." ผมกระซิบกับตัวเอง "กูกลายเป็นปีศาจร้ายกว่าที่กูเกลียดเสียอีก..."
เพื่อนที่ทำงานทุกคนเลิกคบผม... แฟนสาวที่เคยรักกันทนพฤติกรรมผมไม่ไหว... งานก็ถูกไล่ออกเพราะเมาไม่เป็นเวลา... ชีวิตพังทลายเพราะความแค้น... และเหล้า
วันที่ผมตัดสินใจจากมา... ไม่ใช่เพราะต้องการเริ่มต้นใหม่... แต่เพราะทนมองตัวเองในกระจกไม่ได้...
แต่แล้ววันหนึ่ง... ผมเจอเธอ... ผู้หญิงที่มาซื้อต้นไม้ที่ร้าน... เธอมองผมด้วยสายตาที่อบอุ่น...
"บางครั้ง... การให้อภัยไม่ได้แปลว่าเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น..." เธอพูดกับผมในวันที่ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง "แต่มันแปลว่าเราเลือกที่จะไม่ให้อดีตมาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา..."
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ผมเลือกจะเปลี่ยนแปลง... เลือกที่จะเลิกเหล้า... เลือกที่จะรักษาใจตัวเอง...
"ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก..." ภรรยาผมมักพูดเสมอ "แม้แต่พ่อแม่ก็ผิดพลาดได้... สิ่งสำคัญคือเราเลือกที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น..."
และตอนนี้... เมื่อผมมองดูลูกชายของตัวเอง... ผมเข้าใจแล้วว่าการเป็นพ่อแม่มันยากแค่ไหน... และการให้อภัยคือของขวัญที่ดีที่สุดที่เราจะให้กับตัวเองได้...