หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กระสือมีจริงไหม? ตำนานผีสางของไทยที่สร้างความสยองมาตั้งแต่โบราณ

เนื้อหาโดย jj000

ในวัฒนธรรมไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีเรื่องราวของ "ผี" ที่ถูกเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น หนึ่งในตำนานที่น่ากลัวและเป็นที่รู้จักกันดีคือ “ผีกระสือ” กลางวันมนุษย์ธรรมดาแต่สามารถแยกหัวออกจากร่างกายและบินไปในยามค่ำคืน เรื่องราวเกี่ยวกับกระสือทำให้เกิดความหลอนและท้าทายความเชื่อของผู้คนมาหลายศตวรรษ แต่คำถามที่ยังคงค้างคาอยู่คือ “กระสือมีจริงหรือไม่?” บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจตำนานของกระสือและลองพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการมีอยู่ของมันในโลกแห่งความจริง

 

คำว่า “กระสือ” เป็นคำที่ใช้เรียกสิ่งมีชีวิตในตำนานไทยที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์แต่สามารถแยกหัวออกจากร่างกายได้ในเวลากลางคืน ตำนานเกี่ยวกับกระสือมักจะเกี่ยวข้องกับวิญญาณที่หิวกระหายเลือด โดยเฉพาะในยามค่ำคืน กระสือจะบินออกจากร่างกายของตนเพื่อหาทางดูดเลือดจากสัตว์หรือมนุษย์ โดยเฉพาะเด็กและคนที่อ่อนแอ

 

ตามตำนาน กระสือมักจะมีรูปร่างคล้ายผู้หญิงที่มีเส้นผมยาวและใบหน้าสวยงาม แต่เมื่อมันแยกหัวออกจากร่างกายแล้ว ร่างกายของมันจะเหลือเพียงแต่ลำตัวที่บินไปตามอากาศ ส่วนหัวของมันจะลอยไปหาสิ่งมีชีวิตเพื่อดูดเลือด ในบางตำนานกล่าวว่า กระสือมักจะคาบลมหรือสิ่งมีชีวิตอย่างแมลงไปดูดเลือดจากพวกมัน นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงกระสือที่พยายามทำลายชีวิตของคนในหมู่บ้านด้วยวิธีต่างๆ เช่น การไล่ล่าหรือทำให้ผู้คนตกใจจนเสียชีวิต

 

ความเชื่อเรื่องกระสือมีอยู่ในหลายภูมิภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสานของไทย ซึ่งเชื่อว่า กระสือเป็นวิญญาณที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ตำนานเกี่ยวกับกระสือมีหลากหลายรูปแบบและมีการเล่าเรื่องแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่ที่สำคัญคือลักษณะของกระสือที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ การแยกหัวออกจากร่างกายและบินไปในเวลากลางคืนเพื่อหาความหล่อเลี้ยงจากเลือด

บางเรื่องเล่าว่าผู้หญิงที่กลายเป็นกระสืออาจจะได้รับคำสาปจากการกระทำชั่วร้าย หรืออาจจะเป็นหญิงที่มีพฤติกรรมประหลาดจนทำให้ถูกสาปให้กลายเป็นกระสือ ขณะที่บางตำนานก็กล่าวถึงกระสือว่าเป็นวิญญาณของผู้หญิงที่ต้องการทวงความยุติธรรม หรือแสวงหาความพอใจจากการดื่มเลือดของมนุษย์

 

แม้ว่าตำนานกระสือจะเป็นที่นิยมในวัฒนธรรมไทย แต่การค้นหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันว่ากระสือมีอยู่จริงนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย วิทยาศาสตร์ไม่ได้มีข้อมูลหรือหลักฐานใดที่ยืนยันการมีอยู่ของกระสือในฐานะสัตว์จริงๆ หรือสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ ความสามารถในการแยกหัวออกจากร่างกายและบินได้ของกระสือนั้นไม่สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน

จากมุมมองทางชีววิทยา การแยกหัวออกจากร่างกายและการบินในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในสิ่งมีชีวิตชนิดใด เพราะมันไม่สอดคล้องกับหลักการของชีววิทยาและฟิสิกส์ โดยเฉพาะในแง่ของการรักษาชีวิตของเซลล์และการส่งเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย

 

หนึ่งในทฤษฎีที่พยายามอธิบายปรากฏการณ์ของกระสือคือการมองมันเป็นภาพหลอนหรือการตีความผิดพลาดของสิ่งที่ผู้คนเห็นในยามค่ำคืน บางคนอาจจะมองเห็นสัตว์อื่นๆ เช่น ค้างคาวหรือสัตว์ที่บินได้ในยามค่ำคืน แล้วตีความว่าเป็นกระสือ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติบางอย่าง เช่น การเกิดแสงสะท้อนในที่มืด หรือภาพลวงตาจากสภาพแวดล้อมอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด

 

ในทางจิตวิทยา เรื่องราวของกระสืออาจเกี่ยวข้องกับความกลัวและความไม่เข้าใจในสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ ผู้คนในสมัยก่อนอาจจะใช้ตำนานเหล่านี้เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ เช่น การสูญเสียเลือดโดยไม่มีสาเหตุ หรือการพบเห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะมีชีวิตในยามค่ำคืน

 

ในปัจจุบัน กระสือยังคงเป็นหนึ่งในตำนานที่ถูกเล่าขานต่อเนื่องและได้รับความนิยมในวัฒนธรรมไทย บางครั้งมันถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์หรือซีรีส์เพื่อสร้างความตื่นเต้นและความหลอนให้กับผู้ชม แม้ว่าความเชื่อเรื่องกระสือจะลดน้อยลงในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีผู้คนบางกลุ่มที่ยังคงเชื่อในตำนานนี้และมองมันเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อทางวิญญาณ

 

คำถามที่ว่า กระสือมีจริงไหมยังคงเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ตำนานกระสือยังคงเป็นที่นิยมและสร้างความหลอนให้กับผู้คน แต่จากมุมมองทางวิทยาศาสตร์ กระสือไม่สามารถมีอยู่จริงได้ตามหลักการทางชีววิทยาและฟิสิกส์ที่เรารู้จัก การพบเห็นกระสืออาจจะเป็นแค่ภาพหลอนหรือการตีความผิดจากสิ่งที่ผู้คนเห็นในยามค่ำคืน อย่างไรก็ตาม ตำนานของกระสือยังคงเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทย และเป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าขานกันอย่างยาวนาน

เนื้อหาโดย: jj000
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
jj000's profile


โพสท์โดย: jj000
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เตือนภัย! ผลไม้ 3 อย่างที่เซลล์มะเร็ง "ชอบ" แต่คนไทยกินกันบ่อยมาก!เตือนภัย! สาวจีนตามเทรนด์สาดน้ำสุดฮิต แต่จบด้วยน้ำร้อนลวกตัวดราม่าแรง! ร้านอาหารจีนตลาดคลองเตย ไรเดอร์บอกเหม็นจนจะอ้วกงูสีสันสะดุดตาแห่งแคลิฟอร์เนีย: California Red-Sided Garter Snakeสาวสวยอินเตอร์ ตะลุยเขาสก สัมผัสธรรมชาติที่เหมือนหลุดไปในหนังอวตารชีวิตหลังแสงสี! "ทองขาว ภัทรโชคชัย" จากพระเอกดาวรุ่ง สู่พ่อค้าสะเต๊ะไก่ในวันเรียบง่ายเปิดโปรไฟล์ โฟม เบ็ญจมาส ภรรยา เจมส์จิ พร้อมอาชีพที่หลายคนอยากรู้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชีวิตหลังแสงสี! "ทองขาว ภัทรโชคชัย" จากพระเอกดาวรุ่ง สู่พ่อค้าสะเต๊ะไก่ในวันเรียบง่ายเตือนภัย! ผลไม้ 3 อย่างที่เซลล์มะเร็ง "ชอบ" แต่คนไทยกินกันบ่อยมาก!"แบมแบม" โต้ข่าวลือไปทำศัลยกรรมหน้า ลั่น! "จะเอาเวลาที่ไหนไปทำ"เมื่อฉันไปบาหลี EP.4 Monkey forest Ubudงูสีสันสะดุดตาแห่งแคลิฟอร์เนีย: California Red-Sided Garter Snake
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ขี้เถ้าถ่าน มีประโยชน์มากที่หลายคนยังไม่รู้เตือนภัย! ผลไม้ 3 อย่างที่เซลล์มะเร็ง "ชอบ" แต่คนไทยกินกันบ่อยมาก!งูสีสันสะดุดตาแห่งแคลิฟอร์เนีย: California Red-Sided Garter Snakeสาวเกาหลีเหนือทุกคนต้องโดน!? เปิดชีวิตผู้หญิงที่เกาหลีเหนือ
ตั้งกระทู้ใหม่