โรคพิษสุนัขบ้าจะแสดงอาการอย่างไรแล้วทำไมเป็นโรคพิษสุนัขบ้าถึงกินน้ำไม่ได้
(Rabies) เป็นโรคร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัส Rabies virus และสามารถติดต่อสู่คนได้ผ่านการถูกสัตว์ที่ติดเชื้อกัดหรือข่วน หากมีการติดเชื้อแล้ว อาการของโรคจะปรากฏใน 3 ระยะสำคัญ ดังนี้
1. ระยะแรก (ระยะเริ่มต้น)
มีไข้ต่ำ
ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
คันหรือเจ็บแผลบริเวณที่ถูกกัด
มีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้
2. ระยะตื่นเต้น (Excitative Stage)
กระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย
กลัวน้ำ (Hydrophobia) หรือกลัวลม (Aerophobia)
กล้ามเนื้อกระตุกหรือชักเมื่อสัมผัสน้ำ
น้ำลายไหลมากผิดปกติ
หายใจลำบากและกลืนลำบาก
พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เช่น ก้าวร้าว หรือหวาดกลัว
3. ระยะอัมพาต (Paralytic Stage)
กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ชาเป็นบริเวณ
หมดสติ
เสียชีวิตจากการหยุดหายใจหรือหัวใจล้มเหลว
ข้อสำคัญ
หากแสดงอาการแล้ว โรคนี้จะไม่สามารถรักษาได้ และมักนำไปสู่การเสียชีวิตในเวลาไม่นาน
หากสงสัยว่าถูกสัตว์ที่อาจติดเชื้อกัด ให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที และไปพบแพทย์เพื่อรับวัคซีนป้องกันโดยด่วนการป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ
โรคพิษสุนัขบ้าทำให้ผู้ป่วย "กลัวน้ำ" หรือ Hydrophobia เนื่องจากไวรัส Rabies virus มีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะบริเวณสมองที่ควบคุมการกลืนและการทำงานของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำ โดยสาเหตุหลักมีดังนี้:
1. การอักเสบของสมองและระบบประสาท
ไวรัสพิษสุนัขบ้าทำให้เกิดการอักเสบในสมอง (encephalitis) โดยเฉพาะส่วนที่ควบคุมการกลืนและการหายใจ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สามารถควบคุมการกลืนได้
2. กระตุ้นการตอบสนองผิดปกติ
เมื่อผู้ป่วยเห็นน้ำ ได้ยินเสียงน้ำ หรือพยายามดื่มน้ำ ระบบประสาทจะเกิดการตอบสนองแบบผิดปกติ ทำให้เกิดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อที่ใช้กลืน หรืออาการชัก ซึ่งเป็นผลจากการที่ไวรัสกระตุ้นให้เกิดการหดตัวผิดปกติของกล้ามเนื้อ
3. อาการกลัวและหลีกเลี่ยงน้ำ
เนื่องจากการดื่มน้ำทำให้เกิดความเจ็บปวด ผู้ป่วยจึงพัฒนาความกลัวหรือหลีกเลี่ยงน้ำโดยธรรมชาติ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของโรคพิษสุนัขบ้า
สรุป
"กลัวน้ำ" หรือ Hydrophobia เป็นอาการเฉพาะของโรคพิษสุนัขบ้าที่เกิดจากผลกระทบต่อสมองและระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้การดื่มน้ำหรือแม้แต่การมองเห็นน้ำกระตุ้นให้เกิดความเจ็บปวดและกล้ามเนื้อกระตุก นี่เป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่าโรคเข้าสู่ระยะรุนแรงและอันตรายถึงชีวิตแล้ว
1. กรมควบคุมโรค (ประเทศไทย)
เว็บไซต์: www.ddc.moph.go.th
มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า การป้องกัน และวิธีการดูแลตนเองหลังถูกสัตว์กัด
2. องค์การอนามัยโลก (WHO)
เว็บไซต์: www.who.int
มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าในระดับสากล
3. ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC)
เว็บไซต์: www.cdc.gov
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกัน การฉีดวัคซีน และคำแนะนำกรณีฉุกเฉิน
4. โรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่
สามารถสอบถามข้อมูลหรือปรึกษาแพทย์โดยตรงเพื่อขอคำแนะนำและวัคซีนป้องกัน