กฎ 5 ข้อทองคำจากหนังสือ The richest man
ปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจในเรื่องการเงินเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะมีอาชีพเลี้ยงครอบครัวอยู่แล้ว ทว่าหลายๆ คนกลับมองหาอาชีพที่ 2, 3, 4 เพื่อเพิ่มจำนวนเงินให้ได้กว่าเดิม ผู้คนหันมาสนใจเรื่องการลงทุนในกองทุน พันธบัตรต่างๆ รวมไปถึงหุ้น นอกจากนี้อสังหาริมทรัพย์และการทำธุรกิจก็เป็นหนึ่งในโจทย์ที่ผู้คนให้ความสนใจมากเช่นกัน จะว่าไปแล้วมนุษย์ก็มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนเพื่อหาทางทำเงินมากมาย การมีเงินมากๆ เรียกได้ว่าเป็นเทรนของคนสมัยนี้เลยทีเดียว
🫧 การหาเงินได้มากเป็นเรื่องที่ดี แต่จะว่าไปแล้วการเก็บหอมรอมริบไว้ได้มากคงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะหลายๆ คน หรือครัวเรือนประสบปัญหารายรับไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ทั้งๆ ที่คนในบ้านแทบจะทำงานกันหมดทุกคน แต่ก็ประสบปัญหาการหมุนเงินแบบเดือนชนเดือน แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มีสาเหตุมาจากอะไรกัน?
📝 ถ้าให้ผู้เขียนบอกเล่าปัญหาที่พบเจอจากครอบครัวหรือคนใกล้ตัวของผู้เขียนเอง ส่วนใหญ่มาจากการเป็นหนี้สินที่เกินควร ไม่ได้เก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉินเพราะเอาเงินส่วนใหญ่จากรายรับไปใช้หนี้และใช้จ่ายในครัวเรือน ยิ่งบ้านไหนมีลูกเล็กเด็กแดงแล้วยิ่งปลอดจากคำว่าเงินเก็บโดยสิ้นเชิง การบริหารจัดการเรื่องเงินที่ไม่ค่อยดี บางทีหัวหน้าครัวเรือนอย่างสามีเอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ภรรยาตักเตือนก็ทะเลาะเบาะแว้งบางครั้งนำมาซึ่งการทุบตีทำร้าย
มาเข้าสู่เนื้อหาที่ผู้เขียนต้องการนำมาบอกเล่าให้ผู้อ่านกัน 📌 ท้าวความซักนิด ก่อนหน้านี้ผู้เขียนได้ติดตามเพจ Money coach 🪙 ซึ่งมีคุณหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์ เป็นเจ้าของ พี่หนุ่มแกก็เขียนเกี่ยวกับสาระเรื่องการเงินต่างๆ ให้ผู้ติดตามได้ความรู้และนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง ต่อมาวันหนึ่งทางเพจได้ประกาศลงหน้าเพจเกี่ยวกับการอัดคลิปพูดถึงแรงบันดาลใจด้านการเงินหรืออะไรซักอย่าง(ผู้เขียนเองก็ลืมไปแล้วด้วยสิ 🫣) ผู้เขียนก็อัดและส่งไป ปรากฏว่าได้รับคัดเลือกรับรางวัลด้วย หากคนไหนที่ได้รับคัดเลือกสามารถไปรับกับพี่หนุ่มแกได้ที่กรุงเทพฯ ทว่าผู้เขียนอยู่ต่างจังหวัดและติดธุระเลยไม่ได้ไป จึงได้ของรางวัลที่จัดส่งมาตามไปรษณีย์แทน
📍 ในบรรดาหนังสือที่ผู้เขียนได้ มีเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่งที่มองไปเห็นก็อยากหยิบขึ้นมาอ่านทันที แม้จะยังอ่านไม่จบแต่เมื่อผ่านหน้าสำคัญๆ อย่างหัวข้อที่เราจะพูดกันวันนี้ ผู้เขียนก็อยากหยิบยกที่พี่หนุ่มแกได้ให้สาระความรู้ในเล่มมาแบ่งปันทุกคนเช่นกัน โดยเนื้อหามีสาระสำคัญเกี่ยวกับการใช้และเก็บรักษาเงิน มีประโยคหนึ่งในเนื้อหาที่ผู้เขียนชอบคือ "คนเราจะมีทองคำมากขึ้น เมื่อพวกเขารู้จักกฎห้าข้อทองคำและปฏิบัติตาม" และพี่หนุ่มแกก็เล็งเห็นความสำคัญของสิ่งนี้ เมื่อสมัยเป็นหนุ่มถึงกับบอกในหนังสือเลยว่าจะรู้สึกไม่พอใจมากๆ หากไม่เข้าใจกฎ 5 ข้อทองคำนี้อย่างถี่ถ้วน
- กฎข้อที่หนึ่งของทองคำ ทองคำย่อมหลั่งไหลมามากขึ้นเรื่อยๆ สู่ทุกคนที่เก็บออมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมด เพื่อสร้างหลักฐานสำหรับอนาคตของตนเองและครอบครัว (เศรษฐีชี้ทางรวย หน้า 80) ทุกคนลองสังเกตได้เลยว่า เมื่อเรารับเงินเดือนมาแล้วและไม่ได้คิดถึงการหักเก็บหรือฝากไว้ นำไปจ่ายหนี้และใช้หมด ปัญหาการใช้แบบเดือนชนเดือนจะยังคงอยู่ ไม่เหลือเงินเก็บที่จะใช้ในยามฉุกเฉิน ทางกลับกันหากเราหักฝากทันทีก่อนนำไปใช้จ่ายอย่างน้อยจริงๆ ถ้าไม่ได้ถึง 10% ก็ 2-3% ก่อนก็ได้ เชื่อสิว่าทุกคนจะไม่คิดหนักเท่าตอนไม่เก็บเลยซักบาท
- กฎข้อที่สองของทองคำ ทองคำย่อมเต็มใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ให้กับเจ้าของผู้ชาญฉลาดที่รู้จักนำมันไปใช้ให้เกิดดอกออกผล มันจะทวีคูณขึ้นประหนึ่งฝูงปศุสัตว์ในท้องทุ่ง (เศรษฐีชี้ทางรวย หน้า 80) จากประโยคข้างต้นนี้ผู้เขียนตีความได้ว่า เมื่อถึงวันที่เราเก็บสะสมเงินได้มากพอที่จะนำไปลงทุนต่อ(แบบมีสติ) เงินที่นำไปลงทุนนั้นก็จะงอกเงยออกดอกออกผลให้เราได้ ในทางกลับกันหากนำเงินที่มีไปลงทุนกับอะไรซักอย่าง(แบบขาดสติคิด) ที่คิดว่าจะได้ผลตอบแทนกลับมาแบบมากๆ ข้ามวันกลายเป็นคนรวย แต่เปล่าเลย! นอกจากกำไรที่จะไม่ได้แล้ว เงินต้นก็หายไปด้วยเช่นกัน
- กฎข้อที่สามของทองคำ ทองคำย่อมภักดีเหนียวแน่นต่อเจ้าของผู้รอบคอบที่นำมันไปลงทุนภายใต้คำแนะนำของคนที่ฉลาดในการจัดการ (เศรษฐีชี้ทางรวย หน้า 81) ในส่วนนี้ผู้เขียนเห็นว่า ปัจจุบันมีหลายคนที่พยายามหาอาชีพสำรองเพื่อจะมีเงินมากขึ้นและนำเงินนั้นไปสร้างรายรับแบบ Passive income (ให้เงินทำงานให้เรา) แต่ด้วยความไม่รู้จึงอยากลอง ทำให้บางครั้งคิดไปว่าโฆษณาต่างๆ เกี่ยวกับการทำอาชีพเสริมที่เด้งขึ้นมาจะช่วยเพิ่มการเงินของเราได้ ไม่เลย! เพราะบางเว็บก็หลอกลวงเพื่อสูบเงินของเราอีกต่างหาก ดังนั้นการมีสติคิดและรู้เท่าทันจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อปกป้องเงินของเราไว้คงเดิม
- กฎข้อที่สี่ของทองคำ ทองคำย่อมหลุดลอยจากมือของคนที่นำมันไปลงทุนในธุรกิจ หรือจุดประสงค์ที่เขาไม่คุ้นเคยหรือที่ผู้เชี่ยวชาญในการเก็บรักษาทองคำไม่เห็นด้วย (เศรษฐีชี้ทางรวย หน้า 81) ความหมายในข้อนี้ผู้เขียนเห็นว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อที่สาม หากเรานำเงินของเราไปลงทุนกับใครก็ไม่รู้ที่ไม่ได้ศึกษาเขาอย่างถ่องแท้หรือเชื่อใจคนอื่นมากเกินไป แล้วเงินสลายหายไปในพริบตาเพราะความไม่รู้ก็ย่อมน่าเสียดาย กว่าจะได้เงินก้อนนั้นมาเลือดตาอาจจะแทบกระเด็น หากไม่มีสติคิดก่อนทำก็สูญเสียเงินไปได้ 🥹
- กฎข้อที่ห้าของทองคำ ทองคำย่อมหลบหนีจากคนที่บังคับให้มันหารายได้แบบเป็นไปไม่ได้หรือจากคนที่ทำตามคำแนะนำล่อใจของคนเจ้าเล่ห์เจ้าอุบาย หรือจากคนที่นำมันไปลงทุนด้วยความอ่อนประสบการณ์และด้วยความปรารถนาอันเพ้อฝันของตน (เศรษฐีชี้ทางรวย หน้า 81) ก็คงจะเป็นผลพวงลงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ข้อที่สาม หากเราไม่ตั้งสติก่อนนำเงินไปลงทุนก็ย่อมนำมาซึ่งผลเสียที่ว่า เงินต้นไม่เหลือซักบาท หรือการนำเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ไม่คิดทบทวนไตร่ตรองก็นำมาซึ่งการล้มละลายทางด้านทรัพย์สินได้ สังเกตไหมว่า? คนที่รวยมากๆ วันหนึ่งใช้เงินไปแบบไม่คิดก็กลายเป็นคนที่ไม่มีอะไรได้ ในทางกลับกัน คนที่ไม่มีอะไรในวันนี้หากรู้จักเงินเป็นอย่างดี ไม่ให้มันมาเป็นนายของเรา วันข้างหน้าย่อมกลายเป็นเศรษฐีได้เช่นกัน
หากเรารู้จักใช้เงินหรือการเป็นนายของเงิน เงินที่มีย่อมนำเงินมาให้เราเพิ่มขึ้นได้มากกว่าเดิม แต่ทว่าเงินเป็นนายเราสุดท้ายจากมีเงินมากๆ เงินทองก็หดหายและในที่สุดก็หมดไปได้เช่นกัน หลายครั้งการที่มีเงินในมือมากมายอาจจะทำให้เราขาดสติในการใช้ เพราะคิดว่ามันคงไม่หมดไปได้ง่ายๆ แต่เปล่าเลยพริบตาเดียวเท่านั้นจะรู้สึกได้เองว่า อ้าว! เงินหายไปไหน และยิ่งในยุคสมัยนี้การหารายได้ทางเดียวแทบจะทำไม่ได้แล้ว ผู้คนหาทางหารายได้เพิ่มมากขึ้นจากหนึ่งกลายเป็นสอง สาม สี่ ดังนั้นหากมีเงินก็ต้องพกสติในการใช้ด้วยเช่นกันเพื่อให้เงินอยู่กับเราและครอบครัวไปนานๆ ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินและจำเป็นนั่นเอง ✨
ขอบคุณเนื้อหาจาก: กฎ 5 ข้อทองคำจากหนังสือ The richest man in Babylon แปลโดย วรรธนา วงษ์ฉัตร คำนิยมโดย จักรพงษ์ เมษพันธุ์ และโอฬาร ภัทรกอบกิตติ์
ขอบคุณรูปภาพจาก: Canva