อะโวคาโด้ผลไม้แหล่งไขมันชั้นดี!
อะโวคาโด 🥑 ชื่อนี้ที่คุ้นเคย ผลไม้แหล่งไขมันดีชั้นเลิศ ใครที่เป็นสายสุขภาพหรือไม่ใช่สายสุขภาพจะรู้จักเป็นอย่างดี เพราะอะโวคาโดมีอยู่ทุกพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต สามารถนำไปทำเมนูได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นกินผลสดๆ นำไปปั่นเป็นน้ำเพื่อสุขภาพ หรือเอาไปปรุงเป็นวัตถุดิบในอาหารที่ให้คุณประโยชน์มากมาย ซึ่งเมนูที่หลายๆ คนอาจจะชอบ คือเอาเนื้ออะโวคาโดไปกินคู่กับขนมปัง🍞 หรือนำไปกินคู่กับโยเกิร์ต 🥛 อยู่ที่ความต้องการของแต่ละคน
อะโวคาโด เป็นผลไม้เปลือกสีเขียวหนา ภายนอกเปลือกขรุขระ หากสุกเปลือกด้านนอกจะเริ่มคล้ำขึ้นอาจเปลี่ยนจากเขียวเป็นเขียวแก่ไปจนถึงดำ ถ้าหากดำมากเกินไปก็ต้องดูให้ดีว่ายังกินได้หรือเปล่า ส่วนเนื้อด้านในเป็นนุ่มๆ เนื้อละเอียดสีขาวครีม รสชาติจืดแต่มัน บางคนก็บอกว่ารสชาติคล้ายเนยเพราะกินมากไปก็อาจเลี่ยนได้
อะโวคาโด น้ำหนัก 100 กรัมให้พลังงาน 160 กิโลแคลอรี อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ มากมาย หลักๆ คือ คาร์โบไฮเดต โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุมีสังกะสี เหล็ก ทองแดง ฟอสฟอรัส รวมไปถึงวิตามินเอ บี1,2,3 ซึ่งอะโวคาโดให้ประโยชน์มากมาย ไขมันอิ่มตัวก็น้อยจึงช่วยเรื่องโรคหัวใจ โรคเบาหวาน
ประโยชน์ของอะโวคาโด 💪
🫀 ช่วยให้สุขภาพใจแข็งแรง อะโวคาโดพบสารกรดโอเลอิกซึ่งเป็นกรดไขมันเชิงเดี่ยวที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดไขมันคอเลสเตอรอล และลดน้ำตาลในเลือด ด้วยเหตุนี้การกินอะโวคาโดจึงมีประโยชน์มากต่อการช่วยทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง เมื่อใจแข็งแรงสูบฉีดเลือดได้ดีก็ส่งผลให้อวัยวะทุกส่วนแข็งแรงร่างกายจึงแข็งแรงนั่นเอง
👁 ช่วยบำรุงดวงตาให้แข็งแรง ในอะโวคาโดมีสารลูทีนและซีแซนทีนที่ช่วยเพิ่มวิตามินบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีวิตามิน A ช่วยบำรุงและรักษาดวงตาให้แข็งแรง ชะลอความเสี่ยงกับดวงตา และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจกในผู้สูงอายุอีกด้วย
🫁 ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหารและขับถ่าย อะโวคาโดเป็นอีกผลไม้ที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ได้อีก
🧠 ช่วยเรื่องความจำในเด็กและลดความเสี่ยงซึมเศร้า อะโวคาโดอุดมไปด้วย DHA ซึ่งช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบสมองในเด็ก ช่วยเพิ่มความจำ และส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้มีความฉลาดรอบรู้ นอกจากนี้อะโวคาโดยังมีโฟเลตหรือวิตามินบี 9 สูง โฟเลตช่วยป้องกันการคั่งของสารโฮโมซีสทีนหรือโฮโมซีสเทอีน หากร่างกายมีสารชนิดนี้มากเกินไปจะทำให้การไหลเวียนเลือดและการลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงสมองผิดปกติทำให้ไม่รู้จักรับมือกับสภาวะเครียด อีกทั้งเกิดการนอนไม่หลับจนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้นั่นเอง
💅 ช่วยเรื่องความสวยความงาม ในอะโวคาโดมีวิตามินอีที่ช่วยเรื่องบำรุงผิว ปกป้อง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ชะลอริ้วรอยแห่งวัยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ นอกจากยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวทุกส่วนในร่างกายไม่เป็นผิวเปลือกส้ม และสารต่อต้านอนุมูลอิสระนี้ยังช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ หรือโมเลกุลที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคมะเร็ง อัลไซเมอร์ และโรคหัวใจ
นอกจากประโยชน์ทั้งห้าข้อที่ได้กล่ามาแล้วข้างต้น อะโวคาโดยังมีสรรพคุณที่ดีอีกมากมายให้ผู้คนได้ลองชิมลองกินเพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรง แต่ถ้าหากกินมากเกินควรอาจนำผลร้ายที่เราไม่ต้องการมาให้ เพราะทุกสิ่งอย่างต้องตั้งอยู่บนความพอดี ใช่อยู่ที่ว่าอะโวคาโดเป็นไขมันเดี่ยวชั้นดีทว่ากินในปริมาณที่มากเกินไปก็ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
ขอขอบคุณรูปภาพ: Canva