อาถรรพ์ผีเตียงสยอง
ในคืนหนึ่งของฤดูฝนที่หนาวเหน็บ มันเกิดขึ้นที่บ้านหลังเก่าร้างแห่งหนึ่งในหมู่บ้านห่างไกลจากตัวเมือง บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนที่ดินที่มีประวัติศาสตร์อันน่าขนลุก ไม่มีใครกล้าซื้อบ้านนี้มานานหลายปี แม้จะมีการขายหลายครั้ง แต่ก็มักจะถูกทิ้งร้างไปเสมอ จนกระทั่ง "ปณิชา" หญิงสาวผู้ต้องการที่อยู่อาศัยในราคาถูกตัดสินใจย้ายเข้ามา
ปณิชาคือสาวนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับบ้านหลังนี้จากคนในหมู่บ้าน แต่เธอกลับไม่เชื่อเรื่องเหล่านั้น และคิดว่ามันคงเป็นแค่ตำนานเล่าขานกันมาเท่านั้น แต่เมื่อเธอเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นครั้งแรก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เหมือนมีบางสิ่งมองเธออยู่ทำให้เธอขนลุกเล็กน้อย
คืนแรกที่เธอนอนอยู่ในบ้าน ทุกอย่างดูเหมือนปกติ แต่หลังจากตีสอง ความรู้สึกแปลก ๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น เธอได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ มาจากใต้เตียง เสียงนั้นเหมือนกับเสียงของคนที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ ปณิชารีบกระโดดลงจากเตียงและเปิดไฟ แต่ก็ไม่พบอะไรเลย นอกจากความเงียบสนิท
เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นแค่ความฝัน หรือผลจากความเครียด แต่เหตุการณ์กลับไม่จบแค่นั้น ในคืนถัดมา เมื่อเธอนอนหลับ เธอรู้สึกเหมือนมีใครบางคนมานั่งข้างเตียง เธอรู้สึกถึงลมหายใจที่ร้อนและเสียงกระซิบที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ "ออกไป...ออกไปจากที่นี่" เสียงนั้นพูดซ้ำ ๆ ทำให้ปณิชารู้สึกหวาดกลัวจนแทบขยับตัวไม่ได้
ในเช้าวันถัดมา ปณิชาตัดสินใจตรวจสอบเตียงอย่างละเอียด เธอพบว่ามีรอยขีดข่วนที่ขาเตียง และบางจุดเหมือนมีเลือดแห้ง ๆ ซึมออกมาจากรอยแยก บนเตียงยังมีเสื้อผ้าเก่า ๆ วางอยู่เหมือนกับว่าเคยมีใครนอนอยู่ที่นี่มาก่อน
ปณิชาเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่เธอก็ยังไม่อยากยอมแพ้ ต่อมา เธอได้พบกับลุงทอง เจ้าของบ้านเก่าที่เคยเป็นเพื่อนกับพ่อของเธอ ลุงทองเล่าให้ฟังว่า บ้านหลังนี้เคยเป็นที่พักของครอบครัวหนึ่ง แต่เกิดเหตุการณ์สยองขึ้น เมื่อคนในครอบครัวหนึ่งนอนหลับอยู่บนเตียงนั้น คืนหนึ่ง ลูกชายของครอบครัวเกิดเสียชีวิตอย่างลึกลับในขณะที่นอนหลับบนเตียง โดยไม่มีร่องรอยบาดแผลหรือเหตุผลที่ชัดเจน หลังจากนั้น ครอบครัวนี้ก็ย้ายออกไป และไม่มีใครกล้ากลับมาที่บ้านหลังนี้อีกเลย
ลุงทองบอกกับปณิชาว่า "เตียงนั้น...มันถูกคำสาป ตอนที่เด็กคนนั้นตาย เขาไม่ได้รับการชำระวิญญาณที่แท้จริง วิญญาณของเขาถูกผูกพันกับเตียง และใครก็ตามที่นอนบนเตียงนั้นจะต้องเผชิญกับคำสาป"
ปณิชาไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ลุงทองพูด แต่เมื่อเธอกลับมาที่บ้านและนอนในเตียงนั้นอีกครั้ง ความฝันของเธอกลับกลายเป็นฝันร้าย ทุกคืนเธอเห็นเด็กชายคนนั้นยืนอยู่ที่ปลายเตียงพร้อมกับหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด และรอยยิ้มที่เยือกเย็นจนเธอไม่สามารถขยับตัวได้
ในที่สุด ปณิชาเริ่มค้นหาวิธีการแก้คำสาปนี้ และพบว่า เธอจะต้องคืนเตียงนั้นไปยังที่ที่มันมาจาก ซึ่งเป็นการทำพิธีบูชาด้วยวิธีโบราณเพื่อปลดปล่อยวิญญาณจากคำสาปและให้มันหลุดพ้นจากเตียงนั้น
คืนสุดท้ายที่เธอตัดสินใจทำพิธี เธอนำเตียงออกจากบ้านและไปยังป่าลึกที่ห่างไกลจากหมู่บ้าน แต่ทันทีที่เธอวางเตียงลงบนพื้นดิน เสียงกระซิบก็กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง และเธอได้ยินคำพูดสุดท้ายจากวิญญาณนั้น "ขอบคุณที่ปลดปล่อยข้า..."
เมื่อพิธีเสร็จสิ้น วิญญาณนั้นก็หายไป พร้อมกับความเงียบสงบที่กลับคืนมา ปณิชากลับบ้านและตัดสินใจย้ายออกจากที่นั่น แต่เธอจะไม่มีวันลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเตียงอาถรรพ์นี้
เตียงเก่า ๆ ที่เคยเป็นอาถรรพ์ ผีสยอง กลายเป็นเพียงความทรงจำในค่ำคืนที่ไม่มีวันลืม...