ความลับสุดพิศวงของหัวกะโหลกแก้ว Crystal Skulls
กะโหลกแก้วหรือ Crystal Skulls มีรูปร่างเหมือนกะโหลกศีรษะของมนุษย์ และยังมีขนาดใกล้เคียงกันอีกด้วย หัวกะโหลกทำมาจากแก้วคริสตัลใส สันนิษฐานว่าน่าจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 13 หัว ซึ่งมีความเชื่อกันว่าใครที่ได้ครอบครองครบทั้งหมด หรือทั้ง 13 หัวจะได้รับพลังมหัศจรรย์และจะสามารถครอบครองโลกได้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบอย่างแท้จริงได้ว่า กะโหลกแก้วทั้งหมดมีที่มาที่ไปอย่างไร หรือมาจากไหนกันแน่ แต่มีข้อสันนิษฐานกันว่าน่าจะเป็นวัตถุโบราณจากอารยธรรมแอชเท็ก
โดยในปี ค.ศ.1898 ซึ่งตรงกับ พ.ศ.2441 หรือเมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษได้มาครอบครองหัวกะโหลกแก้วไว้ 1 หัว โดยซื้อมาจากร้านขายเครื่องเพชรทิฟฟานี่แห่งนิวยอร์ก ต่อมามีเรื่องเล่ากันว่าในยามค่ำคืน พนักงานของพิพิธภัณฑ์จะไม่มีใครยอมเข้าไปในห้องจัดแสดงที่มีหัวกะโหลกแก้วตั้งอยู่อย่างเด็ดขาด จะเข้าก็ต่อเมื่อมีการนำผ้าดำมาปิดดวงตากลวงของกะโหลกแก้วเสียก่อน ว่ากันว่าหากใครบังเอิญไปจ้องมองดวงตาของกะโหลกแก้ว จะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจลึกลับบางอย่าง
จากนั้นต่อมาในปี ค.ศ. 1924 หรือตรงกับปี พ.ศ. 2467 แอนนา มิทเชลล์-เฮดจ์ส ซึ่งเธอเป็นบุตรบุญธรรมของ เฟ็ดเดอริค อัล-เบิร์ท มิทเชลล์-เฮดจ์ส นักผจญภัยและนักสำรวจชื่อดัง แอนนาพบกะโหลกแก้วเข้าโดยบังเอิญอีก 1 หัว ซึ่งในขณะนั้น เฟ็ดเดอริค พร้อมด้วยทีมงานกำลังทำการสำรวจเมืองโบราณลูบานทูม ที่ตั้งอยู่ในบริติชฮอนดูรัส แล้วจู่ๆ แอนนา ก็ค้นพบหัวกะโหลกแก้วและยังตรงกับวันเกิดครบรอบปีที่ 17 ของเธออีกด้วย แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่าคนที่พบจริงๆ อาจเป็นคุณพ่อ แต่ด้วยความที่อยากให้วันเกิดครบรอบ 17 ปี ของลูกสาวเป็นวันสุดพิเศษและน่าจดจำ จึงนำหัวกะโหลกไปวางไว้ เพื่อให้ลูกสาวมาเจอและได้มีชื่อว่าเป็นผู้ค้นพบแทน ไม่เพียงเท่านั้นหัวกะโหลกแก้วหัวนี้ยังกลายเป็นหัวกะโหลกแก้วที่โด่งดังที่สุดในโลก จากการตรวจสอบพบว่ากะโหลกทำมาจากแก้วบริสุทธิ์ที่มีความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ โดยมีการคาดเดาอายุว่าน่าจะมากกว่า 3,600 ปี และน่าจะเป็นกะโหลกแก้วที่หลงเหลือมาจากแอตแลนตีส อาณาจักรปริศนาที่ยังไม่มีผู้ใดค้นพบ
นอกจากนี้ผู้ที่ครอบครองกะโหลกยังอ้างว่าพอถึงเวลาเหมาะ จะสามารถเห็นแสงภายในกะโหลกที่ปรากฏเป็นภาพออกมา จึงมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่าถ้าเมื่อใดที่สามารถค้นพบกะโหลกทั้ง 13 หัวได้ครบ จะทำให้สามารถมองเห็นภาพในอนาคตได้ แต่ในปัจจุบันเพิ่งจะมีการค้นพบเพียง 5 หัว ใน 13 หัว และที่ค้นพบแล้วก็ยังต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าใช้ของจริงหรือไม่ ทำให้กะโหลกแก้วยังคงเป็นปริศนาสุดพิศวงมาจนถึงทุกวันนี้
อ้างอิงจาก: เรื่องลี้ลับ