แสงไฟหน้าร้านของชำ
แสงไฟหน้าร้านของชำ
โดย #อักษราลัย
"พ่อครับ ผมจะไปญี่ปุ่น"
น้ำเสียงแข็งกร้าวของผมดังก้องในห้องรับแขกที่เงียบสงัด พ่อวางช้อนกับถ้วยข้าวต้มลงช้า ๆ ริ้วรอยบนใบหน้าที่เคยเข้มแข็งลึกเป็นร่องชัดขึ้นใต้แสงไฟ
"แกจะทิ้งร้านให้พ่อดูแลคนเดียวเหรอ?" เสียงพ่อแหบพร่า "พ่อส่งแกเรียนจนจบมหาลัย ไม่ใช่ให้แกไปทำงานที่อื่น"
"ผมอยากมีชีวิตของผมเอง! เดินบนเส้นทางที่เลือกเอง ไม่ใช่อยู่ใต้อาณัติของพ่อ" ผมตะโกนกลับ "พ่อจะบังคับผมไปตลอดชีวิตเลยเหรอไง?"
คำพูดสุดท้ายของผมทิ้งความเงียบไว้ในอากาศ พ่อไม่ได้ห้ามผมอีก แต่สายตาที่มองตามหลังผมในวันที่ผมเดินออกจากบ้านนั้น ยังคงตามหลอกหลอนผมมาตลอดสิบปี
---
"คุณคะ ลูกไม่ยอมกินข้าว" เสียงภรรยาปลุกผมจากภวังค์ ผมมองดูลูกชายวัยสองขวบที่นั่งร้องไห้งอแงบนโต๊ะอาหาร
"ผมจะป้อนเอง" ผมบอก หยิบช้อนขึ้นมาตักข้าว พยายามเคี่ยวเข็ญให้ลูกกิน ความอดทนของผมถูกทดสอบในทุกคำข้าว แต่ผมไม่ยอมแพ้
จู่ ๆ ภาพของพ่อที่นั่งป้อนข้าวผมตอนเด็ก ๆ ก็แวบเข้ามา ภาพที่ผมเคยดื้อไม่ยอมกินข้าว และพ่อก็นั่งอยู่ตรงหน้า ทำแบบที่ผมกำลังทำอยู่นี้
โทรศัพท์สั่น ข้อความจากแม่
"พ่อเป็นมะเร็งระยะที่สอง หมอเพิ่งตรวจเจอ ลูกกลับมาหาพ่อหน่อยได้ไหม?"
น้ำตาผมรินไหลลงมาเป็นสายโดยไม่รู้ตัว ผมเพิ่งเข้าใจว่าความรักของพ่อนั้นเป็นแบบไหน เมื่อผมได้เป็นพ่อเองแล้ว
---
ร้านขายของชำเล็ก ๆ นั้นยังคงเหมือนเดิม แต่พ่อที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ดูผอมลงไปมาก ผมเดินเข้าไปกอดพ่อ สัมผัสได้ถึงกระดูกที่โผล่ใต้เสื้อ
"ผมขอโทษครับพ่อ" น้ำตาไหลอาบแก้ม "ผมเพิ่งเข้าใจ... เพิ่งเข้าใจว่าที่พ่อทำทุกอย่างนั้น มันคือความรัก"
พ่อลูบหลังผมเบา ๆ เหมือนตอนที่ผมยังเป็นเด็ก มือที่หยาบกร้านจากการทำงานหนักบัดนี้เย็นเฉียบและบอบบาง "พ่อรอวันนี้มานาน" เสียงพ่อสั่นเครือ "ทุกวันพ่อมองออกไปนอกร้าน หวังว่าจะเห็นแกเดินกลับมา"
พ่อเอื้อมมือไปหยิบกล่องไม้เก่า ๆ ใต้เคาน์เตอร์ เปิดออกให้ผมดู ข้างในเต็มไปด้วยจดหมายที่ผมเคยส่งมาในช่วงแรก ๆ ที่ไปญี่ปุ่น รูปถ่ายตอนผมเรียนจบปริญญาโท ทุกอย่างถูกเก็บรักษาอย่างดี
"พ่อภูมิใจในตัวแกเสมอนะ" พ่อกระซิบ "แค่กลัวว่า... ถ้าแกจากไป พ่อจะเหงา"
ผมกอดพ่อแน่นขึ้น สูดกลิ่นคุ้นเคยของร้านขายของที่ผสมกับกลิ่นยาของพ่อ "ผมจะไม่ไปไหนแล้วครับ" ผมพูดทั้งน้ำตา "ผมจะพาลูกมาหาคุณปู่บ่อย ๆ เราจะได้อยู่พร้อมหน้ากัน"
รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าที่เหนื่อยล้าของพ่อ "พ่อจะสู้" พ่อกระซิบ "พ่อจะสู้เพื่อดูหลานเติบโต เพื่อสอนเขาคิดเลขทำการบ้าน เหมือนที่เคยสอนแก"
คืนนั้น เราสองพ่อลูกนั่งคุยกันจนดึก พ่อเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของผมที่ผมลืมไปแล้ว เล่าถึงคืนที่ผมป่วยและพ่อต้องอุ้มผมไปหาหมอตอนเที่ยงคืน เล่าถึงวันแรกที่ผมเข้าเรียน และความภาคภูมิใจทุกครั้งที่ผมสอบได้คะแนนดี
ขณะที่ฟังพ่อเล่า ผมมองออกไปนอกร้าน แสงไฟหน้าร้านของชำยังคงสว่างเจิดจ้า เหมือนที่มันเคยสว่างรอผมทุกคืนตลอดสิบปีที่ผ่านมา
และในค่ำคืนนั้นเอง ผมถึงเข้าใจว่า... บางครั้งเราเดินทางไกลเพียงเพื่อค้นพบว่า ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้น มักรอ
อยู่ที่จุดเริ่มต้นเสมอ
………. ☘️ ……….