ปีใหม่มาอีกแล้ว! ช่วงเวลาแห่งการกลับบ้านรวมญาติ (และการโดนถามเรื่องแฟน) การเดินทางกลับบ้านไม่ใช่แค่เตรียมของขวัญหรือคิดว่าจะตอบคำถามป้าข้างบ้านยังไง แต่ต้องเริ่มจากการเช็กสภาพรถให้พร้อมก่อนด้วย! วันนี้เรามีทริคตลกๆ แต่สาระล้น มาแบ่งปันเพื่อให้คุณขับรถกลับบ้านแบบชิลๆ ไม่ต้องจอดข้างทางให้ลุงข้างบ้านมาช่วยเข็น
1. ยางรถยนต์ เช็กให้เหมือนเช็กหุ้น
ยางรถเป็นเหมือนขาอ่อนของรถ ถ้ามันแบน ระวังจะได้วิ่งลงเข็นแทน เช็กว่าไม่มีรอยแตกหรือร่องลึกแบบที่เห็นแล้วอยากร้องไห้ ถ้ายางหมดสภาพก็เปลี่ยนซะ อย่าคิดว่า “เดี๋ยวค่อยเปลี่ยน” เพราะถ้าแตกกลางทาง คุณอาจได้เปลี่ยนรถใหม่แทน!
2. น้ำมันเครื่อง ไม่ใช่น้ำปลาร้า เติมบ่อยๆ จะได้ลื่นปรื๊ด
เปิดฝากระโปรงรถ แล้วเช็กระดับน้ำมันเครื่องด้วย! ถ้าน้ำมันเครื่องน้อยเหมือนเงินในกระเป๋าหลังปีใหม่ รีบเติมหรือเปลี่ยนทันที เพราะถ้าปล่อยให้แห้ง รถคุณจะเหมือนกระทะที่ไม่ได้ใส่น้ำมัน อาจพังกลางทางได้
3. แบตเตอรี่ อย่ารอให้ดับกลางแยก
ปีใหม่คือฤกษ์ดีที่จะเช็กแบตเตอรี่ ถ้าสตาร์ทรถแล้วเสียงเหมือนแมวโดนเหยียบหาง อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบต อย่าลืมตรวจสายแบตด้วยนะ ถ้ามีรอยขาดหรือหลุดลุ่ยรีบจัดการ ไม่งั้นคุณอาจต้องพึ่งใจคนแปลกหน้ามาช่วยพ่วงแบตกลางถนน
4. ไฟหน้า-ไฟท้าย เช็กเถอะเพื่อความปลอดภัย (และไม่โดนตำรวจจับ)
ปีใหม่ รถติดทุกที่ ไฟหน้าคือเพื่อนแท้ในการเดินทาง ถ้าไฟข้างใดข้างหนึ่งดับ รีบเปลี่ยนซะ เพราะไม่ใช่แค่เพื่อความปลอดภัย แต่ยังช่วยประหยัดเงินค่าปรับ ถ้าโดนตำรวจเรียก!
5. น้ำในหม้อน้ำ เติมให้เต็ม อย่าให้รถร้องขอน้ำกลางทาง
หม้อน้ำคือหัวใจของการเดินทางไกล ถ้าน้ำในหม้อน้ำน้อย รถอาจร้อนจนพังได้ ให้เปิดเช็กทุกครั้งก่อนเดินทาง และเติมน้ำให้เต็ม (น้ำเปล่านะ ไม่ใช่น้ำหวาน!) ถ้าอยากชัวร์ ให้เติมน้ำยาหล่อเย็นไปด้วย รถจะได้ไม่งอแงกลางถนน
ไปถึงบ้านแบบปลอดภัยแน่นอน!
เช็กสภาพรถไม่ได้ยากเหมือนสอบผ่านซะหน่อย! ใช้เวลาแค่ 10-15 นาทีในการตรวจสอบทุกจุด แล้วคุณจะได้เดินทางกลับบ้านอย่างมั่นใจ แบบไม่ต้องกลัวจอดเสียกลางถนนให้ญาติๆ หัวเราะใส่ อย่าลืมเตรียมเพลงเพราะๆ ขนมอร่อยๆ และใจที่พร้อมตอบคำถามญาติๆ ว่า “เมื่อไหร่จะพาแฟนมาให้ดู?” แล้วขับรถกลับบ้านให้ถึงจุดหมายด้วยความปลอดภัย สุขสันต์วันปีใหม่!