ที่มาของชื่อ "สะพานซังฮี้" หรือ สะพานกรุงธน ในปัจจุบัน สะพานเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ของกรุงเทพมหานคร
ท่ามกลางสายน้ำแห่งเจ้าพระยาและประวัติศาสตร์กรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ มีสะพานหนึ่งที่เชื่อมโยงไม่เพียงแค่สองฝั่งแม่น้ำ แต่ยังเป็นสะพานแห่งความทรงจำและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง สะพานกรุงธน หรือที่เราคุ้นเคยในชื่อ "สะพานซังฮี้" คือส่วนสำคัญของเรื่องราวนี้
สะพานที่เกิดจากความตั้งใจของสองวัฒนธรรม
สะพานกรุงธนเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2497 จากความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและบริษัทฟูจิ คาร์แมนูแฟ็กเจอริง จำกัด แห่งประเทศญี่ปุ่น โครงสร้างเหล็กที่มั่นคงและงบประมาณกว่า 24.8 ล้านบาทในยุคนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการสร้างสะพานที่ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางข้ามแม่น้ำ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความทันสมัยในสมัยนั้น
สะพานแห่งนี้เปิดการจราจรครั้งแรกในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2500 พร้อมกับบทบาทสำคัญในการช่วยแบ่งเบาการจราจรจากสะพานพระพุทธยอดฟ้า ทำให้การเดินทางของคนกรุงเทพฯ สะดวกและรวดเร็วขึ้น
“สะพานซังฮี้” กับความหมายที่แฝงในชื่อ
ชื่อ "ซังฮี้" มาจากคำในภาษาจีนที่มีความหมายว่า "ความยินดีมาสองอย่างพร้อมกัน" (雙喜) สะท้อนถึงแนวคิดที่เชื่อมโยงความสุขและความเป็นสิริมงคล โดยชื่อถนนซังฮี้ ซึ่งเป็นต้นทางของสะพาน ถูกตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 อิงตามลวดลายเครื่องถ้วยชามจีนที่เป็นที่นิยมในราชสำนัก
เมื่อสะพานถูกสร้างขึ้น ประชาชนที่ยังไม่ทราบชื่ออย่างเป็นทางการ จึงเรียกสะพานนี้ตามชื่อถนนต้นทางว่า "สะพานซังฮี้" ชื่อนี้จึงติดปากและคงอยู่คู่กับสะพานแห่งนี้จนถึงทุกวันนี้
สะพานกรุงธน: สะพานของวิถีชีวิตและมุมมองใหม่
ปัจจุบัน สะพานกรุงธนยังคงทำหน้าที่เป็นเส้นทางสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างเขตดุสิตและเขตบางพลัด แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินเล่นหรือปั่นจักรยามเย็น สะพานแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงาม โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก ซึ่งเผยให้เห็นความสงบที่ซ่อนอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ
สะพานที่สะท้อนความผูกพันของคนกรุง
สะพานกรุงธนไม่ใช่แค่โครงสร้างเหล็กและคอนกรีต แต่เป็นสะพานแห่งความทรงจำที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอาจทำให้สะพานนี้ไม่ได้โดดเด่นเหมือนสะพานใหม่ๆ แต่สำหรับใครที่ผ่านไปผ่านมา มันยังคงเป็นเส้นทางที่สะท้อนเรื่องราว ความอบอุ่น และความยินดี ที่มาพร้อมกับสายลมเย็นจากแม่น้ำเจ้าพระยา
ครั้งหน้า หากคุณได้ขับรถข้ามหรือเดินเล่นบนสะพานซังฮี้ ลองหยุดมองวิวรอบๆ แล้วจินตนาการถึงเรื่องราวที่สะพานแห่งนี้ได้เห็นผ่านกาลเวลา คุณอาจพบว่า สะพานกรุงธนไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่เป็นสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงใจคนไทยเสมอมา