การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด และได้รับความนิยมในทั่วโลก ในการแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างครอบคลุม และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
ใครที่มีปัญหาใต้ตา แล้วกำลังมองหาวิธีแก้ไขที่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และไม่ต้องพักฟื้น บทความนี้ได้สรุปเรื่องที่ต้องรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาให้แล้ว รับรองว่าจะช่วยให้คุณเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างปลอดภัย และเห็นผลแน่นอน จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลยครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyatulonic Acid) เข้าไปเติมเต็มร่องลึกบริเวณรอบดวงตา เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ใต้ตาดำคล้ำ ใต้ตาลึก ริ้วรอยใต้ตา หรือถุงใต้ตา
โดยฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติในการคงตัวอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังชั่วคราว เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะเข้าไปแทนที่คอลลาเจนที่ลดลง หรือกระดูกที่ยุบตัว ทำให้ปัญหาใต้ตาดีขึ้นทันทีหลังฉีด อีกทั้งยังสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวรอบดวงตามีความเต่งตึง เรียบเนียน และสุขภาพดีได้อีกด้วย
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยทดแทนเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใต้ตาที่สลายไป ทำให้ร่องลึกใต้ตาดูตื้นขึ้น เติมเต็มผิวหนังที่ยุบตัวให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆ ได้อีกหลายประการ ดังนี้
หากเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อย.แล้ว จะมีความปลอดภัยสูง และมีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้น้อยมาก เพราะเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว
แต่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องทำโดยแพทย์ผู้มีความชำนาญเฉพาะทางการฉีดฟิลเลอร์โดยตรงเท่านั้น เพราะถ้าคนที่ฉีดไม่ใช่หมอ ฉีดกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือแม้แต่การซื้อฟิลเลอร์ออนไลน์มาฉีดเอง ก็มีโอกาสเกิดอันตรายหลังฉีดได้ครับ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อควรรู้ที่ต้องเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ โดยการเตรียมตัวมีดังนี้
1. ศึกษาข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ละเอียด ทำความเข้าใจกระบวนการทำงานของฟิลเลอร์ ประเภทฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับการฉีดใต้ตา และ ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์เป็นอย่างไร เพื่อมีข้อมูลไปปรึกษาแพทย์ได้อย่างเข้าใจ
2. ปรึกษาแพทย์
หลังจากดูรีวิวจนมั่นใจ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานแล้ว ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะต้องปรึกษาแพทย์โดยละเอียดอีกครั้ง ทั้งปัญหาและผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยแต่ละคนจะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสาเหตุของปัญหา
โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าคนไข้ควรฉีดฟิลเลอร์ชนิดใด ปริมาณเท่าไหร่จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนั้นควรจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์กองเป็นก้อน ผิดรูปไม่สมส่วน
3. งดยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหยุดการใช้ยาที่มีส่วนผสมของกลุ่มยาแอสไพริน ยา กลุ่มต้านการอักเสบ และยาแก้ปวด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการฟกช้ำหลังฉีด สำหรับใครที่จำเป็นต้องรับยากลุ่มนี้จริง ๆ ต้องแจ้งแพทย์และปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
4. งดทานวิตามิน อาหารเสริม
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ควรงดทานวิตามินที่มีส่วนผสมของ วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม และใบแปะก๊วย เพราะวิตามินเหล่านี้จะทำให้เลือดหยุดไหลยากหรือเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดได้
5. งดออกกำลังกายหนัก
ควรงดการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
6. งดนวดหน้า แว็กซ์ขน
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ควรทำกิจกรรมประเภทนวดหน้า โกน แวกซ์ ดึงขน ผลัดเซลล์ผิว ทรีตเมนต์ และเลเซอร์ต่าง ๆ อย่างน้อย 3 วัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
7. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า
เพื่อความสะอาด ป้องกันสารปนเปื้อนต่าง ๆ หากเป็นไปได้ควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดหน้าให้เรียบร้อยก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว มีข้อควรรู้และข้อปฏิบัติเพื่อให้ฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพสูงสุดและยืดระยะเวลาฟิลเลอร์คงอยู่ได้นาน ซึ่งข้อปฏิบัติทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย ร่องลึกใต้ตา ผิวใต้ตาดำคล้ำ ตาลึก ตาโหล รวมถึงถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และไม่ต้องพักฟื้น
ใครที่มีปัญหาใต้ตาอยู่ แนะนำให้ลองเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้เลยครับ รับรองว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน แต่จะต้องทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญ ทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น เพื่อการดูแลผิวใต้ตาให้สดใสอย่างปลอดภัย