สถาบันจิตเวชในปี 1900 ดูหลอนมาก
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 สถาบันจิตเวชหรือที่เรียกว่า "โรงพยาบาลจิตเวช" เป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงความเข้าใจและการจัดการกับความเจ็บป่วยทางจิตในสังคมยุคนั้น สภาพแวดล้อมในสถาบันเหล่านี้มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง โดยมีการเปลี่ยนแปลงทางความคิดเกี่ยวกับสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี 1900 หลายสถาบันยังคงมีแนวทางการดูแลผู้ป่วยที่เน้นการควบคุมมากกว่าการรักษา ผู้ป่วยมักถูกจำกัดด้วยวิธีต่างๆ เช่น การใช้โซ่หรือเสื้อคลุมที่มีปีก ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองของสังคมที่มองว่าความเจ็บป่วยทางจิตเป็นภาวะที่ต้องได้รับการกักขัง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและถูกมองว่าเป็นภาระต่อสังคม
แม้จะมีสภาพแวดล้อมที่น่าเป็นห่วง แต่ก็มีการเคลื่อนไหวเพื่อการรักษาแบบมีจริยธรรมที่เริ่มต้นขึ้นในปลายศตวรรษที่ 18 โดยนักคิดเช่น ฟิลิปป์ ปีเนล และวิลเลียม ทูค ที่เชื่อว่าผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูได้หากได้รับการปฏิบัติด้วยความกรุณาและเคารพ แนวทางนี้เน้นความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการฟื้นฟู อย่างไรก็ตาม ในปี 1900 ความหวังนี้เริ่มลดน้อยลง เนื่องจากความแออัดและทรัพยากรที่ไม่เพียงพอทำให้หลายๆ สถาบันกลับไปใช้วิธีการควบคุมแบบเก่า
ชีวิตภายในสถาบันจิตเวชในยุคนั้นมีความแตกต่างกันไป แต่ผู้ป่วยมักจะต้องเผชิญกับตารางเวลาที่เข้มงวดและกิจกรรมประจำวันที่จำกัด บางคนอาจได้ทำงานเช่น การเย็บผ้าหรือทำสวน ซึ่งถือว่าเป็นวิธีหนึ่งในการบำบัด แต่หลายคนก็ต้องเผชิญกับการถูกกักตัวหรือถูกจำกัดหากไม่ร่วมมือ สภาพแวดล้อมภายในสถาบันมักจะเคร่งครัดและเต็มไปด้วยความรู้สึกของความโดดเดี่ยว