โรคติดต่อที่สำคัญมีอะไรบ้าง ภัยเงียบอันตรายที่หลายคนควรรู้จัก
โรคติดต่อ ถือเป็นภัยเงียบที่อันตราย ซึ่งมาหลังเกิดอุบัติภัยต่าง ๆ ซึ่งหลายคนควรรู้จักโรคติดต่อเหล่านี้ เพื่อเตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่สามารถติดต่อได้เหล่านี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ หรือภัยจากมนุษย์ สิ่งที่ตามมาไม่ใช่เพียงความเสียหายต่อบ้านเรือนและทรัพย์สิน แต่ยังรวมถึงภัยคุกคามที่มองไม่เห็นอย่าง "โรคติดต่อ" ที่มักจะแฝงตัวมาพร้อมกับความยากลำบากและความสับสนวุ่นวาย ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้สุขอนามัยส่วนบุคคลลดลง แหล่งน้ำและอาหารปนเปื้อน เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น และระบบสาธารณสุขอาจเสียหาย ทำให้การเข้าถึงการรักษาพยาบาลเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดโรคระบาดได้ง่ายขึ้น
โรคติดต่อ คืออะไร?
โรคติดต่อ คือ โรคที่เกิดจากเชื้อโรคต่าง ๆ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย รา หรือปรสิต ซึ่งสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คน หรือจากสัตว์สู่คนได้ โดยเชื้อโรคเหล่านี้จะเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านทางต่าง ๆ เช่น
- ทางเดินหายใจ เช่น การไอ จาม หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย
- ทางเดินอาหาร เช่น การรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
- ผิวหนัง เช่น การสัมผัสกับบาดแผลหรือผิวหนังที่ติดเชื้อ
- ทางเลือด เช่น การถูกแมลงกัดต่อย
ทั้งนี้ โรคติดต่อสามารถแพร่กระจายได้หลายวิธี เช่น
- การสัมผัสกับผู้ป่วยหรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรคโดยตรง
- การสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อโรคแล้วนำมือมาสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- การแพร่กระจายทางอากาศ เช่น การไอ จาม ทำให้ละอองที่มีเชื้อโรคกระจายไปในอากาศ
- การแพร่กระจายผ่านพาหะ เช่น ยุง แมลงสาบ หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก
โรคติดต่อที่พบได้บ่อย ๆ ในกลุ่มผู้ลี้ภัย
ผู้ลี้ภัยมักเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อสุขภาพ เช่น สภาพความเป็นอยู่ที่แออัด ขาดแคลนน้ำสะอาด อาหาร และสุขอนามัย ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคสูงกว่าคนทั่วไป ดังนั้น การทำความเข้าใจโรคติดต่อที่พบบ่อยในกลุ่มผู้ลี้ภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วโรคติดต่อมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
โรคฝีดาษวานร
โรคฝีดาษวานรเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัส orthopoxvirus ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษ แม้ว่า โรคฝีดาษจะถูกกำจัดไปแล้ว แต่โรคฝีดาษวานรยังคงมีอยู่และสามารถแพร่ระบาดได้ ซึ่งจะมีอาการของโรคที่ติดต่อ ดังนี้
- ไข้สูง อาจมีไข้สูงถึง 38.5 องศาเซลเซียส
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดหัว
- ต่อมน้ำเหลืองโต โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ คอ และขาหนีบ
- ผื่น หลังจากมีไข้ประมาณ 1-3 วัน ผื่นจะเริ่มขึ้นที่ใบหน้าและแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ผื่นจะเริ่มจากเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง และสุดท้ายตกสะเก็ด
ช่องทางการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้ ได้แก่
- การสัมผัสโดยตรงกับตุ่มน้ำพองหรือของเหลวจากตุ่มของผู้ป่วยเป็นวิธีการแพร่ระบาดที่สำคัญที่สุด
- การสัมผัสกับสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว หรือเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้ป่วย
- การสัมผัสทางเพศกับผู้ป่วยก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแพร่ระบาด
- การสัมผัสกับสัตว์พาหะ เช่น หนู กระรอก หรือลิง
COVID-19
โรค COVID-19 เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่ยังไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ ส่งผลให้ COVID-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สามารถส่งผลต่อชีวิตได้ ซึ่งจะมีอาการของโรคที่ติดต่อ ดังนี้
- ระบบทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก
- ระบบอื่น ๆ เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย สูญเสียการรับรสหรือกลิ่น ท้องเสีย
ช่องทางการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้ ได้แก่
- การสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ
- การสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส แล้วนำมือมาสัมผัสใบหน้า ตา จมูก หรือปาก
- เมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูด ละอองฝอยที่มีเชื้อไวรัสจะลอยอยู่ในอากาศ และคนอื่น ๆ อาจหายใจเอาละอองฝอยเหล่านี้เข้าไปได้
โรคมาลาเรีย
โรคมาลาเรียเกิดจากการติดเชื้อปรสิตชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า พลาสโมเดียม (Plasmodium) ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เชื้อนี้จะเข้าสู่ร่างกายของคนผ่านทางการถูกยุงก้นปล่องตัวเมียที่ติดเชื้อกัด ซึ่งจะมีอาการของโรคติดต่อ ดังนี้
- ไข้สูง เป็นอาการเด่นชัดที่สุด มักเป็น ๆ หาย ๆ
- หนาวสั่น เกิดก่อนไข้ขึ้น
- ปวดศีรษะรุนแรง
- อ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีแรง
- ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตามตัว
- อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- เหงื่อออกมาก หลังไข้ลด
- ไข้เหลือง ในรายที่มีอาการรุนแรง
ช่องทางการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้ ได้แก่
- การถูกยุงก้นปล่องกัด เป็นวิธีการแพร่ระบาดที่สำคัญที่สุด โดยยุงก้นปล่องตัวเมียที่ติดเชื้อจะดูดเลือดคน เมื่อดูดเลือด เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายของคนและทำให้เกิดโรค
- การถ่ายเลือด หรือรับเลือดจากผู้ที่ติดเชื้อมาลาเรีย
- การติดต่อจากแม่สู่ลูก เชื้อมาลาเรียสามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้
ไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน มักพบในประเทศเขตร้อนและระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี อาการของโรคไข้เลือดออกมีตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยมีอาการของโรคติดต่อ ดังนี้
- ไข้สูง อาการแรกและเด่นชัดที่สุด
- ปวดศีรษะ ปวดรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณเบ้าตา
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อต่อ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มีผื่นขึ้น อาจมีผื่นแดงคล้ายผื่นไข้ หรือมีจุดเลือดออกเล็กๆ ตามผิวหนัง
- เลือดออกง่าย เช่น เลือดออกตามไรฟัน จมูกเลือด อาเจียนเป็นเลือด
- อาการรุนแรง ในบางราย อาจมีอาการรุนแรง เช่น ช็อก เลือดออกในอวัยวะภายใน ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ช่องทางการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้ ได้แก่
- ยุงลาย เป็นพาหะนำโรคหลัก เมื่อยุงลายกัดคนที่มีเชื้อไวรัสเดงกี แล้วไปกัดคนอื่นต่อ ก็จะทำให้คนใหม่ติดเชื้อได้
- โรคไข้เลือดออกไม่สามารถแพร่กระจายโดยการไอ จาม หรือการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย
โรคหัด
โรคหัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ไวรัสหัด (Measles virus) ซึ่งเป็นไวรัสในกลุ่มพารามิกโซไวรัส (Paramyxovirus) ไวรัสชนิดนี้ จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางระบบทางเดินหายใจ และแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้เกิดอาการของโรคติดต่อนี้ต่าง ๆ ตามมา เช่น
- ระยะเริ่มแรก มีไข้สูง คัดจมูก ไอ เจ็บคอ ตาแดง และแสงจ้า
- ระยะออกผื่น จะมีผื่นสีแดงขึ้นตามลำตัว ใบหน้า และศีรษะ ผื่นจะค่อย ๆ ลามลงมาตามลำตัว และอาจมีอาการไข้สูงขึ้นอีกครั้ง
- ระยะฟื้นตัว ผื่นจะค่อย ๆ จางลงและหายไป แต่ผู้ป่วยอาจมีอาการอ่อนเพลียและไอเรื้อรังได้
ช่องทางการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้ ได้แก่
- เมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูด เชื้อไวรัสจะปะปนอยู่ในละอองเสมหะและลอยอยู่ในอากาศ ผู้ที่สูดหายใจเอาละอองเสมหะเหล่านี้เข้าไปก็มีโอกาสติดเชื้อ
- การสัมผัสกับน้ำมูกหรือน้ำลายของผู้ป่วยก็สามารถติดเชื้อได้
วัณโรค
โรควัณโรคเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อ Mycobacterium tuberculosisหรือ เชื้อวัณโรคซึ่งมักจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางการหายใจ เชื้อชนิดนี้สามารถอาศัยอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลานาน โดยบางรายอาจไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็น โดยมีอาการของโรคติดต่อ ดังนี้
- ไอเรื้อรัง เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด อาจมีเลือดปนออกมา
- เจ็บหน้าอก เมื่อไอหรือหายใจ
- น้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ
- อ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีแรง
- มีไข้ต่ำ ๆ เป็น ๆ หาย ๆ
- เหงื่อออกตอนกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าผากและฝ่ามือฝ่าเท้า
ช่องทางการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้ คือ การแพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านทางอากาศ โดยเมื่อผู้ป่วยที่มีเชื้อวัณโรคปอด ไอ จาม หรือพูด ละอองเสมหะที่มีเชื้อจะลอยอยู่ในอากาศ และเมื่อคนอื่นสูดเข้าไปก็อาจติดเชื้อได้
โรคตาอักเสบ
โรคตาอักเสบ หรือ เยื่อบุตาอักเสบ เป็นภาวะที่เยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งเป็นเยื่อบาง ๆ ที่คลุมส่วนขาวของตาและด้านในของเปลือกตา เกิดการอักเสบแดง โดยมีอาการของโรคติดต่อ ดังนี้
- ตาแดง เป็นอาการที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด
- คันตา รู้สึกระคายเคือง
- น้ำตาไหลมากกว่าปกติ
- ขี้ตา อาจเป็นน้ำใส หรือหนอง ขึ้นอยู่กับสาเหตุ
- แสบตา รู้สึกแสบร้อน
- บวมเปลือกตา ในบางราย
- กลัวแสง ไม่อยากมองแสงจ้า
ช่องทางการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนี้ ได้แก่
- สัมผัสตาหลังจากสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น มือ สิ่งของส่วนตัว
- การสัมผัสสารคัดหลั่งจากตาของผู้ป่วย เช่น ขี้ตา น้ำตา
- เชื้อบางชนิดสามารถแพร่กระจายทางอากาศได้ เช่น การไอ จาม
โรคไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่สำคัญ ได้แก่ A, B และ C โดยเชื้อไวรัสชนิด A เป็นชนิดที่ทำให้เกิดการระบาดอย่างกว้างขวางทั่วโลก ทั้งนี้ อาการของโรคติดต่อ มีดังนี้
- ไข้สูง มีไข้สูงเฉียบพลัน
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย รู้สึกอ่อนล้า ไม่มีแรง
- ไอแห้ง ๆ หรือมีเสมหะ
- เจ็บคอ คอแห้ง คอเจ็บ
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- ปวดหัว ปวดศีรษะ
โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ง่ายผ่านทางการหายใจ โดยเชื้อไวรัสจะแพร่กระจายออกมากับละอองฝอยจากการไอ จาม หรือพูดของผู้ป่วย เชื้อเหล่านี้จะลอยอยู่ในอากาศและเข้าสู่ร่างกายของผู้อื่นผ่านทางปาก จมูก หรือตา
โรคติดต่อที่แพร่ระบาดในผู้ประสบภัย ควรให้ความช่วยเหลืออย่างไร
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ เช่น โรคฝีดาษวานร (Mpox) หรือ COVID-19 นั้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยเป็นอย่างมาก ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ โดยมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ดังนี้
- จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดต่อ เช่น อาการ วิธีการแพร่ระบาด และวิธีป้องกัน พร้อมเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางต่าง ๆ ทำให้ข้อมูลเข้าใจง่าย และเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกกลุ่มคน
- จัดตั้งศูนย์บริการตรวจรักษาโรคติดต่อ, อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่เพียงพอ พร้อมให้บริการตรวจรักษาฟรี หรือในราคาที่เหมาะสม
- จัดหาอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ให้กับผู้ป่วยและผู้ที่กักตัว หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย
- จัดให้มีสายด่วนเพื่อให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา หรือจัดกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายชุมชนเพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
- บังคับใช้มาตรการทางสาธารณสุข เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมตรวจหาผู้ติดเชื้อหรือเป็นโรคติดต่ออย่างสม่ำเสมอ ดำเนินการกักตัวผู้ป่วยและผู้สัมผัสใกล้ชิด หมั่นทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่สาธารณะ
สรุปเกี่ยวกับโรคติดต่อ
โรคติดต่อ ถือว่าเป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิตของผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย การขาดแคลนทรัพยากร และการเคลื่อนย้ายของผู้คน ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อในผู้ประสบภัยจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ องค์กรเอกชน และประชาชนทั่วไป ทั้งการเข้าถึงน้ำสะอาด อาหารที่ปลอดภัย สุขอนามัยที่ดี การฉีดวัคซีน และการรักษาพยาบาลที่ทันท่วงที เป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด
ทั้งนี้ UNHCR หรือองค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัย มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสุขภาพและโรคติดต่อ ซึ่ง UNHCR ทำงานร่วมกับพันธมิตรอื่น ๆ มากมาย เพื่อจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัย รวมถึงเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้สามารถเอาชนะอุปสรรคและก้าวผ่านวิกฤตการณ์ไปได้
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
วิธีป้องกันตะขาบในบ้าน ลดเสี่ยงโดนกัด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
เลขเด็ด "ทักษาพารวย" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68...อยากถูกหวย รีบส่องเลย!
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
เลขาฯ นายกฯ โพสต์แจ้งคน อ.กันทรลักษ์ อพยพออกจากพื้นที่ด่วน
คัดมาแล้ว! รางวัลที่ 1 "โคตรแปลก" ปรากฏการณ์เลขเบิ้ลสะท้านแผง ที่ทำคนรวยเงียบๆ และทำคนพลาดร่ำไห้!
เจาะลึกสถิติหวยออกเดือนธันวาคมย้อนหลัง 35 ปี: ส่องเลขเด่นประจำงวดส่งท้ายปี
10 เมนูกุ้ง ทำง่ายๆ สูตรทอดกระเทียม กินคลีนเพื่อสุขภาพ ทำอะไรได้บ้าง
‘เขมร’ ปากสั่น! จะมี 5G ใช้แล้ว ไม่ง้อไทย
Unseen ภูผาเหล็ก สกลนคร ย้อนรอยประวัติศาสตร์ "ลายเซ็น 3,600 ปี"
ฮุนเซน หน้าแตก หลังไทยเปิดหลักฐาน เซอร์ไพรส์กลาง เวทีโลก
ปอศ. เร่งสอบเส้นเงิน "นานา ไรบีนา" นัดประชุมชุดคลี่คลายคดี ลุ้นสัปดาห์หน้าชัดเจนปม "เวย์ ไทยเทเนี่ยม"
ตร. จ่อขอหมายค้นบ้าน "นัทปง" หลังเพื่อนสนิทปฏิเสธไม่มีกุญแจ อ้างส่งคืนครอบครัวแล้ว
ตร.นัดเก็บหลักฐานบ้าน "นัทปง" 11 ธ.ค. 68 หลังญาติแจ้งเพิ่งเสร็จพิธีศพ พร้อมเรียกสอบพยานครบ 5 ปาก





