ทอม ริดเดิ้ล ซีเนียร์ สมควรต้องถูกประณามจริงหรือ
ทอม ริดเดิ้ล ซีเนียร์ สมควรต้องถูกประณามจริงหรือ
ทุกครั้งที่ย้อนอ่านประวัติของโวลเดอมอร์ในเล่มเจ้าชายเลือดผสม หลายครั้งเราก็อาจเผลอกล่าวโทษริดเดิ้ล ซีเนียร์ว่าเป็นจอมขี้ขลาดและไร้ความรับผิดชอบ เพราะเขาตัดสินใจทิ้งเมโรเพ ก๊อนท์ (ภรรยา) ที่กำลังตั้งครรภ์และไม่เคยกลับมาหาเธออีกเลย เขาไม่สนใจใยดีว่าเธอจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่แม้แต่จะออกตามหาลูกชายของตนเอง
ซึ่งเขาสมควรจะถูกประณามแบบนั้นจริงๆ หรือ?
โดยเฉพาะในทุกวันนี้ พวกเราหลายคนต่างก็รู้ดีว่า หลายครั้งผู้ชายก็เป็นเหยื่อการถูกล่วงละเมิดหรือการถูกบังคับขืนใจได้เช่นกัน
เราลองมาทบทวนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้กันอีกสักรอบดีกว่า
เมโรเพ มาจากตระกูลก๊อนท์ แม้พวกเขาจะเป็นหนึ่งในกลุ่มตระกูลเลือดบริสุทธิ์ แต่พวกเขาก็ต่างจากพวกมัลฟอยหรือพวกแบล็กที่ต่างก็มีบ้านหรือคฤหาสน์หลังงาม พร้อมเอลฟ์เป็นข้าทาสบริวาร แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังไม่ยอมทำมาหากิน เอาแต่ละเมอเพ้อพกถึงความบริสุทธิ์ของสายเลือดราวกับเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาดูยิ่งใหญ่และเป็นคนสำคัญ พวกก๊อนท์แต่งงานกันในหมู่พี่น้องเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ไว้ และผลกรรมก็ดันตกทอดมาถึงรุ่นของเมโรเพ
เมโรเพ นอกจากรูปร่างหน้าตาของเธอจะไม่ได้สะสวย (ผลจากการแต่งงานเลือดชิดหลายรุ่น) ทรัพย์สินเงินทองของตระกูลก็แทบจะไม่เหลือแล้ว เธออาศัยอยู่กับพ่อและพี่ชายในกระท่อมเล็กซอมซ่อ ที่สภาพไม่ต่างกับบ้านคนจรจัด แต่นั่นก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับการที่เธอถูกพ่อและพี่ชายข่มเหงรังแก และเธอดันตกหลุมรักทอม ริดเดิ้ล ชายหนุ่มมักเกิ้ลรูปงาม ทายาทของมหาเศรษฐีที่มีคฤหาสน์หลังงามอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอ
หลังจากพ่อและพี่ชายถูกจับส่งเข้าอัซคาบัน เมโรเพได้อิสรภาพเป็นครั้งแรกในชีวิต เธออยากแต่งงานกับทอม แต่ขณะเดียวกันเธอก็รู้ดีว่าสภาพความเป็นอยู่ของเธอนั้นเป็นอย่างไร และทอม ริดเดิ้ล (ซึ่งมีคู่หมั้นอยู่แล้ว) ก็คงไม่มีวันหันมาเหลียวมองเธอ
แต่เมโรเพก็ตัดใจจากเขาไม่ได้ ความลุ่มหลงกลายเป็นแรงผลักดันให้เธอตัดสินใช้เวทมนตร์เพื่อพันธนาการชายหนุ่มที่ตนหลงรักอย่างดูดดื่ม วันหนึ่งที่อากาศร้อนจัด ทอม ริดเดิ้ล ขี่ม้ามาตามลำพัง เธอหยิบยื่นไมตรีให้เขาโดยการชักชวนให้เขาดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้วหนึ่ง - และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ข่าวฉาวก็แพร่ไปทั่วลิตเติ้ลแฮงเกิลตัน เมื่อลูกชายของบ้านมหาเศรษฐีหนีไปกับลูกสาวของคนจรจัด
ทั้งสองหนีไปแต่งงานกัน และจากนั้นปีกว่าทอมจึงหนีกลับมาบ้าน ท่าทางตื่นกลัวและเอาแต่พูดว่า “หลอกลวง” “ตบตา” และจากคำบอกเล่าของคนแถวนั้น ทอมก็เก็บตัวและไม่ค่อยออกจากบ้านอีกเลย
จุดนี้ล่ะที่ทำให้ผมเริ่มสนใจว่า ปีกว่าๆ ที่ทอม ริดเดิ้ล (ซีเนียร์) อยู่กินกับเมโรเพ ก๊อนท์ นั้นเขาต้องตกอยู่ในสภาพใด?
แน่นอนว่าเขาคงไม่ได้ถูกเมโรเพจับกรอกยาเสน่ห์ตลอดเวลา มันคงมีบางช่วงที่สติเขากลับมาปกติเป็นพักๆ และพอเมโรเพรู้เธอก็ตัดสินใจใช้เวทมนตร์คอยทำให้เขาสงบ ทำให้เขารักและลุ่มหลงอยู่กับเธอ และเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมากี่รอบ ในเวลาเกือบปีที่ทั้งสองอยู่อาศัยด้วยกัน
ผมเองก็ไม่อยากจินตนาการไปถึงตอนที่พวกเขามี sex กันด้วยนะ แต่ก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี เพราะสุดท้ายเมโรเพ ก็อนท์ก็ได้ตั้งครรภ์ลูกชายขึ้นมา - แค่ลองคิดภาพว่าเรากำลังถูกอะไรบางอย่างกล่อมประสาทเพื่อให้ลุ่มหลงหรือหลงไหลไปกับคนตรงหน้า เพียงเพราะเขาหรือเธออยากจะมี sex กับเรา - มันถือว่าเป็นการข่มขืน (rape) รูปแบบหนึ่งได้เหมือนกันนะ เพียงแต่ในกรณีนี้ มันเป็นเวทมนตร์ไง การควบคุมก็คงจะสมบูรณ์แบบมาก แต่อย่างไรมันก็เป็น sex ที่ไม่ได้เกิดจากความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย
เมื่อท้องเริ่มโตขึ้น เมโรเพผู้ซึ่งหลงไหลสามีของเธออย่างดูดดื่ม ก็เริ่มทนไม่ได้ที่จะใช้เวทมนตร์พันธนาการเขาเอาไว้ตลอดเวลา เธอเลยคิดอย่างเข้าข้างตัวเองว่า ยังไงเสียทอมก็ต้องอยู่ต่อ ถ้าไม่เห็นแก่เธอ เขาก็ต้องเห็นแก่ลูกที่กำลังเกิดมา เพราะเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว
กลายเป็นว่าเธอคิดผิดทั้งสองอย่าง.. – เขาหนีไปจากเธอและไม่เคยกลับมาอีกเลย
แม้ว่าในหนังสือดัมเบิลดอร์จะพยายามกล่าวตำหนิหรือกล่าวโทษทอม ริดเดิ้ล ซีเนียร์ แต่ผมมองในมุมกลับกันว่า แล้วทำไมทอมจะต้องยอมอยู่กับผู้หญิงคนนี้ด้วยล่ะ?
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเมโรเพมันเริ่มต้นด้วยการหลอกลวงมาตั้งแต่แรก เขาไม่เคยรักเธอ มีแต่เธอที่ใช้เวทมนตร์พันธนาการเขาไว้อยู่ตลอดเวลา พอวันหนึ่งเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเลยถอนมนตร์นั้นออก – ลองนึกภาพว่าคุณใช้ชีวิตโดยไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้างเกือบปีกว่า จู่ๆ วันหนึ่งคุณถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา โดยมีผู้หญิงซึ่งไม่ใช่แฟนหรือคู่หมั้นของคุณอยู่ข้างๆ พร้อมกับท้องโต (แถมดันเป็นลูกสาวคนจรจัดที่คุณเคยเห็นหน้าแต่ไม่เคยรู้สึกพิศวาสเธอ) แล้วเธอบอกว่า “สวัสดีทอม ฉันคือเมียของเธอ และนี่คือลูกของเรานะ”
เป็นผม ผมก็วิ่งเหมือนกันล่ะ...
อีกอย่างพอกลับไปบ้าน ทอมก็ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองโดยที่บอกใครไม่ได้ ประการแรก คงไม่มีใครเชื่อเขาแน่ๆ ถ้าเขาบอกไปว่าที่หนีไปกับเมโรเพนั้นเป็นเพราะเขาถูกวางยาเสน่ห์ เขาคงถูกมองว่าเป็นบ้าแน่ๆ
ประการสอง เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขามัน “ยาก” ที่ผู้ชายแบบเขาจะยอมรับได้ เราต้องไม่ลืมว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงราวๆ ปี 1924-26 (ร้อยกว่าปีที่แล้ว) ถ้าเที่ยวไปบอกใครว่าเขาถูกผู้หญิงล่อลวง (แถมยังเป็นแม่มดอีก) คงจะถูกเยาะเย้ยยิ่งไปกว่าเดิมอีก
ทอมไม่ได้แต่งงานหรือมีครอบครัวอีกเลย มันอาจเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์นี้ได้สร้างบาดแผลในจิตใจของเขาไปแล้ว แถมในอีก 17 ปีต่อมา เขายังต้องมาตายด้วยน้ำมือของลูกชายที่เขาไม่เคยต้องการอีก
โศกนาฏกรรมโดยแท้...
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ แล้วพบกันกระทู้หน้าครับ
อ้างอิงจาก: พอตเตอร์ไดอารี่