2 สาวถูกพนักงานต้อนรับไล่ออกจากเครื่องบิน เพราะสวมเสื้อครอป ตัดพ้อพนักงานปฏิบัติกับพวกเธอเหมือนเป็นอาชญากร
เรื่องราวของผู้โดยสารหญิงสองคน ที่รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เรียกว่าการบังคับใช้กฎหมายด้านแฟชั่นบนเครื่องบินโดยพวกเธอถูกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบิน Spirit Airlines ไล่ออกจากเครื่องบิน เพราะพวกเธอสวมเสื้อครอป
ทาเรซาและเดลีเมล์บอกว่าพวกเธอกำลังบินจากลอสแองเจลิสไปยังนิวออร์ลีนส์เพื่อฉลองวันเกิด แต่ดันถูกลูกเรือควบคุมตัวและถูกปฏิบัติเหมือนเป็นอาชญากรเพียงเพราะพวกเราสวมเสื้อครอปท็อป
โดยทั้งคู่สวมกางเกงยีนส์และเสื้อสเวตเตอร์ แต่ถอดกระดุมออกเพื่อคลายร้อน ข้างในใส่เสื้อครอป ทำให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินตำหนิพวกเขาเรื่องการเลือกแต่งกาย
เทเรซาเขียนว่า “พวกเราถูกเจ้าหน้าที่ต้อนรับบนเครื่องบินชายคุกคาม โดยเขาบอกให้พวกเรา “ปกปิด เพราะว่าพวกเราใส่เสื้อครอปท็อปอยู่”
วิดีโอที่แสดงให้เห็นการทะเลาะวิวาทกัน เจ้าหน้าที่ต้อนรับบนเครื่องบินที่บอกให้ทั้งคู่ปิดกล้อง เทเรซาเขียนไว้ในคำบรรยายใต้ภาพว่า “คนอื่นๆ (รวมทั้งเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน) ต่างเห็นว่าไม่มีอะไรผิดที่เราใส่เสื้อผ้าแบบนี้ และการใส่เสื้อครอปก็ไม่ได้ขัดกับกฎการแต่งกาย
อย่างไรก็ตาม พวกเธออ้างว่าลูกเรือได้ตำหนิผู้โดยสารที่พยายามปกป้องพวกเธอ รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่อุ้มลูกวัยเตาะแตะด้วย สถานการณ์ที่บานปลายจนทั้งคู่ถูกไล่ออกจากเครื่องบินโดยไม่ได้คืนเงิน
เธอเสริมว่า “ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับพวกเธอว่าจะจองตั๋วเครื่องบินใหม่ให้ แต่เมื่อไล่ลงจากเครื่องบินแล้ว กลับมาบอกว่าไม่มีเที่ยวบินและปฏิเสธการคืนเงินด้วย“ ส่งผลให้พวกเธอต้องควักเงิน 1,000 ดอลลาร์เพื่อจองตั๋วเครื่องบินใหม่กับสายการบินอื่น
“นี่เป็นบริการที่แย่มาก ในปี 2024 เราจะถูกไล่ออกจากเครื่องบินเพราะมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชายคนหนึ่งไม่ชอบเสื้อของเรา” เทเรซาโกรธจัด
ทุกคนที่ทำงานที่สนามบินเห็นพ้องต้องกันว่านี่คือการกระทำที่ก่อให้เกิดอคติ การเลือกปฏิบัติ และการเหยียดเพศ
ตามกฎการขนส่งของสายการบิน ผู้โดยสารอาจถูกขอให้ออกจากเครื่องบินหาก “แต่งกายไม่เหมาะสม” หรือหากเครื่องแต่งกาย “ลามก อนาจาร“
เเต่ทั้งคู่อ้างว่าได้ติดต่อตัวแทนสายการบินไป พวกเขาแจ้งบอกว่าไม่มีอะไรที่ขัดกับกฎการแต่งกายของสายการบิน เธอยืนกราน เพราะฉะนั้นพนักงานต้อนรับทำเกินไป เราควรดำเนินการทางกฎหมาย