10 คำพูดยอดฮิตที่มักใช้แก้ตัวเมื่อรู้ว่าตนเองผิด
ทุกคนคงเคยอยู่ในสถานการณ์ที่รู้ตัวว่าตัวเองทำผิด แต่การยอมรับมันเป็นเรื่องยาก หลายคนจึงหาวิธีหลบหลีกหรือแก้ตัวด้วยคำพูดต่าง ๆ ที่คุ้นเคยจนกลายเป็นคำพูดติดปากที่ใช้กันเป็นประจำ วันนี้เราจะพามาดูคำพูดยอดฮิตที่คนส่วนใหญ่ชอบใช้แก้ตัวเมื่อรู้ว่าตัวเองผิด เพื่อจะได้สังเกตและเข้าใจมากขึ้นว่าคำพูดเหล่านี้มีผลอย่างไรต่อผู้ฟัง และที่สำคัญคือเราอาจจะต้องหลีกเลี่ยงใช้คำพูดเหล่านี้เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะตามมา
1. “ก็ไม่ได้ตั้งใจนี่นา”
คำพูดนี้เป็นคำแก้ตัวที่ใช้บ่อยที่สุดเมื่อคนเรารู้สึกผิด แต่ไม่อยากยอมรับตรงๆ เป็นการลดทอนความผิดโดยบอกว่าการกระทำที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุบัติเหตุ แม้จะไม่ได้ช่วยแก้ไขสถานการณ์แต่ก็เป็นวิธีการลดแรงกดดันจากการถูกตำหนิ
2. “ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดแบบนี้”
การยกเหตุผลว่าไม่รู้ล่วงหน้าเป็นการแสดงถึงความไม่ตั้งใจที่จะทำผิด แต่บางครั้งมันก็สะท้อนถึงการไม่ระมัดระวังที่เพียงพอเช่นกัน เป็นการแสดงความไม่รับผิดชอบและพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากความผิดของตนเอง
3. “ไม่ใช่ความผิดของฉันคนเดียวนะ”
การโยนความผิดไปให้คนอื่นเป็นวิธีการที่หลายคนใช้บ่อย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย การกล่าวโทษคนอื่นหรือแบ่งความผิดให้กับผู้อื่นเป็นการลดความรับผิดชอบของตนเองลง
4. “ฉันแค่ทำตามคำสั่ง”
คำพูดนี้มักใช้ในบริบทของการทำงานหรือการปฏิบัติหน้าที่ เป็นการชี้แจงว่าตนเองทำตามที่ได้รับคำสั่งมาและไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจเอง ทำให้ความผิดนั้นดูเป็นความรับผิดชอบของผู้สั่งการมากกว่าผู้กระทำ
5. “ฉันไม่ได้คิดว่าเรื่องมันจะใหญ่ขนาดนี้”
หลายครั้งคนเราไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ทำไปจะมีผลกระทบมาก การใช้คำพูดนี้เป็นการพยายามลดระดับความรุนแรงของการกระทำของตนเอง โดยพยายามแสดงให้เห็นว่าความผิดนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาของตนเอง
6. “ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้”
การอ้างว่าไม่ทันตั้งตัวเป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนใช้แก้ตัวเมื่อรู้ว่าผิด คำพูดนี้มักใช้ในกรณีที่การกระทำนั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดคิด หรือเพราะความไม่ระมัดระวังพอ แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ช่วยลดแรงกดดันในการรับผิดชอบ
7. “ทุกคนก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น”
การใช้ความนิยมของคนอื่นมาเป็นข้ออ้างในการแก้ตัวเป็นวิธีที่นิยม เพราะมันทำให้การกระทำที่ผิดของตนเองดูเป็นเรื่องปกติหรือเป็นที่ยอมรับ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วการทำผิดไม่ควรถูกยอมรับเพียงเพราะคนอื่นทำเช่นกัน
8. “ฉันเครียดมากตอนนั้น”
การใช้สภาพจิตใจที่ตึงเครียดหรือกดดันเป็นข้อแก้ตัว เป็นการบ่งบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่การกระทำในสภาวะที่ตนเองมีสติเพียงพอ เป็นวิธีที่พยายามบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่เพราะความเครียดทำให้เกิดการกระทำนั้นๆ ขึ้น
9. “ไม่มีใครเตือนฉันเลย”
คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพยายามหาข้อแก้ตัวจากปัจจัยภายนอก แทนที่จะยอมรับความผิดพลาดของตนเอง เป็นการโยนภาระความรับผิดชอบไปให้คนรอบข้าง ว่าควรมีใครบางคนมาช่วยเตือนหรือให้คำแนะนำก่อน
10. “ฉันแค่ลองทำดู”
เมื่อรู้สึกว่าผิดพลาดหลายคนมักใช้คำว่า ‘แค่ลองทำ’ เพื่อให้ความผิดดูไม่ร้ายแรงนัก เป็นการบ่งบอกถึงความไม่จริงจังและไม่ได้ตั้งใจในการกระทำนั้น และทำให้การกระทำผิดนั้นดูเป็นเรื่องที่เกิดจากความรู้สึกอยากลองมากกว่าการตั้งใจ
การใช้คำพูดแก้ตัวเป็นสิ่งที่หลายคนทำเพื่อหลีกเลี่ยงการยอมรับผิด แต่เราควรตระหนักว่าการยอมรับผิดอย่างจริงใจเป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นเคารพและเชื่อมั่นในตัวเราได้มากกว่า คำพูดแก้ตัวอาจจะช่วยลดแรงกดดันในระยะสั้น แต่การเผชิญกับความจริงและรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น