อ้ายซินเจว๋หลัว ผู่เจี๋ย น้องชายของจักรพรรดิผู่อี๋

🐉อ้ายซินเจว๋หลัว ผู่เจี๋ย น้องชายของจักรพรรดิผู่อี๋ 

     🔸อ้ายซินเจว๋หลัว ผู่เจี๋ย (爱新觉罗 溥杰) เกิดในราชสกุลอ้ายซินเจว๋หลัว เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1907 ตำหนักฉุนจิ้นอ๋อง กรุงปักกิ่ง​ เป็นพระโอรสในเจ้าชายไจ้เฟิงกับโยวหลันเเละเป็นพระอนุชาในจักรพรรดิผู่อี๋ ผู้ทรงเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีน

🔸ผู่เจี๋ยสมรสครั้งแรกในปี ค.ศ.1924 กับเจ้าหญิงแห่งแมนจู ถัง ฉือเสีย พระนัดดา (หลานสาว) ในพระมเหสีเค่อชุ่น(พระสนมเจิน) และพระอัครชายาจิ่นเฟย์ในจักรพรรดิ​กวังซวี่​ แต่ก็หนีห่างจากพระชายา ไปที่ญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อ ทำให้ชีวิตหลังสมรสนั้นได้สิ้นสุดลง

    🔸ในปี ค.ศ.1929 ผู่เจี๋ยได้ทรงเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อไปศึกษาต่อ พระองค์สำเร็จการศึกษาที่กะคุชูอินและสามารถตรัสภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว เเละศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาที่วิทยาลัยกองทัพจักวรรดิญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1935

  🔸ผู่เจี๋ยทรงตกลงเลือกภรรยาซึ่งเป็นสตรีชั้นสูงของญี่ปุ่นซึ่งก็คือเจ้าหญิงฮิโระ ซางะ (ฮิโระ ซางะ ทรงเป็นธิดาของ ขุนนางซาเนโตะ ซางะ และเป็นพระญาติกับสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ)

   🔸จากข้อมูลการแต่งงานครั้งนี้เเสดงออกโดยนัยทางการการเมือง และถูกมุ่งหมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง สายเลือดญี่ปุ่น กับ ราชตระกูลแมนจูกัว

   🔸พิธีหมั้นจัดขึ้นที่สถานทูตประเทศแมนจูที่โตเกียวในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1938 และพิธีเสกสมรสจัดขึ้นที่โถงกองทัพจักรวรรดิที่ คุดันซะกะ โตเกียว ในวันที่ 3 เมษายน ปีเดียวกัน 

  🔸ต่อมาในเดือนตุลาคมทั้งคู่ก็ย้ายไปที่ซิงกิง (ปัจจุบันคือฉางชุน) เมืองหลวงของแมนจูกัว ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิผู่อี๋ หลังการล่มสลายของราชวงศ์ชิง

   🔸เนื่องจากจักรพรรดิผู่อี๋ไม่มีพระราชโอรส ผู่เจี๋ยซึ่งเป็นน้องชายจึงหวังที่จะได้ครองราชบัลลังก์แมนจูกัวต่อจากพี่ชาย ขณะที่ฝ่ายญี่ปุ่นเองก็สนับสนุนผู่เจี๋ยเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์

  🔸แต่อย่างไรก็ตาม ผู่อี๋ไม่ต้องการให้ผู่เจี๋ยเป็นทายาทราชวงศ์ชิง อันเป็นธรรมเนียมตามราชประเพณีที่ว่า จักรพรรดิซึ่งไม่มีโอรสนั้นควรเลือกทายาทของตนจากรุ่นหนึ่งในครอบครัว

  🔸ขณะประทับที่แมนจูกัวนั้น ผู่เจี๋ยมีตำแหน่งเป็นสมุหราชองค์รักษ์กิตติมศักดิ์แห่งแมนจูกัว

  🔸ในช่วงที่แมนจูกัวล่มสลายเมื่อโซเวียตรุกรานประเทศแมนจูในเดือนสิงหาคม 1946 ตอนแรกผู่เจี๋ยทรงพยายามลี้ภัยกับผู่อี๋ เเต่ก็ล้มเหลว

  🔸ผู่เจี๋ยเเละผู่อี๋ถูกจับกุมโดยกองทัพโซเวียต และถูกส่งไปที่คุกในชิตะและคาเยอรอฟก์ในไซบีเรีย

ื 🔸ด้วยการบรรลุข้อตกลงของจีน-โซเวียตหลังจากการตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน(เหมา เจ๋อ​ตง)​ ผู่เจี๋ยเเละผู่อี๋ถูกส่งให้ทางการจีนไปรับโทษในปี ค.ศ. 1950

  🔸ก่อนหน้านั้นทางสาธารณรัฐ​จีน(เจียง ไค​เชก)​ จะขอผู่อี๋(พี่ชายผู่เจี๋ย)​จากรัสเซียเพื่อไปสังหารทิ้ง เเต่ทางรัสเซียน่าจะรู้เลยไม่ได้ส่งตัวให้

  🔸เเต่ภายหลังส่งให้ทางคอมมิวนิสต์​(เหมา เจ๋อ​ตง)​จะดีกว่า เพราะคอมมิวนิสต์​เหมือนกันน่าจะตกลงกันง่ายกว่า

🇨🇳ภายใต้การปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีน

   🔸ในการกลับมาจีน ผู่เจี๋ยถูกคุมขังที่ศูนย์บริหารที่เกี่ยวกับอาชญากรฟูชุน เขาเป็นนักโทษต้นแบบและกลายเป็นสัญลักษณ์ของการผ่อนผันการรับโทษในระบบการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์

  🔸 เขาได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนและภายหลังได้ทำงานในหน้าที่ที่ไปประจำอยู่

🔸ในปี ค.ศ.1961 เขาพ้นโทษและอาศัยอยู่กับเจ้าหญิงฮิโระ ซางะ ในบั้นปลายชีวิตอย่างมีความสุข

🔸เจ้าหญิงฮิโระ ซางะ สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1987 จากนั้นอีก 7 ปี ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1994 ผู่เจี๋ยก็เสียชีวิตขณะอายุ 86 ปี

🐉ผู่เจี๋ยมีลูกสาว 2 คน🐉

🔹เจ้าหญิง อ้ายซินเจว๋หลัว ฮัวเชิง 慧生 เกิดที่ ซิงกิงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1939 และศึกษาที่มหาวิทยาลัยกาคูชูอิน เธอถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมค.ศ. 1957 แต่ภายหลังพบว่าเธอปลิดชีวิต​ตัวเอง

🔹เจ้าหญิง อ้ายซินเจว๋หลัว ยุนเชิง 嫮生 เกิดปี ค.ศ. 1941 ศึกษาที่มหาวิทยาลัยหญิงกาคูชูอิน ได้แต่งงานกับ โคเซอิ ฟูกูนากะ อดีตพนักงานผลิตโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง เเละมีลูก 5 คน

#jarnmooChannel​

#ประวัติศาสตร์จีน