โรคฝีดาษลิง มีอาการยังไงบ้าง วิธีการรักษา และการป้องกัน
โรคฝีดาษลิง (Monkeypox)
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อ "Othopoxvirus"ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษในอดีต มีลักษณะคล้ายกับโรคอีสุกอีใส แต่โรคฝีดาษลิงมีความรุนแรงน้อยกว่าโรคอีสุกอีใส แต่ก็มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตในบางกรเช่นในกลุ่มผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ป่วย HIV/AIDS และผู้สูงอายุ
- อาการ -
ระยะฟักตัวของโรคฝีดาษลิงอยู่ที่ประมาณ 5-21 วัน อาการโดยทั่วไป ได้แก่
มีไข้ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลีย ผื่นขึ้นตามร่างกาย (โดยเริ่มจากใบหน้าแล้วลามไปส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ผื่นจะค่อยๆ เปลี่ยนจากตุ่มแดงเป็นตุ่มหนอง และกลายเป็นสะเก็ดในที่สุด) ยังไงหากมีอาการควรไปพบแพทย์นะครับ
การติดต่อโรคฝีดาษลิง
สามารถติดต่อได้ไม่ว่าจะเป็นจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง, ผิวหนัง, หรือละอองฝอยจากการหายใจของสัตว์ที่ติดเชื้อ รวมถึงการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่ง นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจหรือการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยนั่นเอง
การป้องกัน
การป้องกันโรคฝีดาษลิงสามารถทำได้โดย
ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่เป็นพาหะ เช่น หนู กระรอก และลิง เป็นต้น
ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
การแยกของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า และภาชนะ และของส่วนตัวอื่นๆ ไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น
การ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่มีประวัติเสี่ยง
- หากมีอาการสงสัยว่าอาจติดเชื้อฝีดาษลิง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม -
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรือยาที่จำเพาะสำหรับโรคฝีดาษลิง แต่สามารถควบคุมการระบาดได้โดยการป้องกันการติดเชื้อและให้การรักษาในกรณีที่มีอาการรุนแรง การรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น
ใช้ยาลดไข้และแก้ปวด
/ยาต้านไวรัส (ในกรณีที่มีอาการรุนแรง)
การดูแลแผลและการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
เพื่อความปลอดภัยของคุณ ให้หลีกเลี่ยงตามที่บอกข้างต้น
😊