การชักธงที่อิโวจิมา สัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญในสงครามโลกครั้งที่สอง
การชักธงที่อิโวจิมา (Iwo Jima) เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1945 เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการรบที่อิโวจิมา ซึ่งเป็นแคมเปญที่สำคัญในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก ที่มีเป้าหมายในการยึดเกาะที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์จากกองกำลังญี่ปุ่น
อิโวจิมาเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ประมาณ 750 ไมล์จากกรุงโตเกียว ซึ่งมีความสำคัญต่อกองทัพสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นฐานสำหรับการปฏิบัติการทางอากาศต่อญี่ปุ่น เกาะนี้ถูกเสริมกำลังอย่างหนักโดยทหารญี่ปุ่นที่ได้สร้างการป้องกันใต้ดินอย่างกว้างขวาง กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ ลงจอดที่อิโวจิมาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1945 และต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงขณะที่พวกเขาก้าวไปสู่ภูเขาซูริบาชิ (Mount Suribachi) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเกาะ
ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ หลังจากการต่อสู้ที่เข้มข้นหลายวัน กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ สามารถยึดภูเขาซูริบาชิได้ ในตอนแรกได้มีการชักธงเล็ก ๆ ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จนี้ แต่ธงนั้นมองเห็นได้ไม่ชัดเจน จึงมีการตัดสินใจที่จะชักธงขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับทหารและส่งสัญญาณชัยชนะไปยังทหารที่ต่อสู้ด้านล่างและบนเรือที่อยู่ใกล้เคียง
ช่างภาพโจ โรซานธัล (Joe Rosenthal) ซึ่งทำงานให้กับสำนักข่าว Associated Press ได้อยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อบันทึกช่วงเวลาของการชักธงครั้งที่สอง เขามาถึงในเวลาที่เหมาะสมเพื่อถ่ายภาพนาวิกโยธินขณะที่พวกเขาชักธงขนาดใหญ่ขึ้น ภาพที่มีชื่อเสียงของโรซานธัลซึ่งถูกถ่ายโดยไม่มองผ่านช่องมองภาพ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความเป็นหนึ่งเดียวของชาวอเมริกันในช่วงสงคราม ภาพนี้ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์และถูกเผยแพร่ไปทั่ว ทำให้ภาพนี้กลายเป็นหนึ่งในภาพที่รู้จักกันดีที่สุดในสงคราม
ภาพที่มีชื่อเสียงนี้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการชักธงครั้งแรก ในความเป็นจริงแล้วมันแสดงถึงช่วงเวลาที่ถูกจัดฉากของการชักธงครั้งที่สอง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากธงแรกถูกชักขึ้นแล้ว เรื่องนี้ทำให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับความถูกต้องและบริบทของภาพ โดยโรซานธัลได้ปกป้องผลงานของเขาจากข้อกล่าวหาที่ว่าเป็นการจัดฉากจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 2006
ผลกระทบของภาพนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสงคราม แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างอนุสาวรีย์นาวิกโยธินสหรัฐฯ (United States Marine Corps War Memorial) ในอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1954 อนุสาวรีย์นี้เป็นการสดุดีให้กับนาวิกโยธินที่ต่อสู้ในสงครามและเป็นเครื่องเตือนใจถึงความกล้าหาญของพวกเขา
โดยสรุป การชักธงที่อิโวจิมาไม่เพียงแต่เป็นเหตุการณ์สำคัญในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ยังทิ้งร่องรอยที่ไม่สามารถลืมได้ในวัฒนธรรมอเมริกันและประวัติศาสตร์ทางทหาร โดยเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและการเสียสละของกองกำลังสหรัฐฯ
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
เตือนมนุษย์เงินเดือน! 5 อาชีพเสี่ยงถูก AI แย่งงานใน 5 ปี หากไม่ปรับตัวอาจสูญพันธุ์ได้
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต "จ้านฮ่าวหลี่" คดีฉ้อโกงพันล้านหยวน
ลือหึ่ง "ลิซ่า" BLACKPINK แอบจดทะเบียนสมรสกับแฟนหนุ่มแล้ว
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
รายละเอียดเงื่อนไข 5 ประการ ที่กัมพูชาและไทยเห็นพ้องร่วมกัน ในการประชุมที่ประเทศจีน
สวยสะกดโลก! สรุปผล 100 ผู้หญิงใบหน้าสวยที่สุดปี 2025
5 คุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าทึ่งของปลาทะเล
ผู้ช่วยกอบกู้บริษัท IBM "ลู เกิร์สต์เนอร์" เสียชีวิตแล้ว
พ่อแม่เปิดกล้องหัวใจแทบสลาย แม่บ้านแอบใส่ "เดทตอล" ในขวดนมให้ลูกน้อยกิน
มาตรการ ‘มหาเถรสมาคม’ - ‘คพช.’ กู้คืนศรัทธาวงการสงฆ์: บทเรียนจากปีแห่งการล้างบาง
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
ทึ่งทั่วโลก : กระท่อมที่ถูกทำด้วย "กระดูกแมมมอธ" จำนวน 149 ชิ้น ที่มีอายุ 15,000 ปี
กรีกโยเกิร์ต มหัศจรรย์สิ่งดีๆจากธรรมชาติ
ทึ่งทั่วโลก : "เดโกโทระ" รถสิบล้อแต่งศิลป์ งานศิลปะสไตล์ญี่ปุ่น อลังการงานสร้างเหมือนกันนะเนี่ย
พืชพรรณไม้น่าสนใจ : จินโจโรยักษ์ "ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต" หนึ่งในพืชที่ดูแปลกตาและน่าทึ่งที่สุดในโลก
