มนตราวายสะ ตอนที่ 12 เด็กน้อย (2)
+++++++++
การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย มีแต่ทำให้ล่มจม ความหวังของนางทิพย์วรรณและนายบรรจงไม่เคยสัมฤทธิผลเลย นับจากวันนั้น ยิ่งเล่นก็ยิ่งเสีย จนกลายเป็นหนี้สินรุงรัง เพราะทุ่มความหวังไปความฝันลม ๆ แล้ง ๆ นี้มากไป เงินหามาได้ก็หมดไปกับสิ่งนี้ ไม่เท่านั้น ยังไปหยิบยืมไม่ใช้คืน จนคนรอบตัวเอือมระอา หนักเข้าก็ต้องกู้เงินรายวัน ไม่มีเงินจ่ายดอกจนต้องปิดบ้านหนีทุกครั้งที่เขามาทวง
“ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย พวกกูรู้ว่ามึงอยู่ข้างใน ออกมา ไม่งั้นกูจะพังบ้านมึงเข้าไปเลยคอยดู ... ไอ้เ...้ย ...... ออกมา!” เสียงตะโกนด่าพร้อมกับเสียงเตะประตูบ้านที่ถูกล็อกด้วยแม่กุญแจดังลั่นซอย อยู่นานเป็นสิบนาที ทำให้หญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินมาหาชายหนุ่มที่อยู่ชุดเสื้อแขนยาวสีดำ หน้าตาถูกพลางด้วยหน้ากากผ้าและหมวกกันน็อก “ใจเย็น ๆ พอหนุ่ม”
“ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว มีปัญญายืมแต่ไม่มีปัญญาจ่าย มันจะมายืมทำเ...้ยอะไรวะ หรือป้าจะจ่ายแทนพวกมัน” ชายหนุ่มหันมาตะคอกหญิงสูงวัยเสียงดังอย่างไม่พอใจ
“ทำไมต้องจ่ายวะ แค่จะมาบอกว่าวันนี้มันไม่อยู่จริง ๆ” นางที่เห็นภาพแบบนี้จนเบื่อ แต่ก็ไม่ได้ชินชาบอกเสียงดังกลับไปบ้าง
“พวกมันไปไหน”
“ใครจะไปรู้ แต่เห็นออกไปแต่เช้ายังไม่กลับเลย และที่มาบอกเนี่ยไม่ใช่อะไรนะ หลานฉันจะนอน เล่นเตะประตูเสียงดังปึงปัง ๆ มันจะนอนยังไง สงสารคนแก่เลี้ยงหลานเถอะพ่อนะ” ตอนท้ายนางทำเสียงอ่อนลง ไม่ได้จะมาช่วยครอบครัวเจ้าปัญหานี้ แต่ครั้งนี้มันเสียงดังจริง ๆ และเรื่องหลานนางก็ไม่ได้โกหก เพิ่งหลับไปไม่ถึงนาที เด็กถึงกับสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเตะประตูดังขึ้น เดือดร้อนนางที่จะต้องมาเสียเวลากล่อม และยิ่งกล่อมก็ยิ่งร้องเพราะต้นเหตุของเสียงไม่ได้มีทีท่าว่าจะลดลง
“เห็นแก่ยายนะ บอกพวกมันด้วยละกันว่าให้เอาเงินไปคืนทั้งต้นทั้งดอกด้วย ไม่อย่างนั้นพวกมันได้เจ็บยกครัวแน่” ก่อนกลับไม่วายจะทิ้งคำขู่ไว้
“ได้ ๆ เดี๋ยวยายบอกให้” นางรับปาก ก่อนจะมองตามมอเตอร์ไซค์ที่ถูกขับออกไปด้วยความเร็วสูงพร้อมกับส่ายหน้า “เฮ้อออ...” และในขณะที่กำลังจะเดินผละออกไปดูหลานที่ฝากเพื่อนบ้านอีกคนดูให้ชั่วคราว ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับคนเดินออกมาจากช่องทางแคบ ๆ ข้างบ้าน และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือเด็กน้อยวัยสิบสองขวบเดินเบียดเสียดความแคบออกมาพร้อมกับลูกกุญแจ “อ้าว อยู่หรอกเหรอ ยายนึกว่าเอ็งไม่อยู่ ไม่ได้ออกไปกับพ่อแม่หรือไง”
“เปล่าจ๊ะ พ่อแม่ก็อยู่” สกุณาที่กำลังปลดล็อกกุญแจหันมายิ้มเจื่อน ๆ ให้กับยายข้างบ้าน
“อ้าวเหรอ เห็นขับรถออกไป”
“กลับมาแล้วจ้ะ” สกุณาเอาทั้งแม่กุญแจและลูกที่เสียบคาไว้ไปวางใส่กระปุกที่วางอยู่บนชั้นหน้าบ้าน แล้วดึงประตูแง้มออกนิดหนึ่ง เพื่อให้พ่อแม่รู้ว่าเธอมาเปิดประตูแล้ว และวันนี้ก็คงจะไม่มีใครมาทวงหนี้อีก เพราะเหมือนจะมาครบทุกเจ้าแล้ว
“แล้วพวกเอ็งจะต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ ยายว่าสักวันพวกมันคงไม่สนใจลูกกุญแจเล็ก ๆ นี้แล้วล่ะ” นางมองเด็กน้อยไร้เดียงสาแล้วอดเวทนาไม่ได้ แม้ครอบครัวของนางไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้สร้างหนี้สร้างสิน จนกระทั่งอยู่บ้านยังต้องล็อกประตูทำราวกับไม่มีคนอยู่เกือบตลอดทั้งวันอย่างบ้านนี้
“หนูไม่รู้เลยจ้ะ” สกุณาถอนหายใจอย่างจนปัญญา เธอเป็นแค่เด็กแม้จะกลุ้มใจ แต่ก็ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไงดี เธอรู้แค่ว่าทุกอย่างจะจบถ้าเอาเงินที่พ่อแม่ยืมเขาไปคืน แต่เด็กอย่างเธอจะไปหาเงินมากมายเหล่านั้นมาจากไหน