มนตราวายสะ ตอนที่ 12 เด็กน้อย (1)
+++++++++
12
เด็กน้อย
แม้เจ้าไฟจะหายไปหลายวันแล้ว แต่ทุกครั้งที่สกุณามองกล่องที่เคยมีมันก็อดที่จะน้ำตาไหลไม่ได้ จำได้ว่าในเช้าวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอ เธอร้องไห้ฟูมฟายอยู่บนห้องคนเดียว ถึงตั้งใจจะเอามันไปปล่อยอยู่แล้ว แต่จู่ ๆ ก็มาหนีไปก่อนก็ทำเอาเด็กน้อยเสียใจมาก ถึงอย่างนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ก็พยายามอดกลั้นความเสียใจเอาไว้ แต่ด้วยความเป็นเด็ก มันจึงทำได้ยาก สุดท้ายพ่อแม่ก็รู้ว่าเธอร้องไห้เพราะเจ้าไฟ ก็เลยโดนด่าโดนบ่นไปหนึ่งชุดใหญ่แล้วไล่ให้ไปทำงานบ้าน และวันนี้ก็เช่นกัน
“มึงเป็นอะไร อย่าบอกนะว่าร้องไห้เพราะไอ้แมวไฟนั้นอีกแล้ว” นางทิพย์วรรณชักสีหน้าใส่ เมื่อลูกสาวเดินลงมาจากห้องด้วยดวงตาที่ช้ำแดงก่ำ
“ลูกมึงมันบ้า” นายบรรจงพูดแทรกขึ้นโดยสายตาไม่ได้ละจากโพยบอลที่ตัวเองกำลังเล็งว่าจะเล่นทีมไหนดี
“ลูกมึงด้วยไหมล่ะ” นางทิพย์วรรณมองค้อนสามี ก่อนจะหันไปไล่ลูกสาว “ไปหุงข้าวล้างจานได้แล้ว กูหิว”
“แล้วพ่อกับแม่ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ” สกุณาถามอย่างสงสัย ในวันปกติเธอไม่รู้หรอกว่าพวกท่านออกไปทำงานกันกี่โมง หรือจริง ๆ แล้วไม่ได้ไป แต่พอเป็นวันหยุดสายแล้วพวกท่านยังนั่งเอ้อระเหยก็เลยอดถามไม่ได้
“ทำทำไม พ่อมึงน่ะถูกหวยใต้ดินตั้งห้าร้อย ลอตเตอรี่เลขท้ายสองตัวอีกสามใบ” ว่าแล้วนางก็หยิบเงินแบงก์พันหลายใบออกจากกระเป๋าขึ้นมาตบที่หน้าของตัวเองเบา ๆ
“อย่าบอกนะคะว่าแค่นี้ก็ไม่ไปทำงานแล้ว” สกุณาถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ ถึงเธอจะเป็นเด็กก็พอรู้ว่าเงินแค่นี้ไม่มีทางที่จะใช้ไปตลอดชีวิต และยิ่งเป็นพ่อแม่ของเธอแล้ว นานสุดก็แค่สามวัน
“ทำไม พวกกูจะหยุดอยู่บ้านใช้เงินมึงจะตายหรือไง รีบ ๆ ไปทำงานกินข้าวเสร็จเดี๋ยวกูพาไปห้าง ซื้อของกัน” นางโบกมือไล่อย่างอารมณ์เสียนิดหน่อย เพราะถ้าเป็นปกติลูกสาวมาพูดอย่างนี้ต้องมีอะไรสักอย่างถูกขว้างไปใส่มันแน่ ๆ
“ค่ะ” สกุณาถอนหายใจ ส่ายหน้าอย่างไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่านี้ แล้วรีบไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“ดูมันทำหน้า เห็นแล้วขัดตาขัดใจจริง ๆ” นางทิพย์วรรณอดที่จะบ่นไม่ได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนคนเป็นลูกสาวบ่น ไม่รู้มันจะอะไรนักหนา อายุแค่นี้บ่นเป็นคนแก่ไปได้
“เอาน่า อย่าอารมณ์เสียไปเลย เดี๋ยวโชคจะวิ่งหนีเปล่า ๆ ช่วงนี้โชคเรากำลังมา ไม่แน่นะ งวดหน้าเราอาจจะถูกรางวัลที่หนึ่งก็ได้” นายบรรจงหันมาให้กำลังใจคนเป็นภรรยา ก่อนจะเก็บโพยบอลใส่กระเป๋าเสื้อ ตอนออกข้างนอกจะได้เอาไปส่ง นอกจากหวยแล้วก็เจ้านี่แหละ ที่เป็นความหวังของความร่ำรวยโดยไม่ต้องลงแรง
“จริงด้วย ไม่ได้คิดเองนะ ตั้งแต่ฆ่าพวกสัตว์อัปมงคลนั้นไป เราก็โชคดีขึ้นมาจริง ๆ เอาไว้เราจับมันมาเผาเรื่อย ๆ ดีกว่า” นางทิพย์วรรณบอกอย่างหมายมาด แต่ก็โดนคนเป็นสามีแย้งขึ้น “ทำง่ายเสียเมื่อไหร่ ทำแบบเดิมไม่เห็นได้สักตัว”
เมื่อคิดว่าตัวเองโชคดีจากการกำจัดอีกา จากวันนั้น สองสามีภรรยาก็พยายามทำอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนครั้งแรก ที่ทุกตัวเหมือนต้องมนต์ต่างพากันบินมาเข้ากับดักเองฝูงใหญ่
“ต้องหาวิธีใหม่ ไม่แน่ต่อไปเราอาจจะไม่ต้องทำงานหาเงินแล้วก็ได้ เพราะพวกเราจะเป็นคนที่ถูกหวยทุกงวด ไม่ได้ทำงานแต่มีเงินใช้ เอาให้พวกปากหอยปากปูที่ชอบนินทาอกแตกตายไปเลย” นางทิพย์วรรณวาดฝันด้วยสายตาเป็นประกาย
“แล้วอย่าเที่ยวไปบอกเรื่องนี้กับใครล่ะ ไม่งั้นโดนแย่งโชคแน่ ๆ” นายบรรจงเตือนภรรยาที่ชอบเรื่องนินทาไม่แพ้ใครในซอยนี้เหมือนกัน
“รู้น่า” นางทิพย์วรรณมองค้อนสามี ก่อนจะหยิบเงินในกระเป๋าขึ้นมานับแล้วนับอีก เอาเป็นว่า ตั้งแต่ได้เงินนี้มานางนับเป็นร้อยรอบด้วยหัวใจที่อิ่มฟู เพราะนานแล้วที่ไม่ได้จับเงินก้อนโตขนาดนี้