ตาเหยี่ยว!พลาดยาก เช เผยชาเลนจ์แม่นเป๊ะประสบการณ์ล้วนๆ - ภูมิใจเป็นคนไทย
“เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ สร้างประวัติศาสตร์! คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2024 สมัยที่ 2 ติดต่อกัน
เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศเลยทีเดียว! เมื่อ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มสุดยอด เอาชนะคู่แข่งจากจีนอย่าง กัว ฉิง ไปแบบบีบหัวใจ 2-1 ยก คว้าเหรียญทองในรุ่น 49 กก.หญิงจากโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้ถึง 3 เหรียญ และยังเป็นเหรียญทอง 2 สมัยติดต่อกันอีกด้วย!
การต่อสู้ในรอบชิงชนะเลิศนั้นต้องบอกว่าเข้มข้นและกดดันสุดๆ ยกแรก พาณิภัคเริ่มต้นได้ดี แต่ก็มีช่วงที่พลาดโดนเตะเต็มหน้าในช่วงท้ายยก แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะสาวจีนโดนตัดแต้ม ขณะที่พาณิภัคก็เตะขึ้นหัวและเข้าลำตัวในช่วงท้ายยก ทำให้เธอแซงเอาชนะไป 6-3
ยกสอง พาณิภัคพลาดท่าพ่ายไป 2-3 ทำให้ต้องตัดสินกันในยกที่สาม ซึ่งเป็นยกที่ทำให้คนดูแทบหยุดหายใจ! 😲 ในช่วง 30 วินาทีสุดท้าย พาณิภัคได้เตะหัวของกัว ฉิง แต่แต้มไม่ขึ้น เธอมั่นใจว่าได้แต้มแน่ๆ จึงกวักมือเรียกโค้ชเชให้ขอชาเลนจ์วิดีโอรีเพลย์ ซึ่งผลปรากฏว่าเธอได้ 3 แต้มสำคัญ ทำให้เธอคว้าแชมป์ไปด้วยคะแนน 6-1 และคว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ!
การแข่งขันในครั้งนี้ยังพิเศษสุดๆ เพราะเกิดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเกิดครบรอบ 27 ปีของพาณิภัคพอดี เหรียญทองที่ได้ในวันนี้จึงกลายเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ 🎂
ความสำเร็จนี้มาพร้อมกับรางวัลมากมาย พาณิภัคจะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 10 ล้านบาท หากรับเงินสด และ 12 ล้านบาท หากเลือกแบ่งจ่าย 50% ในทันที และอีก 50% แบ่งจ่ายใน 4 ปี นอกจากนี้ เธอยังจะได้รับเงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย 12,000 บาทต่อเดือน รวม 20 ปี เป็นเงิน 2.88 ล้านบาท ซึ่งรวมกับเงินเดือนจากเหรียญทองแดงริโอ 2016 และเหรียญทองโตเกียว 2020 ทำให้เธอจะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 32,000 บาทต่อเดือน 💸
หลังการแข่งขัน "เทนนิส" พาณิภัค เผยความรู้สึกว่า "รู้สึกดีใจมากๆ ภูมิใจที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยได้ เหรียญนี้เป็นการตอบแทนความมุ่งมั่นทุกหยาดเหงื่อของหนู ขอบคุณโค้ชเช ขอบคุณทุกคนที่ช่วยผลักดันหนูมาจนถึงวันนี้" เธอยังเล่าถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญในครั้งนี้ว่า "ทุกคนพยายามจะแก้เกมและศึกษาหนูมามากกว่าเดิม ทำให้ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสถานการณ์"
ด้าน "โค้ชเช" ชัชชัย เช ก็เผยว่า "เกมรอบชิงค่อนข้างกดดัน แต่พยายามคุยกับเทนนิสว่าเล่นให้เหมือนรอบแรกๆ และมั่นใจว่าเราทำได้ ซึ่งในที่สุดเราก็ประสบความสำเร็จ"
เมื่อถูกถามถึงอนาคตในวงการเทควันโด พาณิภัคเผยว่า "ตอนนี้คิดหนักว่าโอลิมปิกครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในนามทีมชาติ เพราะร่างกายของหนูมีอาการบาดเจ็บหลายจุด ทั้งเข่า สะโพก และข้อเท้า ถึงเวลาที่ต้องไปทำหน้าที่อื่นแล้ว หนูอยากปั้นนักกีฬาเยาวชน และสร้างยิมเทควันโดชื่อ 'พาณิภัค' ขึ้นมา"
การคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นความสำเร็จส่วนตัวของพาณิภัค แต่ยังเป็นความสำเร็จของประเทศไทยทั้งประเทศ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการต่อสู้และฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อความฝันของตนเอง 💪🇹🇭
ภาพ : twitter (x.com)










