การทิ้งระเบิดที่นางาซากิและเมฆเห็ด
ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยระเบิดที่ใช้มีชื่อว่า "Fat Man" ซึ่งถูกทิ้งจากเครื่องบิน B-29 Superfortress ชื่อ *Bockscar* เวลาประมาณ 11:02 น. เป้าหมายเดิมคือเมืองโคคุระ แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี จึงต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปที่นางาซากิ ระเบิด ที่ระดับความสูงประมาณ 1,500 ฟุต ทำให้เกิดพลังงานเทียบเท่ากับ TNT ประมาณ 20,000 ตัน โดยประมาณมีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 40,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 30,000 คนในปีถัดไปจากผลกระทบของรังสี
ภาพถ่ายที่มีชื่อเสียงของเมฆเห็ดที่ลอยอยู่เหนือเมืองนางาซากิถูกบันทึกโดยร้อยโทชาร์ลส์ เลวี ซึ่งอยู่บนเครื่องบินสังเกตการณ์ชื่อ *The Great Artiste* ภาพนี้มีความโดดเด่นในการแสดงให้เห็นถึงการระเบิด โดยแสดงให้เห็นถึงเส้นทางของควันหนาที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 60,000 ฟุตในชั้นบรรยากาศ เลวีได้บรรยายถึงเมฆนี้ว่า "มีชีวิต" ซึ่งสะท้อนถึงความน่าเกรงขามและความสยดสยองของการได้เห็นการทำลายล้างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
การทิ้งระเบิดที่นางาซากิ ร่วมกับการโจมตีที่ฮิโรชิมา มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจของญี่ปุ่นในการยอมจำนน ซึ่งทำให้สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ได้สร้างการถกเถียงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความจำเป็นและข้อกังวลทางจริยธรรมของสงครามนิวเคลียร์ ภาพถ่ายของเลวียังคงเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังของความสามารถในการทำลายล้างของอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นเครื่องเตือนใจถึงผลกระทบของสงคราม