สาระ-Oral sex มีความปลอดภัยหรือไม่
เพศสัมพันธ์ทางปาก (oral sex) มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อยู่เช่นเดียวกับการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก ดังนั้นการป้องกันและการรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ความเสี่ยงจากเพศสัมพันธ์ทางปาก ยกตัวอย่างดังนี้
1.โรคที่สามารถติดต่อได้ เช่น หนองใน , หนองในเทียม, เริม , ซิฟิลิส, เอชไอวี, ไวรัสตับอักเสบบี, ไวรัสตับอักเสบเอและหูดหงอนไก่
2.การติดเชื้อ เช่น การสัมผัสกับของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำอสุจิ น้ำหล่อลื่น น้ำลาย หรือเลือด สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้
การป้องกันควรป้องกันอย่างไร
-
การใช้ถุงยางอนามัย สามารถใช้ถุงยางอนามัยแบบชายหรือแบบหญิงเพื่อป้องกันการสัมผัสกับของเหลวในร่างกาย หรือ ใช้ถุงยางอนามัยแบบไม่มีสารหล่อลื่นหรือสารหล่อลื่นที่ใช้ในช่องปากได้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย
-
การใช้แผ่นยางอนามัย ใช้แผ่นยางอนามัย สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ทางปากกับผู้หญิงหรือทางทวารหนัก เพื่อป้องกันการสัมผัสกับของเหลวในร่างกาย
-
การตรวจสุขภาพเป็นประจำ หาโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำช่วยให้ทราบสถานะสุขภาพของตนเองและคู่รัก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค
-
การรักษาความสะอาด บริเวณปากและอวัยวะเพศก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึง การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันก่อนการมีเพศสัมพันธ์ทางปากควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจทำให้เกิดแผลในช่องปาก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
-
การสื่อสารและการยินยอม ระหว่างคู่รักเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกสบายใจและปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์
การเพศสัมพันธ์ทางปากมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัยหรือแผ่นยางอนามัย การตรวจสุขภาพเป็นประจำ การรักษาความสะอาด และการสื่อสารกับคู่รักสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์ทางปากได้