เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงชอบกินของหวานนัก?
"หวาน" สัญญาณแห่งพลังงานและความอยู่รอด!
เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงชอบกินของหวานนัก? ไม่ว่าจะเป็นเค้ก ไอศกรีม ช็อกโกแลต หรือแม้แต่น้ำหวานๆ แค่เห็นก็อดใจไม่ไหวแล้ว! ที่แท้ความชอบหวานนี้มีที่มาที่ไปทางวิทยาศาสตร์และวิวัฒนาการเลยนะ!
ร่างกายต้องการ "น้ำตาล"
น้ำตาลคือแหล่งพลังงานชั้นดีของร่างกาย! สมัยก่อนตอนที่มนุษย์เรายังต้องออกล่าสัตว์ หาของป่ากิน การเจอผลไม้สุกๆ หวานๆ นี่เหมือนถูกล็อตเตอรี่เลยนะ เพราะมันให้พลังงานสูง ช่วยให้ร่างกายมีแรงทำกิจกรรมต่างๆ ได้นานขึ้น
สมองสั่งให้ "ชอบหวาน"
สมองของเราฉลาดกว่าที่คิด! มันเรียนรู้ว่ารสหวานคือสัญญาณของอาหารที่มีพลังงานสูง ดังนั้นเมื่อเรากินของหวาน สมองจะหลั่งสารโดปามีน (Dopamine) ออกมา ทำให้เรารู้สึกมีความสุขและพึงพอใจ นี่แหละคือเหตุผลที่เรามักจะอยากกินของหวานซ้ำๆ อีก!
"หวาน" สัญชาตญาณบอกว่า "ปลอดภัย"
ในธรรมชาติ รสขมมักเป็นสัญญาณของสารพิษ ส่วนรสหวานมักเป็นสัญญาณของอาหารที่ปลอดภัย ดังนั้นมนุษย์เราจึงถูกวิวัฒนาการมาให้ชอบรสหวาน เพื่อหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย
"ติดหวาน" อันตรายกว่าที่คิด!
ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องการน้ำตาล แต่การกินหวานมากเกินไปก็ไม่ดีนะ! น้ำตาลที่มากเกินไปจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม ทำให้น้ำหนักขึ้น เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอื่นๆ อีกเพียบ!
"หวานพอดี" มีความสุข แถมสุขภาพดี!
ไม่ต้องถึงกับเลิกกินหวานไปเลย แค่รู้จักกินแต่พอดีก็พอ! เลือกกินของหวานที่ทำจากน้ำตาลธรรมชาติ เช่น ผลไม้สด น้ำผึ้ง หรือเลือกกินขนมหวานที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยลง หรืออาจจะลองเปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวานบ้างก็ได้นะ!
เคล็ดลับ "ลดหวาน" แบบไม่ทรมาน!
- ค่อยๆ ลด: อย่าหักดิบ! ลองลดปริมาณน้ำตาลลงทีละนิด ร่างกายจะได้ค่อยๆ ปรับตัว
- หาตัวช่วย: กินผลไม้รสเปรี้ยวหรืออมมะนาวฝาน ช่วยลดความอยากหวานได้
- อ่านฉลาก: เช็กปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มก่อนซื้อเสมอ
- ทำอาหารเอง: จะได้ควบคุมปริมาณน้ำตาลได้เอง
- อย่าอดอาหาร: กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ จะได้ไม่อยากกินจุบจิบ
หวาน...เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ต้องรู้จักกินให้พอดี!
อย่าปล่อยให้ความชอบหวานทำร้ายสุขภาพ! กินหวานแต่พอดี มีความสุข แถมสุขภาพดีด้วยนะ!
#หวานนี้ที่รอคอย #ติดหวาน #สายหวาน #วิทยาศาสตร์แห่งความหวาน