ย้อนตำนาน ผีช่องแอร์ เรื่องเล่าสุดเฮี้ยน เคยสร้างเป็นหนังผีสุดโด่งดัง!

คุณยังจำเรื่องราวสยองขวัญที่เกิดขึ้นจากเรื่องจริงในอดีตจากรายการวิทยุ Chock fm หรือ รายการเดอะช็อค ที่ได้นำมาเล่าสู่กันฟังได้หรือไม่?

นั่นก็คือเรื่อง ผีช่องแอร์

เรื่องราวของกลุ่มนักดนตรีวัยรุ่น ที่ประกอบไปด้วย พิมพ์ นักร้องนำและเพื่อนร่วมวงดนตรีอีก 5 คน บอย กบ หนุ่ย อ้วน ใหญ่ พวกเขาได้เดินทางมาเล่นดนตรีและเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งแต่ดันเจอกับอาถรรพ์บางอย่าง …

เปิดเรื่องมาเราก็จะได้พบกับ พิมพ์ ที่กำลังโดนสอบสวนถึงสาเหตุที่เธอยอมมามอบตัวหลังจากที่หนีคดีมา พิมพ์ได้เริ่มเล่าถึงเรื่องราวที่เธอได้พบเจอมาคืนนั้นเป็นคืนวันเสาร์ เวลาประมาณตี 2 วงดนตรีของเธอและเพื่อน กำลังเดินไปที่ห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ระหว่างทางที่กำลังเดินไปอยู่นั้น พวกเขาก็ได้แต่บ่นถึงเรื่องที่ต้องมาเล่นเนตรีที่ต่างจังหวัด เมื่อเดินถึงห้องพวกเขาก็ได้นั่งเล่นไพ่กันอยู่ภายในห้อง
ตัดภาพไปยังอดีตเป็นภาพของหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่หน้าห้อง ห้องหนึ่ง เธอคือ “แสงดาว” แสงดาวกำลังเดินเข้าไปในห้อง ที่มีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่บนเตียง กลับมาที่กลุ่มนักดนตรีที่กำลังนั่งเล่นไพ่กันอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่พวกเขากำลังนั่งเล่นอยู่ ก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังอยู่ใต้เตียง กบ จึงเดินไปดูและก้มไปที่เตียง แต่ก็ไม่เห็นอะไร ส่วนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียงก็ปกติดี
แต่เหมือนถาพในอดีตจะแสดงให้เห็นว่าแสงดาวได้ถูกผู้ชายที่อยู่ในห้องนั้นฆ่าตายพร้อมกับตัดหัวของเธอไปซ่อนไว้ในช่องแอร์ ซึ่งปัจจุบันก็เป็นห้องห้องเดียวกันกับที่กลุ่มวัยรุ่นนักดนตรีกำลังพักอยู่ตอนนี้

แล้วจู่ ๆ สายตาของอ้วนก็ได้เห็นเศษผ้าอะไรบางอย่างโผล่ออกมาจากช่องแอร์ เขายืนแหงนหน้ามองด้วยความสงสัย แล้วเดินไปหยิบเก้าอี้มา เพื่อที่จะปืนขึ้นไปดึงมันออก แต่กบก็ได้เข้ามาเห็น และบอยก็เดินตามเข้ามาแล้วถามเพื่อน ๆ ว่าทำอะไรกันอยู่
กบถามบอยว่า ตอนเราเข้ามาเห็นเศษผ้าหรือเปล่า บอยตอบ ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้สังเกต กบบอกว่าตอนเข้ามาเขาไม่เห็น พิมพ์และใหญ่เดินเข้ามาพอดี และบอกว่าพวกเขาก็ไม่เห็นเหมือนกัน ทั้ง 4 คนมองหน้ากัน บอยพยายามดึงเศษผ้านั้นออกมา แต่เศษผ้ามันมันยาวมาก แล้วไฟในห้องก็ดับ แต่มันเป็นเพียงการล้อเล่นกันของเพื่อน ๆ ที่ไปปิดไฟ แล้ววิ่งไล่กันออกไป เหลือเพียงบอย ที่ยังอยู่ตรงนั้น และสงสัยว่ามีอะไรอยู่ในช่องแอร์อีกหรือเปล่า

เขาจึงดึงตะแกรงของช่องแอร์ออก บอยทำตาโต สื่อให้เห็นว่าตกใจอย่างมาก เขาพูดอะไรไม่ออกแล้วเดินออกไปจากห้อง
กบเข้ามาเห็นก็สงสัยว่าทำไมบอยถึงรีบเดินออกไปอย่างนั้น
เขาจึงมองขึ้นไปยังช่องแอร์ที่เปิดอยู่ จึงได้รู้คำตอบ และเดินตามบอยออกไป เพื่อนที่เหลือก็สงไสว่ากบกับบอยหายไปไหน พิมพ์บอกไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดี ๆ สองคนนั้นก็รีบเดินตามกันออกไป

อ้วนรู้สึกร้อน เลยถามว่าใครปิดแอร์หรือเปล่า พร้อมกับยกขวดกระดกน้ำ อ้วนเห็นตะแกรงวางอยู่ จึงสงสัยว่าใครเอาตะแกรงออกจึงใช้ให้ใหญ่ไปปิดให้และใหญ่ก็ได้เห็นในสิ่งที่สองคนแรกนั้นเห็น ใหญ่ตกใจ ตัวสั่น แล้วรีบเดินออกไปอีกคน อ้วนจึงเดินเข้าไปเพื่อที่จะไปปิดเอง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปเห็นจึงรีบเดินตามใหญ่ออกไปติด ๆ ไม่ต่างจากทุกรายก่อนหน้า
ในขณะที่พิมพ์กำลังจะหยิบตะแกรงขึ้นมาปิด ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกว่าให้พิมพ์รีบลงไป พิมพ์รู้สึกตะหงิดใจจึงรีบปลุกหนุ่ยที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงให้ลงไปพร้อมกัน และก่อนที่เขาทั้งสองจะลงไป พวกเขาได้แหงนหน้ามองไปยังช่องแอร์ และได้เจอกับสิ่งที่ทุกคนเห็น นั่นคือ ผู้หญิงผมยาว      ตาเบิกโพลง กำลังคืบคลานออกมาจากช่องแอร์

เพื่อนที่ลงมาก่อน ได้นั่งรวมตัวกันอยู่หน้าเคาเตอร์ อ้วนถามว่าทุกคนเห็นเหมือนกันใช่ไหม แล้วหนุ่ย กับ พิมพ์ก็เดินลงมา เพื่อนทุกคนเห็นมีอะไรบางอย่างตามลงมาอยู่ด้านหลังของพิมพ์ พิมพ์แหงนหน้าขึ้นไปมอง และได้เห็นผีผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างหลังเธอ บอยควบคุมสติไม่อยู่ จึงวิ่งหนีออกไปนอกโรงแรม แล้วโดนรถบรรทุกที่วิ่งสวนมาชนเข้า ทำให้เขานั้นตายคาที่

วันต่อมา ทุกคนอยู่กันที่โรงพยาบาล ทุกคนยังตกใจและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น กบเข้าไปในห้องน้ำพยายามล้างเสื้อที่เปลื้อนเลือดของบอยอยู่ ก็ปรากฎว่ามีเด็กคนนึงกำลังเกาะที่ขาของเขาอยู่ ทำให้เขารู้สึกหนักที่ขา แต่ก็พยายามออกมานั่งรวมตัวกับเพื่อน ๆ อ้วนถามพิมพ์ว่าโทรไปบอกที่บ้านของ บอยหรือยัง พิมพ์บอกว่าโทรไปแล้วแต่ไม่มีใครรับสาย
ใหญ่พูดออกมาว่าอยากกลับบ้าน อ้วนบอกว่าเค้าจะทิ้งบอยไปได้อย่างไง แล้วใหญ่ก็โวยวายจนทะเลาะกับอ้วน

แล้วอยู่ ๆ ก็มีเด็กหญิงคนนึงชื่อตะวัน เดินมาบอกใหญ่ว่า เธออยากกลับบ้านไปด้วย ใหญ่ตอบว่าจะกลับไปด้วยกันได้ยังไงเราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แล้วใหญ่ก็ถามว่าบ้านของเธออยู่ที่ไหน เธอยื่นรูปให้เขา ในรูปมีผู้หญิงสองคนยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ใหญ่รับมาดูแล้วตกใจมากเมื่อพบว่าผู้หญิงที่อยู่ในรูปอีกคนหนึ่งเหมือนผีผู้หญิงที่ตนและเพื่อนเพิ่งเจอมา
อ้วนจึงขอดูรูป ใหญ่ถามว่าใช่ ใช่ไหม อ้วนพยักหน้าพร้อมส่งรูปให้พิมพ์กับหนุ่ยดูทุกคนต่างตกใจแล้วถามเด็กคนนั้นว่าผู้หญิงอีกคนในรูปนั้นเป็นใครเธอบอกว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อแสงดาวทำงานที่โรงแรมแต่ไม่รู้ทำตำแหน่งอะไรชอบหายไปกับผู้ชายบนห้องเป็นเวลาหลายชั่วโมง

ภาพตัดมายังอดีตของแสงดาวที่เข้าไปในห้อง ห้องหนึ่งที่มีผู้ชายอยู่ในห้องนั้นแล้วเธอก็ถูกผู้ชายคนนั้นทำร้าย เด็กผู้หญิงเล่าต่อว่า ผ่านไปตั้งหลายวันถึงจะมีคนไปเจอศพของแสงดาวนั้นอยู่ใต้เตียงแต่ศพไม่มีหัว แล้วก็มาพบภายหลังว่าหัวที่ถูกตัดออกไปนั้น ถูกรวบผมมัดติดไว้ในช่องแอร์
แล้วอ้วนก็ถามว่าเค้าหาหัวแสงดาวเจอได้ยังไง ใหญ่รีบ พูดขึ้นมาว่าเค้าเจอในแบบที่พวกเราเจอกันไง อยู่ๆ กบก็ตื่นตระหนกหวาดกลัว เขาก็เห็นผีของแสงดาวที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาหาเขา และด้านหน้าก็ยังมีผีเด็กที่จ้องเค้าอยู่ กบโวยวายและได้ดึงปืนที่เอวของตำรวจยิงกราดไปทั่ว เพราะเขามองอะไรไม่เห็นเพราะว่ามีผีเด็กบังตาเค้าอยู่เพื่อน ๆ ตะโกนบอกให้เขาหยุดแต่กบที่เหมือนเสียสติไปแล้วก็เห็นผีแสงดาวอยู่ตรงหน้า เขาจึงใช้ปืนยิงกรอกปากตัวเองตาย

ตัดภาพมาที่พิมพ์ที่กำลังถูกสอบสวนอยู่ ตำรวจได้ถามว่าพวกเธอได้เล่นยากันหรือเปล่า เปล่า ! พิมพ์ปฏิเสธ ว่าพวกเธอและเพื่อนไม่ได้เล่นยา แต่ตำรวจก็พบยาเสพติดอยู่ในกระเป๋าของกบซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้กบนั้นเห็นภาพหลอน วันต่อมา
หนุ่ยซื้อน้ำมาให้ทุกคนแล้วบอกเรื่องที่เขาไปรู้มา ว่าไม่มีใครรู้จักเด็กที่ชื่อตะวัน เด็กผู้หญิงที่เล่าเรื่องราวของพี่แสงดาวให้เราฟังแม้กระทั่งเรื่องศพหัวขาดที่โรงแรม ที่โรงพยาบาลก็ไม่มีใครรู้เรื่องด้วย ใหญ่โวยวายว่านั่นมันคนตายไม่ใช่คนป่วยแล้วที่โรงพยาบาลจะรู้ได้ยังไง พวกเขาทั้งหมดจึงตัดสินใจไปที่วัดเพื่อถามถึงข้อมูลของแสงดาว หลวงพ่อที่วัดองค์หนึ่งท่านตาบอดได้เล่าว่าตอนนั้นมีคนนำศพที่ไม่มีหัวเข้ามาและ “เสม” คนเผาศพก็เลยรีบทำพิธีเผาไป ทั้ง ๆ ที่ยังหาหัวไม่เจอเพราะดูเหมือนว่าศพจะไม่มีญาติและไม่มีใครอยากจะพูดถึงเรื่องนี้ จนทำให้กลายเป็นอาถรรพ์หรือคำสาปที่ใครก็ตามที่ได้เห็นหน้าผีสาวจะต้องมีเหตุให้ตายตกกันไปทุกคน แต่ก็มีเจ้าเสม (คนเผาศพ) คนเดียวที่ยังไม่ตาย แต่ก็เหมือนเป็นบ้าไปแล้วหลวงพ่อได้เรียกเจ้าเสมออกมาเสมหัวหน้าออกมาจากในห้องแต่ก็เหมือนกลัวอะไรบางอย่างแล้วก็รีบปิดประตูเข้าห้องไป

หลวงพ่อบอกว่า เสมเป็นคนที่ไปเอาหัวของแสงดาวลงมาจากช่องแอร์ จากนั้นมาเสมก็ไม่สามารถนอนหลับได้เลยเพราะเมื่อไหร่ที่หลับก็จะเห็นผีของแสงดาวมาหลอกอยู่ตลอดเวลาจนหลวงพ่อต้องทำพิธีล้างอาถรรพ์ให้ด้วยการให้ไปนอนในโลงศพผีตายโหงตอนเที่ยงคืนเป็นเวลาเจ็ดวันตอนนี้ถึงได้นอนหลับได้บ้างแล้ว

กวนถามหลวงพ่อว่างั้นพวกเราต้องทำพิธีพวกนี้ด้วยใช่ไหมหลวงพ่อถามว่าแล้วผู้หญิงคนข้างหลังน่ะไม่ทำด้วยหรอพวกเรามากันแค่สี่คนหลวงตาจึงเข้าใจว่าผู้หญิงที่ตามมานั่นคือพี่ของแสงดาวและด้วยเหตุนี้ทำให้เสนไม่กล้าออกมาหาหลวงพ่อทั้งสี่คนทั้งกลัวทั้งตกใจวันสงสัยว่าทำไมหลวงพ่อตาบอดไม่ใช่หรอ แล้วทำไมถึงเห็นขณะนั้นพิมพ์รู้สึกว่ามีใครอยู่ข้างหลังด้วยและผีแสงดาวก็ค่อย ๆ เอื้อมมือมาจับที่ไหล่ของเธอ

ตัดภาพมาที่พิมพ์ที่กำลังถูกตำรวจสอบสวนโดยตำรวจบอกว่าเค้าไม่เคยได้ยินเรื่องที่มีการฆ่ากันตายที่โรงแรมและยังบอกอีกว่าถ้ามีจริงป่านนี้คงเป็นข่าวดังไปแล้วตำรวจแปลกใจที่ขนาดพระยังรู้เรื่องนี้แต่ทำไมตำรวจอย่างพวกเขาถึงไม่รู้เรื่องนายตำรวจคนนั้นจึงกดโทรศัพท์ไปหาลูกน้องและขอข้อมูลโสเภณีที่ถูกฆ่าตายทั้งหมดในพื้นที่เกิดเหตุและพิมพ์ได้เล่าต่อว่าคืนนั้นหลวงพ่อให้พิมพ์อยู่ในโบสถ์ห้ามออกไปไหนโดยเด็ดขาดเพราะหลวงพ่อจะทำพิธีล้างอาถรรพณ์ให้โดยให้อีกสามคนไปหาโลงศพผีตายโหงจากวัดอื่นๆในละแวกนั้นเพื่อมาทำพิธีให้ทันเที่ยงคืนพิมพ์ได้ถามหลวงพ่อว่าถ้าทำพิธีไม่ทันเที่ยงคืนจะเกิดอะไรขึ้นแต่หลวงพ่อไม่ได้ตอบอะไร

ในขณะที่ทั้งสามคนขับรถไปหาโลงศพนั้น หนุ่ยสังเกตว่ารถที่ขับสวนเข้าไปมีอาการแปลก ๆ ยกไฟสูงใส่บ้าง บีบแตรใส่บ้าง ใหญ่บอกว่าเค้าเองก็เห็นเช่นกัน เลยเริ่มเอะใจว่าอาจจะมีบางอย่างอยู่บนหลังคารถของเขาก็เป็นได้ และก็ปรากฏร่างของเด็กชายที่นั่งอยู่บนหลังคารถ
อ้วนบ่นว่าทำไมโลงศพผีตายโหงหายากจัง ใหญ่บอกว่าจะไม่ไปด้วยแล้ว และขอร้องให้หนุ่ยขับรถไปส่งที่บ้าน โดยบอกว่าแค่เลี้ยวข้างหน้าก็ถึงบ้านเขาแล้ว หนุ่ยถามว่าแล้วเรื่องอาถรรพ์ล่ะไม่กลัวตายบ้างหรอ ? ใหญ่ตอบว่าที่บ้านเค้าปลอดภัยกว่า อย่างมากก็แค่โดนพ่อเตะ ก่อนลงจากรถ หนุ่ยได้ถามใหญ่ถึงพิธีแต่ใหญ่บอกให้ทั้งสองคนไปลองทำก่อน เมื่อใหญ่ลงจากรถไป เขาก็เห็นว่ามีผีของแสงดาวนั่งอยู่บนรถกับพวกเขาด้วย

ใหญ่กลับมาถึงบ้าน แล้วเดินเข้าไปที่ห้องครัว เขาเห็นเหมือนมีใครนั่งอยู่ จึงคิดว่าเป็นน้องสาว จึงเดินเข้าไปดู แล้วก็พบว่าเป็นผีของแสงดาว

ส่วนอีกฝั่งนึง อ้วนกับหนุ่ย ที่พึ่งหาโลงศพได้แค่ 2 โลง เมื่อเดินทางมาถึงวัดก็พบว่าหลวงพ่อได้ยกเลิกพิธีไปแล้ว เพราะหลวงพ่อบอกว่าถ้าเลยเวลาแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ ทำไปก็ไม่มีประโยชน์ อ้วนโวยวายว่าทำไมต้องมานั่งรอความตายด้วย
พิมพ์ถามหาใหญ่และบอกว่าพวกเราไม่ควรให้ใหญ่อยู่คนเดียว ทั้งสามคนจึงรีบจะออกไปหาใหญ่ แต่พอขึ้นรถหนุ่ยก็เห็นผีเด็กตรงที่นั่งคนขับ หนุ่ยรีบปิดประตูทันที พิมพ์ถาม มีอะไร แล้วเร่งให้เขารีบไป
ระหว่างทางอ้วนใันเห็นการตายของใหญ่และตัวเขาเอง แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อพิมพ์มาเรียกว่าถึงบ้านใหญ่แล้ว พิมพ์และหนุ่ยกำลังเข้าไปในบ้าน แต่อ้วนบอกว่าขอรออยู่ที่รถดีกว่า
พิมพ์กับหนุ่ยที่เข้าไปในบ้านก็ได้เห็นใหญ่ที่ผูกคอตายอยู่กลางบ้าน พวกเขาตกใจมาก

ตัดมาที่พิมพ์ที่กำลังคุยกับตำรวจ ตำรวจบอกว่าใหญ่มีปัญหากับที่บ้านอยู่แล้ว พิมพ์บอกวันนั้นก่อนที่จะออกมาจากบ้านใหญ่ พวกเธอได้เจอกับพ่อแม่ของใหญ่ โดยพ่อแม่ของใหญ่ต่อว่าพวกเธอที่พาลูกชายเขาไปเสียคน พิมพ์เล่าต่อว่าวันนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจกลับไปนอนที่วัด

ในคืนนั้นตอนตี 3 อ้วนคิดว่าการลงไปนอนในโลง ก็เหมือนกับทำพิธีเกิดใหม่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำพิธีถูกต้องก็ตาม พิมพ์กับหนุ่ยพยายามห้ามแต่เขาก็ไม่ฟัง และในคืนนั้นเองที่เขาได้พบกับผีแสงดาวในโลง
ซึ่งในตอนเช้าที่พิมพ์กับหนุ่ยมาปลุก แต่พอแง้มฝาโลงขึ้นมาก็พบว่าอ้วนได้เสียชีวิตไปแล้วในสภาพที่เหมือนดิ้นรนเพื่อออกจากโลง
ในเคสนี้ตำรวจอธิบายว่าอ้วนขาดอากาศหายใจจนตาย แต่พิมพ์ก็บอกว่าฝาโลงไม่ได้ปิดสนิท แต่ตำรวจก็ไม่เชื่อ

สุดท้ายหนุ่ยกับพิมพ์ตัดสินใจไปตามหาว่าแสงดาวนั้นเป็นใคร โดยเริ่มจากที่ที่เธอตายคือ โรงแรม พอไปถึงทั้งสองคนก็เข้าไปในห้องนั้นโดยพนักงานเอาของที่เหลือของแสงดาวมาให้ ในนั้นมีแต่จดหมายเต็มไปหมด พนักงานยังบอกอีกว่าแสงดาวได้เสียชีวิตในขณะที่กำลังท้องอยู่ด้วย ทั้งสองตัดสินใจนำจดหมายไปส่งตามที่อยู่ที่เธอเขียนเอาไว้หน้าซองจดหมาย

พอไปถึงก็เจอกับแม่ของแสงดาว เขาได้นำจดหมายให้แม่ไป และพวกเขาก็ได้เห็นรูปของแสงดาวที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ แม่เล่าว่าแสงดาวหนีออกจากบ้านไปนานแล้ว โดยที่เธอก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหน พิมพ์เห็นรูปเด็กผู้หญิงสองคนอีกภาพ เธอตกใจมากเพราะเป็นรูปเดียวกันกับที่เธอได้เห็นจากตะวันเด็กผู้หญิงในโรงพยาบาล จึงถามว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แม่บอดว่าตะวันเป็นน้องสาวของแสงดาวสองคนนี้รักกันมาก ตัวติดกันตลอด จนกระทั่งแสงดาวหนีออกจากบ้านไป ตะวันก็ได้ฆ่าตัวตายภายในห้องนั่นเอง

สักพักก็มีเสียงมาจากห้องข้างๆ แม่จึงไล่ให้หนุ่ยกับพิมพ์รีบกลับไป หนุ่ยกับพิมพ์ได้แอบมองเห็นในห้องนั้นว่ามีคนถูกล่ามโซ่อยู่ ( ภาพอดีตย้อนมาอธิบายว่าชายในห้องนั้นคือพ่อเลี้ยง ที่ข่มขืนแสงดาวต่อหน้าตะวันตั้งแต่เด็ก จึงเป็นเหตุให้แสงดาวหนีออกจากบ้าน )
ทั้งสองจึงขับรถออกมาจากบ้านของแสงดาว ในขณะที่ทั้งสองกำลังขับรถผีของแสงดาวก็ตามมาหลอก โดยที่เธอมาเกาะอยู่หน้ากระจกและมีเลือดโชกเต็มไปหมด ทำให้หนุ่ยตกใจขับรถเสียหลักลงข้างทาง เมื่อฟื้นขึ้นก็ไม่เจอพิมพ์ หนุ่ยวิ่งไปตามหาจึงพบว่าพิมพ์กำลังเดินลงน้ำไป หนุ่ยจึงรีบลงไปช่วยพิมพ์ และพบว่าผีแสงดาวเป็นคนดึงพิมพ์ลงไป

ตัดมาที่พิมพ์ที่กำลังคุยกับตำรวจ ตำรวจถามว่าแล้วตอนนี้หนุ่ยอยู่ที่ไหน พิมพ์ตอบว่า หนุ่ยกลับไปให้หลวงตาทำพิธีให้แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เจอกันอีกเลย ตำรวจไม่เชื่อสิ่งที่พิมพ์ได้เล่ามาทั้งหมด โดยบอกว่าเคยมีคนเล่าเรื่องคล้าย ๆ กันแต่เป็นผู้ต้องขัง แล้วจู่ ๆ เขาก็ผูกคอตายในห้องขังและเขียนติดผนังไว้ว่า “แสงดาว”