"อิทธิพร บุญประคอง" ปธ.กกต. ลั่น มีหลักฐานให้ส่งมา อยากได้มากเพราะ กกต. มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามทุจริต

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า ภาพรวมในวันนี้น่าพึงพอใจกับผลดำเนินการของเจ้าหน้าที่ และความพร้อมของผู้สมัครทั้งที่ จ.ราชบุรี และ จ.นครปฐม โดยที่ จ.ราชบุรี มีผู้สมัครทั้งหมด 458 คน ไม่มารายงานตัว 4 คน การจัดสถานที่ การให้ความสะดวกแก่ผู้สมัครเป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหา ในช่วงที่ไปเป็นช่วงรายงานตัว ซึ่งมีแต่ความเรียบร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรได้เดินทางไปอำนวยความสะดวกกำกับดูแลเช่นกัน ส่วนที่ จ.นครปฐม เรียบร้อยเช่นกัน มีผู้สมัครมารายงานตัวครบตามจำนวน 210 คน ฉะนั้นจะเห็นภาพความพร้อมของเจ้าหน้าที่ ความตั้งใจของผู้สมัครที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย เลือกกันเองอย่างสุจริต จะเห็นได้จากภาพเหล่านั้น ส่วนที่ กทม. ได้รับรายงานจาก ผอ.การเลือกของ กทม.ว่าในบรรดาผู้สมัคร 1,634 คนมีผู้ไม่มารายงานตัว 17 คน ได้รับรายงานจาก นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ซึ่งไปอยู่พื้นที่อื่นๆ ทราบว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยยังไม่มีปัญหาอุปสรรคประการใด

ในส่วนของเรื่องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องจะมีคำวินิจฉัยในอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งทาง กกต. มีการเตรียมพร้อมไว้แล้วหากศาลวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น แต่ในตอนนี้ด้วยความเคารพต่อศาลจะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้ ส่วนที่มีผู้สมัครบางรายที่ไม่ผ่านการเลือกตั้งต้องการร้องเรียนเรื่องมีการล็อกผลโพยต่างๆ ต้องทำขั้นตอนอย่างไร นายอิทธิพร บอกว่า สามารถยื่นเรื่องโดยตรงกับ กกต.ได้ หรือสามารถไปยื่นกับศาลฎีกาได้เช่นกันภายใน 3 วัน ในขณะนี้ส่วนที่เป็นคำร้องตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอมี 78 คำร้อง ของจังหวัดที่มีอยู่ขณะนี้ 2 คำร้องจาก จ.พะเยา และ จ.มหาสารคาม ใน 78 คำร้องของระดับอำเภอเป็นคำร้องเกี่ยวกับกระบวนการ 11 คำร้อง ซึ่งทั้ง 11 คำร้อง กกต.พิจารณาทั้งหมดเสร็จแล้ว ส่วนอีก 67 คำร้องเป็นคำร้องเกี่ยวกับการดำเนินการฝ่าฝืนกฎหมาย ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรื่องให้ผลประโยชน์ ให้เงินเข้ามาสมัคร

ส่วนถ้าผลการเลือกออกมาตรงตามโพยที่มีภาพหลุดออกมาจะทำอย่างไร นายอิทธิพร บอกว่า ประการแรกต้องตรวจสอบว่าพยานหลักฐานที่นำมายื่นเป็นพยานหลักฐานที่แท้จริงหรือไม่ และนำเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวนโดยเร็ว ผลเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคำร้องและพยานหลักฐานแต่ละคน ถ้ามีพยานหลักฐานให้นำส่ง กกต. เราอยากได้มากเพราะ กกต. มีหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามทุจริต แต่พยานหลักฐานต้องมั่นใจว่าถูกต้องสามารถใช้พิจารณาและตัดสินได้อย่างเป็นธรรม ส่วนหากมีการทักท้วงภายในกลุ่มเรื่องคะแนนจะต้องทำการนับใหม่ให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้หรือไม่ นายอิทธิพร บอกว่า หากมีการทักท้วงหรือคัดค้านการนับคะแนนผู้สมัครจะต้องทำการทักท้วงระหว่างการนับคะแนน ซึ่งมีการกำชับเจ้าหน้าที่ให้แจ้งเรื่องนี้กับผู้สมัครแล้ว จะต้องมีการกรอกแบบฟอร์ม ถ้าพบว่าคำร้องถูกต้องจะมีการแก้ไข ณ เวลานั้น แต่ถ้าผู้ปฏิบัติเห็นว่าเขาปฏิบัติถูกต้องแล้ว ผู้ปฏิบัติจะต้องให้เขาลงแบบทักท้วงและเข้าสู่กระบวนการให้ กกต.ไต่สวนทำให้เสร็จภายในเวลาโดยเร็ว ในที่นี้หมายถึงว่าถ้าเห็นว่าผู้ทักท้วงถูกเราต้องสั่งให้มีการนับคะแนนหรือเลือกใหม่แล้วแต่กรณี แต่ถ้าเราพิจารณาแล้วไม่เห็นความผิดพลาดตรงไหน ก็จะยกคำร้อง ทั้งหมดทั้งมวลต้องทำให้เสร็จก่อนวันที่ 26 มิถุนายนที่จะมีการเลือก ส.ว.ระดับประเทศ

ส่วนหากพบว่าผู้สมัครที่มีการประกาศชื่อไปแล้วมีคนขาดคุณสมบัติ จะมีขั้นตอนอย่างไร นายอิทธิพร บอกว่า จะนำชื่อผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติออกและนำผู้สมัครรายชื่อสำรองขึ้นมาแทน เพราะเราจะได้ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกทุกกลุ่ม 10 คน และได้ผู้สมัครสำรองอีก 5 คน ถ้าปรากฏภายหลังว่ามีเหตุอันควรให้คัดชื่อออกจะไม่เลือกใหม่ ใช้วิธีการเลื่อนชื่อสำรองขึ้นมาแทน ส่วนหากเปิดสภาแล้วยังไม่ได้ ส.ว.ครบ 200 คนเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ นายอิทธิพร บอกว่า เท่าที่ทราบตามที่ศึกษามาคิดว่าไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ ส่วนในวันนี้มีคนพบเห็นผู้สมัครยื่นโพยคะแนนกันในห้องน้ำ กกต.จะทำอย่างไร นายอิทธิพร บอกว่า โดยปกติหากผู้สมัครต้องการจะเข้าห้องน้ำต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่และทางเจ้าหน้าที่จะติดตามและพาไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งการกระทำทุจริตจะเกิดขึ้นได้ยากในพื้นที่ที่มีผู้สมัครน้อยเนื่องจากควบคุมได้ง่าย แต่หากพื้นที่ใดมีคนพบเห็นการกระทำทุจริตเช่นนี้ อยากขอความกรุณาให้ยื่นเรื่องเพื่อบอกรายละเอียดต่อ กกต.ด้วย