หลวงพ่อทองคำ พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ “หลวงพ่อทองคำ” พระประธานในพระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” หรือ “หลวงพ่อทองคำ” เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ก พ.ศ.๒๕๓๔ (THE GUINNESS BOOK OF WORLD RECORDS 1991) ว่าเป็น “พระพุทธรูปทองคำแท้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” และเป็น “ปูชนียวัตถุที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก” คือมีมูลค่าสูงกว่า ๒๑ ล้านปอนด์ แต่คุณค่าแห่งพลังศรัทธา ในจิตใจของพุทธศาสนิกชนนั้น มูลค่าใดๆ ก็มิอาจจะเทียบเทียมได้ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ พระมหามณฑป “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เลขที่ ๖๖๑ ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (ปางชนะมาร, ปางสะดุ้งมาร) ศิลปะสุโขทัย ในพระอิริยาบถนั่งสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางเหนือพระชานุ (เข่า) ปลายพระหัตถ์ชี้ลงพื้นธรณี ขนาดหน้าตักกว้าง ๖ ศอก ๕ นิ้ว หรือมากกว่า ๒.๕๐ เมตร ความสูงจากพระเกตุมาลาถึงฐานทับเกษตร (ฐานที่รองรับพระพุทธรูป) ๗ ศอก ๑ คืบ ๙ นิ้ว หรือประมาณ ๓.๐๔ เมตร ๑๐ ฟุต มีน้ำหนักประมาณ ๕.๕ ตัน หรือ ๕,๕๐๐ กิโลกรัม
นักประวัติศาสตร์ชี้ว่า เป็น “พระพุทธรูปทอง” ในวิหารวัดมหาธาตุ กรุงสุโขทัย ที่อ้างถึงในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช บรรทัดที่ ๒๓-๒๗ มีข้อความปรากฏดังนี้ “กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม มีพิหารอันใหญ่ มีพิหารอันราม” ข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในสมัยสุโขทัยมีการก่อสร้างพระวิหาร พระพุทธรูปปูนปั้น โลหะ และทองคำ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ดังปรากฏเป็นหลักฐานประติมากรรมสมัยสุโขทัยที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
จึงสันนิษฐานได้ว่า หลวงพ่อทองคำน่าจะถือกำเนิดในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ก่อนปี พ.ศ.๑๘๒๖ อันเป็นพุทธศักราชที่ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทย หากนับเนื่องมาจนถึงปัจจุบันปี พ.ศ.๒๕๕๐ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทรงมีพระบรมราชโองการให้อัญเชิญพระพุทธรูปตามวัดร้างต่างๆ ที่สุโขทัยมาประดิษฐานไว้ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ รวมจำนวนได้ ๑,๒๔๘ องค์ รวมทั้ง “หลวงพ่อทองคำ” ด้วย ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในสภาพพอกปูนปั้นหุ้มทั้งองค์ ดูเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นธรรมดา ต่อมาปี พ.ศ.๒๓๔๔ ได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธาน ในวัดพระยาไกร หรือวัดโชตินาราม อันเป็นวัดที่ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ทองจีน ไกรฤกษ์) สร้างถวายเป็นพระอารามหลวง ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ.๒๔๗๕
ต่อมาในปี พ.ศ. 2478 หลวงพ่อทองคำได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่ วัดไตรมิตรวิทยาราม ซึ่งในขณะนั้นชื่อว่า วัดสามจีน ในปี พ.ศ. 2497 พระครูวิสัยโสภณ (หลวงพ่อไสว) อดีตเจ้าอาวาสวัดไตรมิตร ได้ริเริ่มถอดปูนที่พอกไว้รอบองค์พระพุทธรูป ปรากฏว่าใต้ชั้นปูนนั้นเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก
ปัจจุบัน หลวงพ่อทองคำได้รับการยกย่องว่าเป็น พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ภายใน พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ความเชื่อ:
- เชื่อกันว่าหลวงพ่อทองคำเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ช่วยปกป้องคุ้มครองผู้บูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัย
- เชื่อกันว่าการสักการะหลวงพ่อทองคำจะช่วยให้โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
- เชื่อกันว่าการกราบไหว้หลวงพ่อทองคำจะช่วยให้สมปรารถนา
นอกจากนี้ หลวงพ่อทองคำยังเป็นตัวแทนของ ความศรัทธา และ ภูมิปัญญา ของคนไทย สะท้อนให้เห็นถึง วัฒนธรรม และ ประเพณี อันดีงามของไทย