บริหารสมอง ด้วยพฤติกรรมง่ายๆ
บริหารสมอง ด้วยพฤติกรรมง่ายๆ
ภาพจาก https://thcsvinhmy.edu.vn/ruupsm-ng-kaartuun/
สมองของคนเราจะเจริญแติบโตได้สูงสุดเมื่อเราอายุ 25-30 ปี หลังจากนั้นเซลล์สมองของเราจะค่อยๆลดลง แต่การลดจำนวนของเซลล์ลงนั้นไม่ได้หมายความว่าคนเราจะฉลาดน้อยลง เพียงแต่เมื่อเราอายุมากขึ้นประสิทธิภาพการทำงานของสมองจะลดลง เช่น ความจำ การสั่งการต่างๆ
นั่นคือเหตุผลที่เราจะต้องบริหารสมองอยู่เสมอ ซึ่งวันนี้จะมาแชร์ความรู้ต่างๆจากหนังสือเล่มนี้กัน
ซึ่งการบริหารสมอง ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆในชีวิตประจำวัน ได้แก่
1. นั่งหลังตรง ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีมากขึ้น หรือหากนั่งนานๆก็ให้หมั่นเปลี่ยนอิริยาบท
2. เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆที่เราไม่คุ้นเคยทุกวัน ช่วยพัฒนาสมองและสติปัญญาเพิ่มความแข็งแรงให้กับเซลล์ประสาทใหม่ๆในฮิปโปแคมปัสมีส่วนช่วยพัฒนาความจำ ฝึกพูดคำหรือสำเนียงที่ไม่คุ้นเคย เช่น ภาษาต่างประเทศ ภาษาท้องถิ่นภาคต่างๆ หมั่นท่องและจดจำบ่อยๆ นอกจากทำให้บริหารสมองแล้ว ยังทำให้เราเกิดความสนุกสนานผ่อนคลาย
3. กินดาร์ดช็อคโกแลต ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆโดยเฉพาะสารที่มีชื่อว่า ฟลาโวนอยด์ จะทำหน้าที่กำจัดอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น
4. การเดินเร็วๆ ช่วยบำรุงสมอง เลือดสูบฉีดสมองได้เร็วขึ้น เพิ่มพลังสมองเมื่อต้องการความคิดที่สร้างสรรค์หรือไอเดียใหม่ ออกไปเดินเล่นนนอกบ้านบ้าง
5. ใช้มือที่ไม่ถนัด สมองจะเกิดการตื่นตัวเป็นอย่างมาก หากเราทำอะไรที่แปลกใหม่ ไม่คุ้นเคยบ้าง จะส่งผลให้เซลล์สมองทำงานเชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ ลองใช้มือที่ไม่ถนัดทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การกินข้าว การเล่นโทรศัพท์มือถือ การวาดรูป การขีดเขียน การเปิดประตู
6. จินตนาการถึงชีวิตที่ดี หลังตื่นนอนให้นอนบนเตียงและใช้จินตนาการคิดถึงสิ่งที่ดี สิ่งที่ผ่อนคลาย วิธีนี้จะทำให้ลดความตึงเครียด กระวนกระวายได้ ลบการคิดลบกับตังเอง เพิ่มพลังบวกมากขึ้น เมื่อสมองได้รับพลังงานบวกจะทำให้เรามีอารมณ์แจ่มใส ลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์
7. กินบลูเบอร์รี่ จะดื่มหรือกินก็ได้ เพราะบลูเบอร์รี่มีส่วนผสมของสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ฟลาโวนอยด์ และสารโพลีฟีนอล ที่ช่วยสร้างเซลล์ประสาทใหม่ๆ ส่งเสริมความจำและความคิิด
8. หาเวลาว่างให้ตัวเอง 10 นาที แบบไร้สิ่งรบกวน เป็นการอยู่เฉยๆแบบไม่มีส่งรบกวน ไม่มีเครื่องมือสื่อสาร ไม่มีโทรทัศน์ เป็นการฝึกสมาธิ ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลง สมองไม่คิดฟุ้งซ่าน ช่วยจัดระเบียบสมองให้เข้าที่เข้าทาง หากทำตอนเช้าจะทำให้ระหว่างวันเราสามารถควบคุมความคิดและจิตใจได้
9. ดมกลิ่น การใช้น้ำมันหอมระเหยสามารถบรรเทาความเครียดได้ดี ช่วยปรับจูนคลื่นสมองและปรับปรุงการทำงานของอารมณ์ได้ดี เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยลดความเครียด กลิ่นมะกรูดที่ทำให้กระตือรือร้นมีชีวิตชีวา การจุดเทียนหอมส่งเสริมออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น
10. เขียนสิ่งที่อยากขอบคุณ นอกจากจะช่วยดูแลสมองแล้ว วิธีนี้ยังช่วยบำบัดจิตใจอีกด้วย ให้เขียนมาสิ่งหนึ่งที่รู้สึกขอบคุณ แล้ววางไว้ในที่ที่เราจะเห็นมันได้บ่อยๆ เห็นหลายครั้งต่อวัน จะทำให้ลดความเครียดและเพิ่มพลังเชิงบวกได้