เด็กสาวในชุดนอนเปื้อนเลือดเดินตัวแข็งทื่อไปตามท้องถนนและตำนานการฆ่าตัวตายหมู่
เด็กสาวในชุดนอนเปื้อนเลือดเดินตัวแข็งทื่อไปตามท้องถนนและตำนานการฆ่าตัวตายหมู่
เรื่องลึกลับสยองขวัญเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องคลาสสิคๆ
สำหรับใครบางคนแต่มันเป็นเรื่องสยองสยองที่มานำเสนอในรูปแบบอีกบรรยากาศหนึ่งนะครับในรูปแบบของเด็กสาวในชุดนอนเปื้อนเลือดเดินตัวแข็งทื่อๆไปตามท้องถนนและมันเกี่ยวข้องอะไรกับตำนานการฆ่าตัวตายหมู่เรื่องนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไรเราเข้ามาสัมผัสกับความสยองได้เลยครับ
เด็กสาวในชุดนอนเปื้อนเลือด’ ตำนานการฆ่าตัวตายหมู่จนกลายเป็นวิญญาณเฮี้ยนที่สร้างความสะพรึงให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน
เป็นเรื่องปกติแทบจะทุกเมืองในมุมโลกที่จะต้องเรื่องราวลึกลับที่ถูกกล่าวขานจนกลายเป็นตำนานของเมืองไว้คอยเล่าให้แก่ผู้มาเยือนฟัง เพื่อเป็นอรรถรสในการสนทนา วันนี้เราจะพาไปหลอนกับเรื่องราวที่ถือว่าน่าสะพรึงกลัวที่สุดเรื่องหนึ่งของบรรดาตำนานเมืองที่คุณเคยได้ยินมา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เลื่อนลงไปชมพร้อมๆ กัน
ที่เมือง Mechanicsville แห่งรัฐเวอร์จิเนีย มีเรื่องที่เล่าขานกันมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ครอบครัวหนึ่งที่มาสร้างบ้านอยู่ถนนที่มีชื่อว่า Studley Road โดยครอบครัวนี้ประกอบไปด้วยพ่อแม่และเด็กหญิงวัยประมาณ 8 ปี ทั้งสามคนอาศัยกันตามอัตภาพ ผู้เป็นพ่อนั้นทำงานในโรงงานไม้ของชุมชน ซึ่งรายได้นั้นสามารถที่จะอยู่กันอย่างไม่เดือดร้อนถ้าไม่นำเงินไปทำอย่างอื่น
ผู้เป็นพ่อนั้นจะเรียกได้ว่าทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่องก็คงพูดไม่เต็มปาก ในเวลาปกตินั้นเขาจะดูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างรับผิดชอบงาน รักครอบครัวแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เหล้าเข้าปากแล้วดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนในทันที ทั้งเมาแล้วอาละวาดและที่หนักไปกว่านั้นก็คือการใช้กำลังกับลูกและเมีย
เรื่องราวนั้นมาถึงขั้นเลวร้ายสุดๆ เมื่อผู้เป็นพ่อนั้นดื่มจัดและถูกลดเวลาทำงานทำให้รายได้ที่เคยพอมีพอกินนั้นกลายเป็นขัดสน นั่นก็ยิ่งทำให้ผู้เป็นพ่อดื่มหนักมากขึ้นจนถูกให้ออกจากงานหนำซ้ำพอไปสมัครที่ไหนก็ไม่มีคนรับเพราะชื่อเสียงในเรื่องดื่มหนักของเขา ในที่สุดฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดลงในคืนหนึ่ง
หลังจากที่ผู้เป็นพ่อซัดเหล้าเข้าไปจนเมาได้ที่และเริ่มอาละวาด การอาละวาดครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ เพราะมันจบลงตรงที่เขาจ่อปืนลูกซองไปที่ศีรษะของผู้เป็นเมียและลั่นไกจากนั้นก็หันมาทางลูกสาวและยิงออกไป สุดท้ายก็จ่อคางเข้าที่ปลายกระบอกและลั่นไกจบชีวิตตัวเอง เรื่องราวที่เป็นตำนานเริ่มตรงที่ลูกสาววัย 8 ขวบ ยังไม่ตายเธอกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาและออกเดินไปยังบ้านคนที่อยู่ใกล้ที่สุดในสภาพเลือดท่วมตัวและขากรรไกรของเธอหลุดออกไปจนลิ้นของเธอห้อยมาแปะอยู่ที่ลำคอ
เด็กหญิงเดินไปตามถนน Studley Road เพื่อหาใครก็ได้ที่เดินผ่าน แต่ทว่าคงเป็นโชคร้ายของเธอ ไม่นานนักเธอก็ล้มลงขาดใจตายด้วยอาการเสียเลือดห่างจากบ้านเธอกว่า 1 กม.
เรื่องราวนี้กลายเป็นที่โจษจันในเมืองเป็นอย่างมากเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สุดแสนจะสะเทือนขวัญ แต่ทว่าเรื่องราวนั้นยังไม่จบ เมื่อไม่กี่วันต่อมาบรรดาผู้ที่ขับรถผ่านในยามค่ำคืนจะได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องไห้ลอยมาตามลม และเห็นเงาของเด็กผู้หญิงเดินโซซัดโซเซอยู่บนถนน หากผู้ใดจอดเพื่อที่จะดูให้แน่ใจ เงานั้นก็จะหายไปและจะปรากฏร่างของเด็กผู้หญิงในชุดนอนเปื้อนเลือดและที่บริเวณขากรรไกรล่างนั้นหลุดหายไปอย่างน่าสยองขวางรถอยู่
ปัจจุบันก็ยังมีผู้ที่อ้างว่าได้พบกับวิญญาณของเด็กหญิงอยู่บ้างประปราย แม้บริเวณถนน Studley Road จะมีชุมชนบ้านเรือนตั้งอยู่หนาแน่นกว่าเมื่อก่อน ดูเหมือนว่าวิญญาณของเธอจะยังคงพยายามหาคนช่วยเธอไม่รู้จบ