15 ผลข้างเคียงของการช่วยตัวเองทุกวัน ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณผู้ชายได้
15 ผลข้างเคียงของการช่วยตัวเองทุกวัน ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณได้
การช่วยตัวเองไม่มีอันตรายรุนแรงใดๆ อย่างมากคุณอาจพบว่าผิวหนังเกิดการถลอก แต่สิ่งเหล่านี้จะหายเป็นปกติภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตามคุณอาจยังกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการช่วยตัวเองในผู้ชายทุกวัน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้แก่
1. รบกวนชีวิตประจําวัน ในบางกรณีผู้ชายอาจพบว่าตัวเองจําเป็นต้องช่วยตัวเองบ่อยๆเมื่อพวกเขาช่วยตัวเองเกินความจําเป็น อาจส่งผลให้ขาดงานโรงเรียนหรือกิจกรรมอื่นๆรบกวนชีวิตประจําวันส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความรับผิดชอบอื่นๆกลายเป็นวิธีหลีกหนีจากปัญหาชีวิต เช่นความสัมพันธ์ครอบครัว หรือปัญหาการงานหากคุณรู้สึกว่าชีวิตของคุณกําลังถูกรบกวนจากความต้องการช่วยตัวเองอยู่ตลอดเวลา ลองพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแพทย์หรือนักบําบัดจะช่วยคุณจัดการพฤติกรรมทางเพศ และจัดเตรียมวิธีการรับมือให้กับคุณ
2. ความรู้สึกผิด หลายๆ คนมักถูกบอกว่าการช่วยตัวเองเป็นสิ่งที่ผิดตามศาสนาหรือวัฒนธรรมเมื่อพวกเขาช่วยตัวเอง พวกเขาอาจจะรู้สึกผิด อย่างไรก็ตามคุณต้องตระหนักว่าไม่มีอะไรผิดศีลธรรมเกี่ยวกับการช่วยตัวเอง การพอใจในตนเองไม่มีอะไรผิด โดยพื้นฐานดังการช่วยตัวเองจึงไม่จําเป็นต้องเป็นการกระทําที่น่าละอาย หากคุณรู้สึกผิดหรือไม่สบายใจ วิธีที่ดีที่สุดคือปรึกษากับเพื่อนนักบําบัดหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่เชี่ยวชาญเรื่องสุขภาพทางเพศ ผู้เชี่ยวชาญได้รับการฝึกฝนมา เพื่อช่วยคุณควบคุมอารมณ์ความรู้สึกผิดหรือความอับอายที่เกี่ยวข้องกับการช่วยตัวเอง
3. ความประหม่าทางสังคม การเสพติดการช่วยตัวเองสามารถรบกวนชีวิตประจําวันและการทํางานของคุณได้ผู้ชายหลายคนรู้สึกอึดอัดในการเข้าสังคมเมื่อพวกเขาเสพติดการช่วยตัวเอง พวกเขาจะชอบอยู่บ้านและหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอก ผู้ชายที่ติดพฤติกรรมนี้จะทําทุกอย่างเพื่อใช้เวลาอยู่คนเดียว พวกเขาจะหาข้อแก้ตัวทุกรูปแบบเพื่อหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกหรือพบปะผู้อื่น พวกเขาอาจรู้สึกกลัวเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่นการถูกปลุกเร้าในที่สาธารณะ
4. ความนับถือตนเองต่ำ การช่วยตัวเองกลายเป็นทางหนี สําหรับผู้ที่มีอาการวิตกกังวลซึมเศร้าหรือมีปัญหาทางจิตอื่นๆ นี่เป็นช่องทางให้พวกเค้ารับมือกับบาดแผลทางจิตใจ บุคคลเหล่านี้มักเผชิญกับการสูญเสียความภาคภูมิใจในตนเองและความมั่นใจพวกเขาพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นและมักจะวิตกกังวล การช่วยตัวเองช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเพียงชั่วขณะ แต่มันส่งผลให้เกิดการนับถือตนเองเชิงลบ
5. การเสียสมาธิ ผู้ชายที่ติดการช่วยตัวเองมากกว่าวันละครั้ง มักจะสูญเสียสมาธิพวกเขาจะรีบทํากิจกรรมต่างๆให้เสร็จเร็วๆ พวกเขาขาดการมุ่งเน้นที่จําเป็นในการทําหน้าที่ให้สําเร็จ สิ่งนี้อาจส่งผลเสียในระยะยาว เนื่องจากจะส่งผลเสียต่อด้านอื่นๆของการเรียนการทํางานและชีวิตทั่วไป
6. ลดความไวต่อความรู้สึกทางเพศ การช่วยตัวเองมากเกินไปหรือเทคนิคที่รุนแรงอาจส่งผลให้ความไวต่อความรู้สึกทางเพศลดลง การกําอวัยวะเพศชายแน่นๆ อาจทําให้คุณรู้สึกลดลงในระยะยาว อย่างไรก็ตามสิ่งนี้สามารถแก้ไขได้ โดยการเปลี่ยนเทคนิคการช่วยตัวเอง คุณสามารถเลือกใช้เซ็กทอยเพื่อเพิ่มความเร้าอารมณ์และความสุขของคุณได้ ผู้ชายก็ใช้เครื่องสั่นได้เช่นกัน
7. มะเร็งต่อมลูกหมาก ไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดว่าการช่วยตัวเองจะเพิ่มหรือลดโอกาสของมะเร็งต่อมลูกหมากการศึกษาในปี 2003 พิสูจน์ว่าผู้ชายที่หลั่งน้ำอสุจิมากกว่า 5 ครั้งต่อสัปดาห์ในช่วงอายุ 20 ปีมีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากที่รุนแรง น้อยกว่าผู้ชายที่หลั่งน้ำอสุจิไม่บ่อยถึง 1 ใน 3 การศึกษาในปี 2016 พบว่ามีความเชื่อมโยงที่คล้ายคลึงกันระหว่างการหลั่งบ่อยครั้งและความเสี่ยงที่ลดลงของมะเร็งต่อมลูกหมาก ในทางกลับกันการศึกษาในปี 2008 พบว่ากิจกรรมทางเพศหรือการช่วยตัวเองมากเกินไปในช่วงอายุ 20 และ 30 ปีของผู้ชายอาจเพิ่มความเ สี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากนักวิจัยเชื่อว่าความเสี่ยงที่ลดลงเกิดจากการป้องกันการสะสมของสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในต่อมลูกหมาก จําเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในด้านนี้
8. อวัยวะเพศบวม ผู้ชายบางคนช่วยตัวเองบ่อยเกินไป ซึ่งส่งผลให้อวัยเพศชายบวมสิ่งนี้เรียกว่าอาการบวมน้ำภาวะนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการระคายเคืองบ่อยๆ อาการบวมน้ําเป็นโรคที่มีอาการบวมในร่างกาย เนื่องจากการกักเก็บของเหลวในเนื้อเยื่อ ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณออกแรงกดทับส่วนต่างๆของร่างกายมากเกินไป
9. จํานวนอสุจิต่ำ การช่วยตัวเองอาจเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามจะดีก็ต่อเมื่อคุณไม่ทํามากเกินไป ของดีแค่ไหนก็ยังต้องทําด้วยความพอประมาณ เมื่อผู้ชายช่วยตัวเองมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อความสามารถในการสร้างฮอร์โมนเพศชายในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลให้จํานวนอสุจิตต่ํา สําหรับผู้ที่อยากมีครอบครัวสิ่งนี้อาจเป็นอันตรายได้
10. เเดสซินโดรม โรคแดสเป็นภาวะที่ผู้ชายต้องเผชิญในเอเชียใต้ ในกลุ่มอาการนี้ผู้ชายอาจมีอาการหลังเร็วหรือหลั่งน้ำอสุจิขณะปัสสาวะ ตามการวิจัยในปี 2015 โดยอินเตอร์เนชั่นแนลเจอร์เนอร์ออฟเมดิคอลรีเสิร์ชแอนด์เฮซพบว่ากลุ่มอาการแดส อาจเป็นผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ของการช่วยตัวเอง โรคนี้อาจเป็นสาเหตุหลักของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือการหลั่งเร็วในผู้ชายในภายหลัง
11. ปัญหาหลั่งตอนนอน ผลข้างเคียงอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นจากการช่วยตัวเองได้แก่ปัญหาหลังตอนนอน หมายถึงผู้ชายที่หลั่งน้ำสุจิขณะนอนหลับหรือฝันเปียก ผู้ชายที่ทํากิจกรรมทางเพศหรือการช่วยตัวเองมากเกินไปมักประสบปัญหานี้
12. ผื่นแดง บางครั้งผู้ชายอาจมีผื่นแดง หากดึงอวัยวะเพศชายแรงเกินไปในช่วงถึงจุดสุดยอด การจับอวัยวะเพศแน่นเกินไปอาจทําให้คุณต้องไปหาหมอ ผื่นเหล่านี้มักเกิดขึ้นเนื่องจากผิวแห้งหรือการติดเชื้อที่ผิวหนังการติดเชื้อเหล่านี้มักเกิดจากการใช้มือสกปรกหรือสารหล่อลื่นคุณภาพต่ำ คุณอาจมีการติดเชื้อทางผิวหนังได้
13. ทําให้เกิดอาการปวดหลังส่วนล่าง ข้อเสียประการหนึ่งของการช่วยตัวเองบ่อยๆ ก็คืออาการปวดหลังสาเหตุของความเจ็บปวดนี้คือความต้องการเปลี่ยนตําแหน่ง เพื่อความสุขในตนเองอย่างต่อเนื่อง การช่วยตัวเองมากเกินไปอาจทําให้เกิดอาการปวดหลังส่วนล่างเล็กน้อยหรือรุนแรงได้ หากทําโดยไม่ระมัดระวังอาจทําให้ไขสันหลังเสียหายได้ในระยะยาว
14. การเปลี่ยนแปลงของสายตา ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งของการช่วยตัวเอง คือการมองเห็นไม่ชัด ผู้ชายบางคนอาจพบว่าการมองเห็นเปลี่ยนไป หากช่วยตัวเองทุกวันสิ่งสําคัญคือต้องใส่ใจกับสิ่งนี้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการมองเห็นที่ไม่ดีในอนาคต
15. การบาดเจ็บที่อวัยวะเพศชาย แม้ว่าการช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่สิ่งสําคัญคือต้องระมัดระวังอุบัติเหตุ สามารถเกิดขึ้นได้ และการช่วยตัวเองทุกวันอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศชาย เพราะคุณใช้มือเพื่อความสนุกสนานอย่างต่อเนื่อง การใช้มือหรือการถูอวัยวะเพศอย่างรุนแรง อาจทําให้เกิดการบาดเจ็บและบาดแผลได้บ่อยครั้งที่ผู้ชายมักเกิดแผลที่อวัยวะเพศ เนื่องจากการช่วยตัวเอง
สรุปผลข้างเคียงของการช่วยตัวเองในผู้ชายทุกวัน ผลข้างเคียงของการช่วยตัวเองในผู้ชายทุกวันจะปรากฏเฉพาะเมื่อมีการช่วยตัวเองมากเกินไปเท่านั้น การช่วยตัวเองให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายหากทําในปริมาณที่พอเหมาะ ตราบใดที่คุณรู้สึกดี การช่วยตัวเองทุกวันก็ไม่ใช่เรื่องผิด เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าจะกลายเป็นปัญหาคุณควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือคุณควรปรึกษาแพทย์