จบ ม.3 ไม่เรียนต่อ หลุดระบบการศึกษามากถึง 90 เปอร์เซ็น
จบ ม.3 ไม่เรียนต่อ หลุดระบบการศึกษามากถึง 90 เปอร์เซ็น
การศึกษาไทยเข้าขั้นวิกฤตเด็กรุ่นใหม่หลุดออกจากระบบการศึกขั้นพื้นฐานมากถึง 90 เปอร์เซ็น
เกิดอะไรขึ้นกับการศึกษาของไทย ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของครอบครัวทำให้เด็กไม่ได้เรียนต่อหลังจากเรียนจบชั้นมัธยมต้นโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนื่องจากผู้ปกครองมีฐานะยากจนไม่มีกำลังพอที่จะส่งบุตรหลานของตัวเองเข้าศึกษาต่อจะเริ่มทยอยหลุดจากระบบการศึกษาช่วง ม.ต้น หลุดมากสุดช่วงรอยต่อ ม.3 ขึ้น ม.4
กระทั่งถึงระดับอุดมศึกษาจะหลุดถึงเกือบ 90% ถ้าหากมีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาส่งผลให้ในอนาคตไม่มีเด็กรุ่นใหม่มาพัฒนาประเทศ ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย มหาลัยแย่งกันรับนักศึกษาเข้าเรียนเนื่องด้วยจำนวนของมหาลัยมีเท่าเดิมแต่จำนวนเด็กมีน้อยลง
ในเเรื่องนี้ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มองว่า นโยบายเรียนฟรี 15 ปี มันไม่มีอยู่จริง หรือ หากมีก็ไม่ได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายการศึกษาให้กับผู้ปกครองมากเท่าที่ควร เพราะยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละวันค่อนข้างสูง เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ทำให้บางครอบครัวส่งเสียไม่ไหว จึงให้บุตรหลานหยุดเรียน เพื่อไปทำงานหาเงิน
ถึงแม้ว่าจะเรียนฟรีแต่ผู้ปกครองต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละวันอีกหลายส่วนเพราะฉะนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือลาออกจากการเรียนมาทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัว
ปัจจัยที่ทำให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา คือ
- เด็กที่จบการศึกษาชั้น ม.3 และกำลังจะขึ้นชั้น ม.4 ไม่ได้เรียนฟรีแล้ว หากจะเรียนต่อชั้น ม.ปลาย หรือ อาชีวศึกษา จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 30,000 – 70,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มันสูงมากสำหรับครอบครัวหาเช้ากินค่ำ
- หลังจบการศึกษาภาคบังคับแล้ว อาจารย์ไม่มีการติดตาม หรือ ดูแลเอาใจใส่ว่าเด็กจะเรียนต่อที่ไหน นักเรียนขาดแนวทางและความรู้การวางแผนสำหรับการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น
- เด็กมีปัญหาส่วนตัว มีความก้าวร้าวรุนแรง ครอบครัวแตกแยก ติดเพื่อน ขาดความรักความอบอุ่นจากครอบครัวเลือกที่จะประชดชีวิตด้วยการไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดเพิ่มมากขึ้น