Coolsculpting บอกลาไขมันแบบคูล ๆ มีหลักการทำงานอย่างไร ใช้กี่หนีบ ?
Coolsculpting คือ เทคนิคกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ใช้ความเย็นจัดในการสลายเซลล์ไขมันส่วนเกิน ทำให้คุณสามารถบอกลาไขมันส่วนเกินได้อย่างคูล ๆ แบบไม่มีแผล หรือเสียเลือด
บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ Coolsculpting ว่าทำงานอย่างไร ขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร ต้องใช้กี่หนีบ พร้อมกับคำแนะนำในการเลือกจำนวนหนีบให้เหมาะสม เลื่อนอ่านต่อด้านล่างได้เลย!
แนะนำ Coolsculpting วิธีกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด
Coolsculpting เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นแบบติดลบ ในการสลายไขมันส่วนเกิน โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างดี เช่น หน้าท้อง ขา และเอว โดยใช้หลักการแช่แข็งเซลล์ไขมันจนตายและถูกกำจัดออกไปโดยธรรมชาติ วิธีนี้ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เจ็บตัว และสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังทำ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด
หลักการทำงานของ Coolsculpting
เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นหรือ CoolSculpting จะใช้หลักการกำจัดเซลล์ไขมันด้วยกระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) หรือการแช่แข็ง โดยอาศัยคุณสมบัติของเซลล์ไขมันที่สามารถแข็งตัวได้เร็วกว่าเซลล์ผิวหนังมาใช้ในการทำลายเซลล์ไขมันแบบจำเพาะเจาะจงและไม่ไปทำลายเซลล์อื่นรอบข้าง
- แช่แข็งไขมันส่วนเกินด้วยความเย็นจัด (Cryolipolysis)
เครื่อง Coolsculpting จะมีหัวดูดสุญญากาศ (Applicators) เพื่อจับบริเวณผิวหนังที่มีไขมันส่วนเกิน
จากนั้นจะใช้เทคโนโลยีการทำความเย็นจัดประมาณ -11 องศาเซลเซียส เพื่อแช่แข็งเซลล์ไขมันในบริเวณนั้น
- ทำลายเซลล์ไขมัน
อุณหภูมิต่ำจะทำให้เซลล์ไขมันตายไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
แต่จะไม่กระทบต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ รอบข้าง เช่น ผิวหนัง หลอดเลือด และเส้นประสาท
- ขจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกาย
หลังจากเซลล์ไขมันถูกทำลาย ร่างกายจะขับถ่ายเซลล์ไขมันเหล่านั้นออกไปตามกระบวนการธรรมชาติในช่วง 3 เดือน
ข้อดีของ Coolsculpting เหตุผลที่ทำให้ Coolsculpting เป็นทางเลือกยอดนิยม
✔ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำงานและดำเนินชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ
✔ ปลอดภัย ได้รับการอนุมัติจาก อย. ไทย และ FDA
✔ ผลข้างเคียงน้อย มีเพียงอาการชั่วคราวเช่น เจ็บนิดหน่อย นวดช้ำ หรือรู้สึกเย็นในบริเวณที่ทำ
✔ สามารถกำจัดไขมันในบริเวณที่ยากต่อการลดน้ำหนัก เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน เป็นต้น
✔ ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างถาวร เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะไม่สามารถสร้างกลับมาใหม่ได้
✔ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือมีปัญหาสุขภาพที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
ด้วยข้อดีหลายประการนี้ จึงทำให้ Coolsculpting เป็นยอดนิยมในการลดไขมันส่วนเกินโดยไม่ต้องผ่าตัด
ขั้นตอนการทำ Coolsculpting
- ปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์พื้นที่ที่ต้องการลดไขมันและประเมินความเหมาะสมในการทำ
- ทำความสะอาดและทำเครื่องหมายกำหนดจุดบริเวณที่จะทำ
- นำหัวเครื่อง Coolsculpting วางบนบริเวณที่จะทำ โดยเครื่องจะใช้สุญญากาศดูดผิวหนังและไขมันเข้าไปในหัวเครื่อง
- เริ่มใช้ความเย็นเพื่อสลายไขมัน ประมาณ 30-60 นาที ขณะทำอาจรู้สึกเย็นและหนีบบริเวณที่ทำ
- แพทย์หรือเจ้าหน้าที่นวดบริเวณที่ทำเบา ๆ เพื่อช่วยให้กระบวนการสลายไขมันเป็นไปได้ดีขึ้น
- เสร็จสิ้นการทำ สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังจากการรักษา ไม่ต้องพักฟื้น
ควรใช้จำนวนกี่หนีบในการทำ Coolsculpting ?
จำนวนหนีบ CoolSculpting ที่ใช้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของพื้นที่ที่ต้องการกำจัดไขมัน
ปริมาณไขมันส่วนเกิน และผลลัพธ์ที่ต้องการ แต่โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะแนะนำจำนวนหนีบ CoolSculpting ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล
ตัวอย่างจำนวนหนีบ CoolSculpting แต่ละบริเวณ
- ใต้คาง/เหนียง : 1 หนีบ
- หน้าท้อง : 2-4 หนีบ
- เอว : 2 หนีบ
- ต้นแขน : 2 หนีบ
- ใต้รักแร้ : 2 หนีบ
- ต้นขา : 2 หนีบ
- สะโพก : 2 หนีบ
ทั้งนี้ การทำ CoolSculpting 1 หนีบ สามารถสลายไขมันได้ประมาณ 60-70 ซีซี
ทำ Coolsculpting กี่ครั้งเห็นผล ?
ผลลัพธ์ของการทำ Coolsculpting อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังทำประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดหลังทำประมาณ 3 เดือน
จำนวนครั้งในการทำ Coolsculpting ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่ต้องการกำจัดไขมัน ปริมาณไขมันส่วนเกิน และผลลัพธ์ที่ต้องการ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำจำนวนครั้งในการทำ Coolsculpting ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล
ตัวอย่างจำนวนครั้งในการทำ Coolsculpting แต่ละบริเวณ
- หน้าท้อง: 2-3 ครั้ง
- ต้นแขน: 1-2 ครั้ง
- ต้นขา: 2-3 ครั้ง
ทั้งนี้ การทำ CoolSculpting 1 ครั้ง สามารถลดไขมันได้ประมาณ 20-30%
การเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ทาน
- งดทานยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน
- งดดื่มแอลกอฮอล์
- สวมใส่เสื้อผ้าสบายที่ไม่รัดรูปไปยังคลินิก
- ถ่ายรูปก่อนทำ
สรุป
CoolSculpting เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่สะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ต้องการกำจัดไขมันแบบไม่เจ็บตัว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ก่อนตัดสินใจทำควรปรึกษากับแพทย์เพื่อวางแผนให้เหมาะสม
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่
Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร
ดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

