หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

Coolsculpting บอกลาไขมันแบบคูล ๆ มีหลักการทำงานอย่างไร ใช้กี่หนีบ ?

โพสท์โดย สมาชิกหมายเลข 2274530

Coolsculpting คือ เทคนิคกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ใช้ความเย็นจัดในการสลายเซลล์ไขมันส่วนเกิน ทำให้คุณสามารถบอกลาไขมันส่วนเกินได้อย่างคูล ๆ แบบไม่มีแผล หรือเสียเลือด 

บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ Coolsculpting ว่าทำงานอย่างไร ขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร ต้องใช้กี่หนีบ  พร้อมกับคำแนะนำในการเลือกจำนวนหนีบให้เหมาะสม เลื่อนอ่านต่อด้านล่างได้เลย!

แนะนำ Coolsculpting วิธีกำจัดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด

Coolsculpting เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นแบบติดลบ ในการสลายไขมันส่วนเกิน โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างดี  เช่น หน้าท้อง ขา และเอว โดยใช้หลักการแช่แข็งเซลล์ไขมันจนตายและถูกกำจัดออกไปโดยธรรมชาติ วิธีนี้ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เจ็บตัว และสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังทำ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบไม่ต้องผ่าตัด

หลักการทำงานของ Coolsculpting  

เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นหรือ CoolSculpting จะใช้หลักการกำจัดเซลล์ไขมันด้วยกระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) หรือการแช่แข็ง โดยอาศัยคุณสมบัติของเซลล์ไขมันที่สามารถแข็งตัวได้เร็วกว่าเซลล์ผิวหนังมาใช้ในการทำลายเซลล์ไขมันแบบจำเพาะเจาะจงและไม่ไปทำลายเซลล์อื่นรอบข้าง

เครื่อง Coolsculpting จะมีหัวดูดสุญญากาศ (Applicators) เพื่อจับบริเวณผิวหนังที่มีไขมันส่วนเกิน

จากนั้นจะใช้เทคโนโลยีการทำความเย็นจัดประมาณ -11 องศาเซลเซียส เพื่อแช่แข็งเซลล์ไขมันในบริเวณนั้น

อุณหภูมิต่ำจะทำให้เซลล์ไขมันตายไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

แต่จะไม่กระทบต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ รอบข้าง เช่น ผิวหนัง หลอดเลือด และเส้นประสาท 

หลังจากเซลล์ไขมันถูกทำลาย ร่างกายจะขับถ่ายเซลล์ไขมันเหล่านั้นออกไปตามกระบวนการธรรมชาติในช่วง 3 เดือน 

ข้อดีของ Coolsculpting เหตุผลที่ทำให้ Coolsculpting เป็นทางเลือกยอดนิยม

✔ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำงานและดำเนินชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ

✔ ปลอดภัย ได้รับการอนุมัติจาก อย. ไทย และ FDA

✔ ผลข้างเคียงน้อย มีเพียงอาการชั่วคราวเช่น เจ็บนิดหน่อย นวดช้ำ หรือรู้สึกเย็นในบริเวณที่ทำ

✔ สามารถกำจัดไขมันในบริเวณที่ยากต่อการลดน้ำหนัก เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน เป็นต้น

✔ ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างถาวร เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะไม่สามารถสร้างกลับมาใหม่ได้

✔ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือมีปัญหาสุขภาพที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ 

ด้วยข้อดีหลายประการนี้ จึงทำให้ Coolsculpting เป็นยอดนิยมในการลดไขมันส่วนเกินโดยไม่ต้องผ่าตัด

ขั้นตอนการทำ Coolsculpting  

ควรใช้จำนวนกี่หนีบในการทำ Coolsculpting ?

จำนวนหนีบ CoolSculpting ที่ใช้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของพื้นที่ที่ต้องการกำจัดไขมัน

ปริมาณไขมันส่วนเกิน และผลลัพธ์ที่ต้องการ แต่โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะแนะนำจำนวนหนีบ CoolSculpting ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล

ตัวอย่างจำนวนหนีบ CoolSculpting  แต่ละบริเวณ

ทั้งนี้ การทำ CoolSculpting 1 หนีบ สามารถสลายไขมันได้ประมาณ 60-70 ซีซี

ทำ Coolsculpting กี่ครั้งเห็นผล ? 

ผลลัพธ์ของการทำ Coolsculpting อาจแตกต่างกันไป  ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังทำประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดหลังทำประมาณ 3 เดือน 

จำนวนครั้งในการทำ Coolsculpting ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่ต้องการกำจัดไขมัน ปริมาณไขมันส่วนเกิน และผลลัพธ์ที่ต้องการ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำจำนวนครั้งในการทำ Coolsculpting ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล 

ตัวอย่างจำนวนครั้งในการทำ Coolsculpting แต่ละบริเวณ

ทั้งนี้ การทำ  CoolSculpting 1 ครั้ง สามารถลดไขมันได้ประมาณ 20-30% 

การเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting 

สรุป 

CoolSculpting เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่สะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ต้องการกำจัดไขมันแบบไม่เจ็บตัว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ก่อนตัดสินใจทำควรปรึกษากับแพทย์เพื่อวางแผนให้เหมาะสม

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://vsquareclinic.co/coolsculpting/knowledge-about-coolsculpting/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯพบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด โฆษณา ประชาสัมพันธ์
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัลทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กรดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ตั้งกระทู้ใหม่