บริษัทจีนได้รับผลกระทบ จากการที่มะกันและสหภาพยุโรป คว่ำบาตรรัสเซีย
สื่อนอกรายงานว่า "มาตรการคว่ำบาตร ของอเมริกาและสหภาพยุโรป ที่ประกาศวานนี้ ต่อบุคคลและบริษัทหลายร้อยราย ที่สนับสนุนสงครามของรัสเซียในยูเครน ซึ่งรวมถึงบริษัทหลายแห่งจากประเทศจีนและฮ่องกง เนื่องจากจัดหาของให้กองทัพรัสเซีย นั่นเอง..."
การคว่ำบาตรของอเมริกา ยังมุ่งเป้าไปที่บุคคลและบริษัท ที่อยู่ในคาซัคสถาน ลิกเตนสไตน์ ตุรกี และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในขณะที่สหภาพยุโรป ยังกำหนดเป้าหมายบุคคลและหน่วยงาน ที่อยู่ในอินเดีย คาซัคสถาน เซอร์เบีย ศรีลังกา และ ตุรกี พวกเขายังรวมถึงการคว่ำบาตร เจ้าหน้าที่เรือนจำรัสเซีย จากการเสียชีวิตอย่างน่าสงสัย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในเรือนจำของผู้นำฝ่ายค้านรัสเซีย "อเล็กเซย์ นาวาลนี" นั่นเอง
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้ออกมาประณาม การคว่ำบาตรดังกล่าวว่า "การคว่ำบาตรดังกล่าว มันผิดกฎหมาย!!" และ "รัสเซียจะตอบโต้ด้วยการ ห้ามพลเมืองสหภาพยุโรป ไม่ให้เข้าประเทศรัสเซีย!!"
เจ้าหน้าที่จีนไม่ได้ตอบโต้การคว่ำบาตรในทันที แต่ในการบรรยายสรุปเป็นประจำ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ "เหมา หนิง" ของจีน ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการคว่ำบาตรว่า "จีนปฏิบัติตามจุดยืนที่เป็นกลางต่อวิกฤติยูเครน" และ "จีนจะทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ..."
เจ้าหน้าที่และสื่อยูเครนกล่าวว่า "บริษัทจีนจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ และ จัดหาเทคโนโลยีการใช้งาน 2 ทาง ซึ่งรวมถึงส่วนประกอบโดรน ให้กับกองทัพรัสเซีย นับตั้งแต่การรุกรานยูเครนเมื่อ 2 ปีก่อน"
อดีตผู้บัญญัติกฎหมายชาวยูเครน และ กรรมการผู้จัดการของสมาคมคลังสมองเฮนรี่แจ็คสัน "อลิโอนา ฮลิฟโก" ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า "การคว่ำบาตรบริษัทจีน อาจพิสูจน์ได้ว่ามีประโยชน์ ในการขัดขวางสงครามของรัสเซียกับยูเครน ในขณะนี้จีนกำลังพยายามที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก ดังนั้นการเสริมการปฏิบัติตามบรรทัดฐาน ระหว่างประเทศของจีน จึงอาจเป็นโอกาสที่เหมาะสม!!"
สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้า กลุ่มการค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของจีน รองจากสมาคมประชาชาติ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรมศุลกากรจีนกล่าวว่า "มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างจีน-สหภาพยุโรป อยู่ที่ 783 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 ซึ่งลดลง 7.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี"
การค้าระหว่างอเมริกาและจีนในปี 2023 ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 โดย 11% สู่ 664 พันล้านดอลลาร์ [ตามข้อมูลศุลกากร] กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า "อเมริกานำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก มากกว่าจีนเป็นครั้งแรก ในรอบ 20 ปี!!"