รสชาติเนื้อมนุษย์
มีคนว่ากันว่าเนื้อมนุษย์ถือว่าเป็นเนื้อแดง และมีรสชาติเหมือนกับเนื้อหมู แต่มีเหนียวแบบเนื้อวัว นี่คือสิ่งที่วิทยาศาสตร์ได้กล่าวไว้
1.ฮันนิบาล เล็คเตอร์
จนเมื่อภาพยนตร์ "The Silence of the Lambs" ออกฉายในช่วงต้นทศวรรษที่ 1991 นวนิยายเรื่องนี้ ก็ส่งผลทำให้ "ฮันนิบาล เล็คเตอร์" (Hannibal Lector) ฆาตกรตัวร้ายของนวนิยายเรื่องนี้โด่งดัง นับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย การกระทำต้องห้ามของการกินเนื้อมนุษย์ ก็ทำให้หลายคนสงสัย และคิดว่า "รสชาติของเนื้อมนุษย์เป็นอย่างไร ?"
The Silence of the Lambs (1991)
2.ชนเผ่ากินคน
โดย "วิลเลียม ซีบรู๊ก" (William Seabrook) เขาเป็นนักเขียนและนักข่าวชาวอเมริกัน ได้เดินทางไปยังแอฟริกาตะวันตก ในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1920 และเขาได้บันทึกรายละเอียดประสบการณ์ของเขากับชนเผ่ากินคน ภายหลังจากเดินทางออกจากแอฟริกา และได้ไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เขาก็ได้แวะไปยังโรงพยาบาลท้องถิ่น เพื่อซื้อเนื้อมนุษย์มาปรุงด้วยตัวเอง
William Seabrook_6918405
Mr. William Seabrook
3.รสชาติและรสสัมผัส
จากการบันทึกของเขา เขากล่าวว่า..
"เนื้อมนุษย์มันเหมือนเนื้อลูกวัวที่ดีที่โตเต็มวัย และมันก็ไม่เหมือนเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ผมเคยชิมเลย มันเกือบจะเหมือนกับเนื้อลูกวัวที่ดี เป็นเนื้ออ่อนๆที่คุณภาพดี ไม่มีรสชาติที่จัดจ้านหรือลักษณะพิเศษอื่นๆ แบบ เนื้อแพะและเนื้อหมู แต่มีความเหนียวกว่าเนื้อลูกวัวเล็กน้อย แต่ก็ไม่แข็งหรือเหนียวจนเกินไป"
จนสามารถรับประทานได้ เมื่อย่างและนำมาหั่นและกินมันจะนุ่ม ทั่งสี เนื้อสัมผัส กลิ่น และรสชาติ เหมือนบรรดาเนื้อสัตว์ทั้งหลายที่เรารู้จักกันเป็นประจำ ซึ่งเนื้อลูกวัวก็คล้ายกับเนื้อมนุษย์แบบนี้
4.รสชาติจากลิ้นฆาตกรเยอรมัน
ส่วนด้าน "อาร์มิน ไมเวส" (Armin Meiwes) ฆาตกรชาวเยอรมัน ซึ่งกินเนื้อมนุษย์เกือบ 40 ปอนด์ ซึ่งเป็นอาหารของเขาได้ให้สัมภาษณ์จากเรือนจำว่า "เนื้อมนุษย์มีรสชาติเหมือนเนื้อหมูดี แต่จะแข็งกว่าเล็กน้อยและมีรสขมกว่าเล็กน้อยMr. Armin Meiwes
5.รสชาติจากลิ้นฆาตกรญี่ปุ่น
ส่วนทาง "อิซเซ ซากาวะ" (Issei Sagawa) ซึ่งปัจจุบันได้ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระในโตเกียวแล้ว เขากล่าวว่าเขาใช้เวลา 2 วันกินเนื้อผู้หญิงวัย 25 ปี ที่เขาฆ่าตอนเป็นนักเรียนในปารีส รสชาติของเนื้อมนุษย์นั้น บั้นท้ายจะละลายบนลิ้นของเขาเหมือนเนื้อปลาทูน่าดิบ แต่ส่วนเนื้อที่โปรดของเขาก็คือช่วงต้นขา เขาบอกว่ามัน "วิเศษมาก" แต่อย่างไรก็ตามเขาบอกด้วยว่า เขาไม่ชอบเนื้อส่วนหน้าอกเพราะมันเลี่ยนมากเกินไป
Mr. Issei Sagawa
6.ฆาตกรต่อเนื่อง
"คาร์ล เด็นเคอ" (Karl Denke) ชาวเยอรมันเกิดที่ปรัสเซีย เป็นฆาตกรต่อเนื่องและกินเนื้อคน หรือ "ฟริตซ์ ฮาร์มันน์" (Fritz Haarmann) และ "คาร์ล กร็อสมัน" (Karl Grossmann) ชาวเยอรมันผู้ขายชิ้นส่วนเนื้อมนุษย์ที่เป็นเหยื่อ 40 ราย ที่ตลาดในหมู่บ้าน ก็เป็นที่รู้จักดีในนามคนขายเนื้อหมูของตนในตลาดมืดพร้อมกับฮอทดอกด้วยซ้ำ
Mr. Karl Denke
Mr' Fritz Haarmann_(1879-1925)
Mr. Karl Grossmann
7.ฆาตกรที่กินเพื่อนร่วมงาน
"อัลเฟิร์ด แพ็คเกอร์" (Alferd Packer) ที่สังหารสมาชิก 5 คนในคณะ ที่สำรวจเทือกเขาร็อกกี้ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1800 เมื่อเสบียงอาหารมีน้อย เขากล่าวว่ากล้ามเนื้ออกเป็นเนื้อที่หวานที่สุดที่เขาเคยลิ้มลอง
Mr. Alferd Packer
8.ฆาตกรหญิงชาวอียิปต์
"โอไมมา เนลสัน" (Omaima Nelson) ที่สังหาร และกินเนื้อสามีที่เป็นนักบินวัย 56 ปี ที่สามีใช้ความรุนแรงกับเธอในปี 1991 เธอกล่าวว่าซี่โครงของเขาหวานมาก นั่นอาจเป็นเพราะซอสบาร์บีคิวที่เธอจุ่มลงไป
Mrs. Omaima Nelson
9.ความจำเป็นในบางสถานการณ์
ถึงแม้การทานเนื้อมนุษย์จะเป็นสิ่งต้องห้ามเป็นสิ่งที่ผิด หากแต่ในประวัติศาสตร์ก็มีบางกรณีที่บางสถานการณ์ ที่การทานเนื้อมนุษย์ก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่น นักเดินเรือในอดีตเรียกการทานเนื้อมนุษย์ว่าเป็น "ประเพณีแห่งท้องทะเล" เพราะหากเสบียงอาหารนั้นกำลังจะหมด
หรือมีเหตุฉุกเฉินในทะเลโดยไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้ ลูกเรือก็จะจับสลากเพื่อพิจารณาว่าบุคคลใดจะต้องถูกฆ่า และกินก่อนเพื่อความอยู่รอด หรือบางครั้งก็อาจจะกินเนื้อคนที่ตายไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องจับสลาก มันเป็นประเพณีในการเดินทะเลที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ จนถึงช่วงปลายทศวรรษที่ 1800 เพราะว่ากะลาสีเรือมักจะไม่รู้ว่าจะได้เห็นแผ่นดินอีกครั้งเมื่อไหร่ หากสูญหายหรือเรือเกยตื้น
10.กินเนื้อมนุษย์เพื่อความอยู่รอด
อย่างกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางอากาศของ "กองทัพอากาศอุรุกวัย เที่ยวบิน 571" เมื่อปี 1972 สถานที่เกิดเหตุอยู่ห่างไกลมาก กว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะใช้เวลาค้นหาผู้รอดชีวิตก็ใช้เวลา 72 วัน โดยการกินเนื้อมนุษย์ทั้ง 29 ศพ เพื่อการอยู่รอดของคนทั้ง 16 คน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องตัดสินใจกินเนื้อผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งบางคนอาจจะเป็นเพื่อน, หรือเป็นเพื่อนร่วมงานในทีม จากอุบัติเหตุครั้งนั้นก็ยังคงตามหลอกหลอนผู้รอดชีวิตบางคน จนถึงขณะบางคนต้องเปลี่ยนจากเนื้อแช่แข็งของศพ ต้องทำให้กลายเป็นชิ้นเนื้อที่ตากแดดให้แห้งแทน เพื่อผู้รอดชีวิตจะได้ค่อยๆกินเนื้อเหล่านี้ เมื่อพวกเขามีความกล้าพอที่จะกินมัน
andes-plane-crash
ส่วนข้อกังวลด้านศีลธรรม การกินเนื้อมนุษย์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอย่างไรก็ตามหากคุณพบว่า ตัวเองมีเสบียงไม่เพียงพอ ขาดแคลนด้วยสถานการณ์ฉุกเฉิน และกำลังสิ้นหวังในการอยู่รอด อย่างน้อยคุณก็รู้แล้วว่า..เนื้อมนุษย์ก็อาจจะไม่ได้มีรสชาติแย่ที่สุดในโลกก็เป็นได้...ถ้ามันจำเป็นต้องกิน