ทำไมนักเตะอังกฤษถึงมีค่าตัวแพง!!

หลายปัจจัย ส่งผลให้นักเตะอังกฤษมีราคาตัวสูง

1. ค่าเงินปอนด์:

ค่าเงินปอนด์มีมูลค่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ยกตัวอย่าง ในปี 2023 1 ปอนด์อังกฤษ เท่ากับประมาณ 40 บาท

2. ความต้องการของตลาด:

สโมสรในพรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลสูงสุดของอังกฤษ มีเงินทุนหนา ต้องการคว้าแชมป์ จึงทุ่มเงินซื้อนักเตะที่มีฝีเท้าดี

3. จำนวนนักเตะ:

นักเตะอังกฤษที่มีฝีเท้าดีมีจำนวนจำกัด สโมสรจึงต้องแข่งขันกันซื้อตัว ผลักดันราคาให้สูงขึ้น

4. กฎ Homegrown:

พรีเมียร์ลีกมีกฎ Homegrown กำหนดให้สโมสรมีนักเตะที่ผ่านระบบอะคาเดมี่ในอังกฤษ

5. สื่อ:

สื่ออังกฤษให้ความสนใจกับนักเตะอังกฤษ

ตัวอย่างนักเตะอังกฤษที่มีค่าตัวแพง:

• แจ็ค กรีลิช ย้ายจากแอสตันวิลลาไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์
• แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ย้ายจากเลสเตอร์ ซิตี้ไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์
• ราฮีม สเตอร์ลิง ย้ายจากลิเวอร์พูลไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม นักเตะอังกฤษบางคนก็มีราคาตัวที่ไม่แพง ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

• ฝีเท้า: นักเตะที่มีฝีเท้าดี ประสบการณ์สูง ย่อมมีราคาตัวแพงกว่านักเตะที่มีฝีเท้าปานกลาง
• อายุ: นักเตะที่มีอายุน้อย ย่อมมีราคาตัวแพงกว่านักเตะที่มีอายุมาก
• ความต้องการของตลาด: นักเตะที่เล่นในตำแหน่งที่ต้องการ ย่อมมีราคาตัวแพงกว่านักเตะที่เล่นในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ

ตัวอย่างนักเตะอังกฤษที่มีค่าตัวไม่แพง:

• จู๊ด เบลลิงแฮม ย้ายจากเบอร์มิงแฮม ซิตี้ไปโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์
• ฟิล โฟเด้น ผ่านระบบอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
• เมสัน เมาน์ท ผ่านระบบอะคาเดมี่ของเชลซี

สรุป:

• นักเตะอังกฤษมีค่าตัวแพง
• มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา
• นักเตะที่มีฝีเท้าดี ประสบการณ์สูง อายุน้อย เล่นในตำแหน่งที่ต้องการ ย่อมมีราคาตัวแพง