ช่วยแผ่นดินไหวเนปาล1:เกือบไม่ได้ไป
“ตั๋วเครื่องบินนี้ใช้ไม่ได้ค่ะ เดินทางไม่ได้ค่ะ ยังไงก็บินไม่ได้ค่ะ!!” นั่นคือช็อกแรกของพวกเรา หลังจากที่ผู้นำทริปพาน้องศิลปินทั้งสาม พร้อมแบ๊คแพ็คใบยักษ์ประจำองค์มารอเชคอินสายการบินหนึ่ง จากกรุงเทพ-มุมไบ อินเดีย-กาฐมาณฑุ เนปาล เจ้าหน้าที่ยืนยันเสียงแข็งสีหน้าเรียบมากๆ ด้วยประโยคดังกล่าว....เรื่องมีอยู่ว่าเราจองตั๋วผ่าน website หนึ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายของสายการบิน ต่อมาก่อนเดินทางประมาณสองอาทิตย์ สายการบินเปลี่ยนเส้นทางไปแวะที่นิวเดลลีก่อนถึงกาฐมาณฑุ นั่นแสดงว่าเราต้องใช้วีซ่าอินเดีย! ซึ่งไม่ได้รับการแจ้งข้อมูลเรื่องวีซ่าใดๆจากทาง website นั้นหรือสายการบินเลย ทั้งๆที่เป็นข้อมูลสำคัญมากขนาดนี้ เจ้าหน้าที่พูดเพียงว่า “ผู้โดยสารต้องทราบเองค่ะ!” แล้วคนที่เปลี่ยนเส้นทางเป็นสอง port ในประเทศที่ทำให้ต้องใช้วีซ่าก็คือสายการบินเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับผู้โดยสาร แต่ผู้โดยสารเป็นคนจ่ายตังค์!....ตอนนั้นในหัวรู้ว่ามันไม่ถูก เราไม่ผิด และยังไงก็ต้องไปให้ได้ ยังไงก็ต้องไปให้ได้...
กลับมานั่งหน้าจ๋อยกันทั้งหมด 4 ชีวิต มองหน้าเศร้าๆของกันและกันไปมา สติตอนนั้นที่มีอยู่คือต้องไปเนปาลให้ได้ เลยเดินหาตั๋วใหม่ที่เคาท์เตอร์สายการบินอื่นๆอย่างงงๆ... “พี่กลับมาก่อนค่ะ น้องมาถึงสุวรรณภูมิแล้วค่ะ” เสียงเพื่อนรุ่นน้องท่านหนึ่งส่งมาทางสายโทรศัพท์ ซึ่งนัดแนะกันตั้งแต่ก่อนเดินทางว่าจะมาส่ง เพราะน้องเค้าก็รู้จักกับน้องศิลปินทั้งสามเป็นอย่างดี
ถ้าไม่เรียกว่าพระมีตาหรือพวกเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มหัวอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว...เพื่อนร่วมงานของน้องท่านดังกล่าวติดรถมาด้วยนั้น เป็นคนที่เป็นยิ่งกว่านางฟ้ามาโปรดพวกเราให้ได้ไปเนปาลได้สำเร็จ เพราะเพื่อนน้องทำงานด้านการร้องเรียนสิทธิผู้บริโภค!! ตรงเผง..หลังจากเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้น้องทั้งสองฟังจนถี่ถ้วนแล้ว ที่เคาท์เตอร์ supervisor ของสายการบิน ก็ได้ยินแต่เสียงหนึ่งชี้แจงร้องเรียนแบบสุภาพ.. “ทางเราไม่ใช่ฝ่ายผิด คุณมาเปลี่ยนเส้นทางเอง...ไม่ได้รับการแจ้ง การจัดการ..คุณทำธุรกิจกับตัวแทนคุณอย่างไร ตกลงทางสายการบินหรือตัวแทนจำหน่ายตั๋วที่ต้องแจ้งผู้โดยสาร คุณทำธุรกิจแบบนี้เหรอคะ? เราไม่รู้ เราไม่รู้ เรื่องวีซ่า เราไม่รู้ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็แย่ซิคะ.....นี่ค่ะ ตั๋ว นี่ค่ะเมลแจ้งขอเปลี่ยนเส้นทาง แต่ไม่มี notice ใดๆเรื่องวีซ่า...เราไม่เอาเงินชดเชย เราจะไป จะเดินทางเร็วที่สุด เราเสียหายนะคะ....” เพื่อนน้องพูดดีมาก น้ำเสียงสุภาพ มีความรู้และมีประสบการณ์ จิตวิทยาดีมาก ซึ่งเราเองก็โชคดีด้วยที่คุณ supervisor เค้าคุยด้วยดีมากและเข้าใจ การเจรจาถามตอบกันดำเนินไปสักพักใหญ่ๆ
ท้ายสุดสายการบินก็ยอมรับผิด ยอมจัดการในสิ่งที่เราขอไป ด้วยเที่ยวบินวันรุ่งขึ้นตอนเช้าบินตรงจากกรุงเทพฯถึงกาฐมาณฑุประมาณเที่ยงวัน (ถึงเร็วกว่าตั๋วเดิม) ด้วย “การบินไทย!” (พร้อมบัตรอาหารมูลค่า 300 บาทคนละใบ)
เรื่องพลิกผันกลับเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่อ...(ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงน้องศิลปินเปรยๆว่า “อยากขึ้นการบินไทยจัง!”) ตรงนี้อยากเล่าเยอะและละเอียดหน่อย เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์และเป็นวิทยาทานในการเลือกซื้อตั๋วเครื่องบินถูกๆตาม website ตัวแทนต่างๆ และเกี่ยวกับการทำงานของสายการบิน ขอไม่ออกความเห็นเรื่องสายการบินนี้ แต่ขอเล่าข้ามไปถึงเที่ยวบินกลับนิดนึงว่า ได้รับเมลแจ้งก่อนเดินทางกลับสองวันว่าจะแวะที่เมืองพาราณาสีเพิ่มอีกเมืองจากมุมไบตามที่แจ้งไว้แต่แรก....อีกแล้ว แต่โชคดีที่ที่พาราณาสีไม่ต้องลงจากเครื่อง ไม่งั้นสงสัยต้องใช้บริการเพื่อนน้องผู้เป็นนางฟ้ามาโปรดอีกรอบแน่ ๆ
เริ่มยิ้มกันออกแล้ว และยิ้มแก้มปริพร้อมพุงกางด้วยการยกขบวนมาใช้สิทธิ์ตั๋วอาหารฟรีที่ร้านเบอร์เกอร์ชั้นล่าง จัดแจงรีบโทรแจ้งเพื่อนเนปาลีที่จะมารอรับที่สนามบินเนปาลในวันรุ่งขึ้น...แล้วก็กิน เม้าท์มอย หัวเราะ...ลั่นไปทั้งสุวรรณภูมิ! ถ่ายรูปกับนางฟ้าของทริปเราเป็นที่ระลึกหลังจากระทึกมาเกือบชั่วโมง คุยๆกันอย่างสนุกสนานและโล่งใจสบายอุราเป็นที่สุด แม้ว่าเราทั้ง 4 ต้องหาโรงแรมพักคืนนึงเพื่อรอเดินทางตอนเช้าตรู่ในวันถัดไปก็ตาม ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยคุณเพื่อนรุ่นน้องท่านเดิม......
การบินไทย กรุงเทพฯ....สู่กาฐมาณฑุ เนปาลที่ ทำให้ทุกคนร่วมกันลงความเห็นว่าสายการบินประจำชาติของเราเป็นสายการบินที่ดีที่สุดสายการบินหนึ่ง ที่บินเข้าสู่ประเทศเนปาลเลยทีเดียว ภาพแรกของกาฐมาณฑุดูเหมือนไม่ค่อยแตกต่างจากทุกๆครั้งที่มาเยือนสำหรับผู้เขียน ชอบจริงๆ ที่ต้องเดินลงบันไดลงจากลำเครื่องบินและเดินเท้าเข้าอาคารผู้โดยสารของสนามบินเอง มันเป็นความรู้สึกบ้านๆ เดิมๆ ง่ายๆ กันเองๆ อย่างหนึ่ง ว่ามาถึงบ้านหลังนี้แล้ว ไม่ต้องพิธีรีตองเริดหรูอะไรมากมาย...สูดอากาศเนปาลเย็นๆแรกอย่างเต็มปอดพร้อมบอกตัวเองว่า... “มาถึงแล้ว มาถึงจนได้” อินกับบรรยากาศโดยรอบได้ไม่นาน ตั้งสติได้ ก็รีบบอกตัวเองว่าคราวนี้ไม่ได้มาคนเดียวนะ “มีลิงมาด้วยอีกสามตัว” เกือบลืมเลย...ส่วนตัวแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานก็ต้องปรับตัวพอสมควรกับการเดินทางเป็นกลุ่ม ที่ต้องคอยกัน มองกัน รอกัน ช่วยกัน ดูแลกัน แต่ก็รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยกว่าทุกครั้งที่เราได้อยู่...ด้วยกัน
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
รู้มั๊ยว่าใครใหญ่! เข้าห้องน้ำชายวัดใจ..เดี๋ยวก็ได้รู้เอง
คอหวยขอโชค วิหารร้างอายุกว่า 100 ปี ไม่ผิดหวังได้ “เลขเด็ด” ลุ้นโชครับปีใหม่
สรุปเผยข้อมูลกลโกงใหม่ๆที่ต้องระวัง!!!
คุก 2 ปี "แอน จักรวาล" ไม่รอลงอาญา
รายละเอียดเงื่อนไข 5 ประการ ที่กัมพูชาและไทยเห็นพ้องร่วมกัน ในการประชุมที่ประเทศจีน
วันนี้!! ทหารไทยเหยียบระเบิดขาขาดอีกแล้ว!!
ช็อกการเมือง! ทลายเครือข่ายฟอกเงิน พบผู้สมัคร สส. มีเอี่ยว
นายกเขมรยัน "การหยุดยิงไม่ได้หมายถึงการยอมแพ้"
รีวิวหนังดัง TRUE GRIT ยอดคนจริง
“ฆๅตกรเด็กวัด ลากศwใส่กระเป๋าเผากลางดึก ลบชีวิตปลิดชีพกะlทย
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
ช็อกการเมือง! ทลายเครือข่ายฟอกเงิน พบผู้สมัคร สส. มีเอี่ยว
“ฆๅตกรเด็กวัด ลากศwใส่กระเป๋าเผากลางดึก ลบชีวิตปลิดชีพกะlทย
รีวิวหนังดัง TRUE GRIT ยอดคนจริง
วันนี้!! ทหารไทยเหยียบระเบิดขาขาดอีกแล้ว!!
เทคโนโลยีในสงคราม!!! เมื่อ AI ถูกนำมาใช้ช่วยเหลือในสงครามรัสเซีย-ยูเครน





