พี่เขยหื่น ปืนขู่บังคับขืนใจ-แอบถ่าย ขู่ประจานนางแบบสาว
วันที่ 29 ม.ค.2567 ที่สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี นางแบบสาว ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพี่เขยหื่น ที่ก่อเหตุข่มขู่บังคับขืนใจน.ส.เอ โดยมีอาวุธปืน ถ่ายคลิปแบล็คเมล์ บังคับอมนกเขา และให้มีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ยินยอมจะนำคลิปไปเผยแพร่
น.ส.เอถูกกระทำมา รวมทั้งหมด 3 ครั้ง กระทั่งมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จนถึงขั้นเคยคิดจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา ได้ตัดสินใจที่จะเข้าขอความช่วยเหลือจากนายษิทราเพราะทนพฤติกรรมที่ถูกบังคับต่างๆไม่ไหว อีกทั้งเมื่อเล่าให้ทางบ้านฟังก็กลายเป็นปัญหาครอบครัว
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ตอนที่น.ส.เอ อายุประมาณ 25 ปี ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของแม่ โดยมีแม่ของน.ส.เอ ลูกของน.ส.เอ และหลานๆ ซึ่งเป็นลูกของพี่สาว ในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พี่สาวกับพี่เขย ไปอยู่บ้านอีกหลัง เพื่อทำงานส่งเงินมาเป็นค่าเลี้ยงดูแม่กับลูก อีก 3 คน ซึ่งพี่เขยมักจะมีข้ออ้างมาหาลูก แล้วก็เคยที่จะพยายามงัดห้องเข้ามาหาน.ส.เอ
ต่อมาพี่เขยได้ถูกจับในข้อหายาเสพติด หลังจากที่พี่เขยพ้นคุกออกมาแล้ว ก็ได้กลับมาลงมือก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราน.ส.เอ โดยครั้งแรกได้พาลูกของน.ส.เอไปไว้ที่บ้านของพี่เขย จากนั้นก็มาฉุดน.ส.เอไปขึ้นรถ โดยบอกว่าจะพาไปรับลูก สุดท้ายพี่เขยบังคับพาเข้าไปข่มขืนในโรงแรมทั้งหมด 3 ครั้ง
หลังเกิดเหตุ ได้แต่เก็บเงียบไม่กล้าบอกใคร ทนอยู่กับความทุกข์ใจมาตลอด เกรงว่าพี่เขยจะมาทำร้าย แต่พี่เขยก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมที่จะพยายามข่มขืน โดยมีการพูดจา แชทไลน์ และข้อความเฟซบุ๊กบังคับข่มขู่และจะเอาคลิปที่แอบอัดไว้ไปเปิดเผยให้คนอื่นรับรู้ น.ส.เอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องให้คนที่บ้านฟังจนกลายเป็นปัญหาครอบครัว เพราะพี่สาวไม่เชื่อ
ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ที่จะฟ้องร้องกล่าวโทษต่อผู้กระทำความผิด