8 ประเทศที่มีพระอาทิตย์เที่ยงคืน
โลกของเรามีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มหัศจรรย์มากมาย หนึ่งในนั้นคือปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อโลกเอียงแกนเข้าหาดวงอาทิตย์ ส่งผลให้ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่ของโลก แต่จะเกิดขึ้นนานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่แถบขั้วโลกเหนือ
ประเทศที่ไม่มีกลางคืนส่วนใหญ่อยู่ในแถบขั้วโลกเหนือ บริเวณที่อยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ซึ่งเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลเป็นเส้นละติจูดที่ลากผ่านจุดที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นเหนือขอบฟ้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ และตกใต้ขอบฟ้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในช่วงเหมายันของซีกโลกเหนือ
ประเทศที่ไม่มีกลางคืนในแถบขั้วโลกเหนือ ได้แก่
1. ประเทศนอร์เวย์
พื้นที่ของนอร์เวย์ที่ไม่มีกลางคืน ได้แก่ บริเวณทางตอนเหนือสุดของนอร์เวย์ บริเวณนี้ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล โดยดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 73 วันในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
เมืองที่ไม่มีกลางคืนในนอร์เวย์ ได้แก่
- เมืองทรอมโซ (Tromsø) เมืองหลวงของเขตฟินมาร์ก ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 21 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองสวาลบาร์ด (Svalbard) หมู่เกาะที่อยู่ทางเหนือของนอร์เวย์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองนาอโรย (Narvik) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของนอร์เวย์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
นอกจากบริเวณทางตอนเหนือสุดของนอร์เวย์แล้ว พื้นที่อื่นๆ ของนอร์เวย์ที่อาจเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ได้แก่ บริเวณทางตอนเหนือของนอร์เวย์ บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ และบริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ แต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเกิดขึ้นได้นานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่บริเวณทางตอนเหนือสุดของนอร์เวย์
โดยเมืองสวาลบาร์ด หมู่เกาะที่อยู่ทางเหนือของนอร์เวย์และใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน" เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ดวงอาทิตย์จะยังคงส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาในช่วงฤดูร้อนของนอร์เวย์ ทำให้เมืองสวาลบาร์ดกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน
2. ประเทศสวีเดน
พื้นที่ของสวีเดนที่ไม่มีกลางคืน ได้แก่ บริเวณทางตอนเหนือสุดของสวีเดน บริเวณนี้ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล โดยดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 73 วันในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
เมืองที่ไม่มีกลางคืนในสวีเดน ได้แก่
- เมืองคิรุนา (Kiruna) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของสวีเดน ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองลัปแลนด์ (Lapland) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสวีเดน ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองอาบีสก (Abisko) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสวีเดน ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
นอกจากบริเวณทางตอนเหนือสุดของสวีเดนแล้ว พื้นที่อื่นๆ ของสวีเดนที่อาจเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ได้แก่ บริเวณทางเหนือของสวีเดน บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของสวีเดน และบริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของสวีเดน แต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเกิดขึ้นได้นานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่บริเวณทางตอนเหนือสุดของสวีเดน
โดยเมืองคิรุนา เมืองหลวงของเขตนอร์ทบอร์เลนด์ ทางตอนเหนือสุดของสวีเดน ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน" เนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลและใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด ในช่วงฤดูร้อนของสวีเดน ดวงอาทิตย์จะยังคงส่องสว่างอยู่ตลอดเวลา ทำให้เมืองคิรุนากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน
3. ประเทศฟินแลนด์
พื้นที่ของฟินแลนด์ที่ไม่มีกลางคืน ได้แก่ บริเวณทางตอนเหนือสุดของฟินแลนด์ บริเวณนี้ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล โดยดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 73 วันในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
เมืองที่ไม่มีกลางคืนในฟินแลนด์ ได้แก่
- เมืองอินาริ (Inari) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของฟินแลนด์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองโซดาคา (Sodankylä) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) เมืองหลวงของเขตลาปแลนด์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
นอกจากบริเวณทางตอนเหนือสุดของฟินแลนด์แล้ว พื้นที่อื่นๆ ของฟินแลนด์ที่อาจเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ได้แก่ บริเวณทางตอนเหนือของฟินแลนด์ บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของฟินแลนด์ และบริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟินแลนด์ แต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเกิดขึ้นได้นานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่บริเวณทางตอนเหนือสุดของฟินแลนด์
โดยเมืองโรวาเนียมิ เมืองหลวงของเขตลาปแลนด์ ฟินแลนด์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งซานตาคลอส" เนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของฟินแลนด์และใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด ในช่วงฤดูร้อนของฟินแลนด์ ดวงอาทิตย์จะยังคงส่องสว่างอยู่ตลอดเวลา ทำให้เมืองโรวาเนียมิกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน
4. ประเทศรัสเซีย
พื้นที่ของรัสเซียที่ไม่มีกลางคืน ได้แก่ บริเวณที่อยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของรัสเซียทั้งหมด บริเวณเหนือสุดของรัสเซีย ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 73 วันในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
พื้นที่ที่ไม่มีกลางคืนในรัสเซีย ได้แก่
- เมืองมูร์มันสก์ (Murmansk) เมืองหลวงของเขตมูร์มันสก์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 21 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองโนรีลสก์ (Norilsk) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัสเซีย ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองอาร์ขังเกลสก์ (Arkhangelsk) เมืองหลวงของเขตอาร์ขังเกลสก์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 21 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
นอกจากบริเวณที่อยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลแล้ว พื้นที่อื่นๆ ของรัสเซียที่อาจเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ได้แก่ บริเวณทางตะวันออกของรัสเซีย บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย และบริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซีย แต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเกิดขึ้นได้นานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่บริเวณทางตอนเหนือของรัสเซีย
5. ประเทศไอซ์แลนด์
พื้นที่ของไอซ์แลนด์ที่ไม่มีกลางคืน ได้แก่ บริเวณทางตอนเหนือของเกาะไอซ์แลนด์ บริเวณนี้ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล โดยดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 21 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
เมืองที่ไม่มีกลางคืนในไอซ์แลนด์ ได้แก่
- เมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) เมืองที่ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะไอซ์แลนด์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 21 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองอีซาฟยอร์ดูร์ (Isafjordur) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะไอซ์แลนด์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 21 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
นอกจากบริเวณทางตอนเหนือของเกาะไอซ์แลนด์แล้ว พื้นที่อื่นๆ ของไอซ์แลนด์ที่อาจเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ได้แก่ บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ บริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ และบริเวณทางใต้ของเกาะ แต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเกิดขึ้นได้นานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่บริเวณทางตอนเหนือของเกาะ
6. ประเทศกรีนแลนด์
พื้นที่ของกรีนแลนด์ที่ไม่มีกลางคืน ได้แก่ บริเวณเหนือสุดของเกาะกรีนแลนด์ บริเวณนี้ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล โดยดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 73 วันในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
เมืองที่ไม่มีกลางคืนในกรีนแลนด์ ได้แก่
- เมืองอิลูลิสแซท (Ilulissat) เมืองหลวงของเขตนูโออาร์บูท ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองนุก (Nuuk) เมืองหลวงของกรีนแลนด์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองแคงเกอร์ลุสซัก (Kangerlussuaq) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรีนแลนด์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 73 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
นอกจากบริเวณเหนือสุดของเกาะกรีนแลนด์แล้ว พื้นที่อื่นๆ ของกรีนแลนด์ที่อาจเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ได้แก่ บริเวณทางตอนเหนือของเกาะ บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ และบริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ แต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเกิดขึ้นได้นานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่บริเวณเหนือสุดของเกาะ
7. ประเทศแคนาดา
พื้นที่ของแคนนาดาที่ไม่มีกลางคืน ได้แก่ รัฐยูคอน รัฐนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ และรัฐนูนาวุต รัฐเหล่านี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของทวีปอเมริกาเหนือ บริเวณเหนือสุดของรัฐเหล่านี้ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 51 วันในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
พื้นที่ที่ไม่มีกลางคืนในแคนาดา ได้แก่
- เมือง Whitehorse (Yukon) เมืองหลวงของรัฐยูคอน ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 21 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมือง Iqaluit (Nunavut) เมืองหลวงของรัฐนูนาวุต ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 51 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมือง Yellowknife (Northwest Territories) เมืองหลวงของรัฐนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 51 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
นอกจากรัฐยูคอน รัฐนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ และรัฐนูนาวุตแล้ว พื้นที่อื่นๆ ของแคนาดาที่อาจเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ได้แก่ รัฐออนแทริโอ รัฐแมนิโทบา รัฐซัสแคตเชวัน และรัฐนิวบรันสวิก แต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเกิดขึ้นได้นานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่รัฐยูคอน รัฐนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ และรัฐนูนาวุต
8. ประเทศสหรัฐอเมริกา
พื้นที่ของสหรัฐอเมริกาที่ไม่มีกลางคืน ได้แก่ รัฐอะแลสกา รัฐอลาสก้าตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของทวีปอเมริกาเหนือ บริเวณเหนือสุดของรัฐอะแลสกา ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 51 วันในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ พื้นที่ที่ไม่มีกลางคืนในรัฐอะแลสกา ได้แก่
- เมืองแองเคอเรจ (Anchorage) เมืองหลวงของรัฐอะแลสกา ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 21 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองฟอร์ต ยูคอน (Fort Yukon) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐอะแลสกา ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 51 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
- เมืองบาร์โรว์ (Barrow) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของรัฐอะแลสกา ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลา 51 ชั่วโมงในช่วงครีษมายันของซีกโลกเหนือ
นอกจากรัฐอะแลสกาแล้ว พื้นที่อื่นๆ ของสหรัฐอเมริกาที่อาจเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ได้แก่ รัฐอลาสกา รัฐมอนแทนา รัฐไวโอมิง รัฐนอร์ทดาโคตา รัฐเซาท์ดาโคตา รัฐมินนิโซตา และรัฐมิชิแกน แต่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจะเกิดขึ้นได้นานและบ่อยครั้งที่สุดในพื้นที่รัฐอะแลสกา
โดยประเทศนอร์เวย์ได้รับสมญานามว่าเป็น "ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน" เนื่องจากมีช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เที่ยงคืนนานที่สุดในโลก บริเวณเหนือสุดของประเทศนอร์เวย์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 73 วัน
ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ ผู้คนจากทั่วโลกต่างเดินทางเข้ามาชมปรากฏการณ์นี้ในช่วงฤดูร้อน กิจกรรมที่น่าสนใจที่สามารถทำได้ในช่วงที่ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนเกิดขึ้น ได้แก่
- เดินป่าชมธรรมชาติ เนื่องจากดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าจึงสามารถเดินป่าชมธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน
- ตกปลา ดวงอาทิตย์ที่ยังคงส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถตกปลาได้ตลอดทั้งวัน
- ชมพระอาทิตย์ตกในยามเช้า เนื่องจากดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าจึงสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ในตอนเช้า
ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนเป็นประสบการณ์ที่หาชมได้ยาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ
อ้างอิงจาก:
เว็บไซต์ "Wikipedia" บทความ "Midnight sun"
เว็บไซต์ "The World Atlas" บทความ "Midnight Sun"
เว็บไซต์ "National Geographic" บทความ "The Midnight Sun: A Natural Wonder of the Arctic"