ฤกษ์ดีตามหลักศาสนาพุทธ
ในสังคมไทย ผู้คนมักให้ความสำคัญกับฤกษ์ยามในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นกิจการ การแต่งงาน การบวช การย้ายบ้าน ฯลฯ ความเชื่อเกี่ยวกับฤกษ์ยามนั้นมีหลายแขนง หนึ่งในนั้นคือความเชื่อเกี่ยวกับฤกษ์ดีในศาสนาพุทธ
ในศาสนาพุทธ ฤกษ์ดีหรือมงคลฤกษ์ หมายถึง ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการประกอบกิจกรรมต่างๆ เช่น การประกอบพิธีกรรมทางศาสนา การเริ่มต้นกิจการ การแต่งงาน การทำบุญ เป็นต้น ฤกษ์ดีมักพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น วัน เวลา สถานที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ฤกษ์ดีไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับการกระทำที่ถูกต้องดีงาม หากการกระทำนั้นถูกต้องดีงามแล้ว ไม่ว่ากระทำในเวลาใด ย่อมส่งผลดีเสมอ
พุทธพจน์ที่กล่าวถึงฤกษ์ดี มีดังนี้
- “สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้น ชื่อว่าเป็นฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี และบูชาดี ในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย”
- “สัตว์ทั้งหลายประพฤติชั่วในเวลาใด เวลานั้น ชื่อว่าเป็นฤกษ์ชั่ว ยามชั่ว มงคลชั่ว สว่างชั่ว รุ่งชั่ว และบูชาชั่ว ในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย”
จากพุทธพจน์ดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ฤกษ์ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับกาลเวลา แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำที่ถูกต้องดีงามของบุคคลนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม ฤกษ์ดีก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างกำลังใจและสร้างความมั่นใจให้กับบุคคลที่กำลังประกอบกิจกรรมต่างๆ ได้ ดังนั้น การเลือกฤกษ์ดีที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาประกอบกัน
นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับฤกษ์ยามอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ฤกษ์ยามในการตั้งชื่อ ฤกษ์ยามในการดูดวงชะตา ฤกษ์ยามในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นต้น ความเชื่อเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นและวัฒนธรรม
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเกี่ยวกับฤกษ์ยามนั้นเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าการกระทำใดๆ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ หากยึดติดกับความเชื่อเหล่านี้มากเกินไป อาจทำให้เสียโอกาสดีๆ ไป หรืออาจทำให้เกิดความเครียดกังวลใจได้
ดังนั้น การเลือกฤกษ์ยามในการประกอบกิจกรรมต่างๆ จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้าน รวมถึงควรยึดมั่นในการกระทำที่ถูกต้องดีงามเป็นหลัก เชื่อว่าย่อมนำไปสู่ความสำเร็จและความสุขอย่างแน่นอน