สาวขอเป็นเจ้าภาพกฐิน! เงินล้านถวายวัด กลับโพสต์โซเชียลเรี่ยไรเงิน เจ้าอาวาสรอเก้อ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่วัดเกตุประภา ม.9 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นั้น หญิงสาวรายหนึ่งได้ขอเป็นเจ้าภาพกฐิน โดยอ้างว่าจะนำเงินมาถวาย 1 ล้านบาท แต่พอถึงวันงานกลับไม่มีเงินมาถวาย ซ้ำยังไปแจ้งความหาว่าทางวัดใส่ร้ายว่าทางหญิงดังกล่าวอมเงินกฐิน
หญิงสาวรายดังกล่าวชื่อ น.ส.ณัฏฐกรณ์ ได้ติดต่อขอเป็นเจ้าภาพกฐินกับทางวัดตั้งแต่ช่วงเข้าพรรษา โดยบอกว่าหากมีจะมอบเงินให้ 1 ล้านบาท ต่อมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ณัฏฐกรณ์ ได้เข้ามาที่วัดอีกครั้งบอกว่าเงินยังไม่มีเลย จึงมีการคุยกันโดยมีการเรียกพระและกรรมการมาพูดคุยกันว่ามีมั้ย หากไม่มีต้องหามาให้ได้ เพราะวันที่ 26 พฤศจิกายน เป็นวันงานกฐินแล้ว
กระทั่งวันงานกฐิน น.ส.ณัฏฐกรณ์ ได้เดินทางมาร่วมงานกับทางวัดและบอกว่ายังไม่มีเงินเลย โดยทางวัดบอกว่าให้คุยกับพระและกรรมการก่อน โดยเวลาทอดกฐินก็ไม่มีเงินมาเลย มีกันมา 3 คน โดยพระจึงบอกกันว่า ถ้าเป็นแบบนั้นให้เป็นกฐินสามัคคีไป
พอถึงเวลาทอดกฐิน พระไม่ได้อุปโลกน์ว่าใครเป็นเจ้าภาพ อุปโลกน์ว่าผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ โดยเจ้าตัวไม่มีเงินมาตนเองจะให้กล่าวได้อย่างไร ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้มีการโทรศัพท์ไปหาก็ไม่รับสายเลย โดยเย็นวันทอดกฐินยังรับสายอยู่ โดยกรรมการได้โทรไปหาเพื่อให้มาตกลงกันโดยตกลงไปตกลงมาโดยเจ้าตัวบอกว่าวันที่ 1 ธันวาคม 2566 จะนำเงินมาให้แต่ก็ไม่มา
มีลูกศิษย์วัดเปิดเจอในเฟซบุ๊กว่า น.ส.ณัฏฐกรณ์มีการเปิดเฟซบุ๊กชักชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญโดยมีคนโอนเงินจำนวนมาก ก่อนที่เฟซบุ๊กนั้นจะปิดไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางวัดเกตุประภาจึงเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจสภ.ลำลูกกาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ว่าทางวัดได้มีการจัดเตรียมงานและลงทุนไปหลายอย่างค่าใช้จ่ายเกือบสองแสนบาท เพื่อรับกฐินแต่พอถึงเวลาน.ส.ณัฏฐกรณ์ ที่อ้างว่าจะนำเงินมาถวาย 1 ล้านบาท เพื่อขอเป็นเจ้าภาพกฐินแต่พอถึงวันงานกลับไม่มีเงินมาถวาย แถมยังมีการเปิดเฟซบุ๊กเพื่อรับบริจาคซึ่งแสดงถึงเจตนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อผิดสัญญา
ทางวัดไม่สามารถแจ้งความได้เรื่องที่ น.ส.ณัฏฐกรณ์ไปเรี่ยไรเพื่อนำเงินมาถวายกฐิน
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแพ่ง ทางวัดจะต้องเรียกหญิงสาวคนดังกล่าวมาเจรจาไกล่เกลี่ย หากเจรจาไม่สำเร็จ ทางวัดสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้
เหตุการณ์นี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสงฆ์เป็นอย่างมาก และถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับวัดอื่นๆ ในการคัดเลือกบุคคลมาเป็นเจ้าภาพกฐิน ควรตรวจสอบประวัติและวัตถุประสงค์ของผู้ขอเป็นเจ้าภาพอย่างรอบคอบ